อินเทล™ ซีออน™ โปรเซสเซอร์ สูตรสำเร็จเพื่องานสำคัญสำหรับธุรกิจ

อินเทล™ ซีออน™ โปรเซสเซอร์ ตระกูล E7 มาพร้อมประสิทธิภาพที่เหนือชั้นกว่ารุ่นเดิม
ด้วยระบบความปลอดภัยใหม่ มั่นใจได้มากขึ้น และคุณสมบัติด้านพลังงานที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ

ประเด็นข่าว

- อินเทล™ ซีออน™ โปรเซสเซอร์ ตระกูล E7 ใหม่มาพร้อมกับมาตรฐานเหนือระดับ ทั้งด้านความน่าเชื่อถือ ระบบความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ที่จะช่วยให้ผู้จัดการฝ่ายไอทีสามารถตอบโจทย์การประมวลผลในส่วนงานที่สำคัญ ของธุรกิจได้
- ด้วยสองคุณสมบัติใหม่ด้านความปลอดภัย ช่วยให้มั่นใจได้ถึงระดับความถูกต้องของข้อมูลและการทำงานของระบบอย่างสูงสุด
- รองรับการทำงานสูงสุดถึง 10 คอร์ จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้มากกว่าเดิมจนถึงร้อยละ 401 เมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์ในรุ่นที่แล้ว รวมถึงระบบการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพซึ่งมาพร้อมกับคุณสมบัติที่สามารถ ปรับการใช้พลังงานได้ตามการทำงาน
- เป็นระบบที่พัฒนาขึ้นภายใต้คำมั่นสัญญาที่อินเทลเคยให้ไว้สำหรับระบบการ ประมวลผลข้อมูลที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สูงขึ้นจากระบบเดิมที่มีอยู่

กรุงเทพฯ 7 เมษายน 2554 – ด้วยคุณสมบัติใหม่ด้านความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของระบบที่จะช่วยให้ ฝ่ายไอทีสามารถจัดการสภาพแวดล้อมของระบบได้ดีมากขึ้น ล่าสุด อินเทล คอร์เปอร์เรชั่น ได้เปิดตัวโปรเซสเซอร์สำหรับเซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำ งานสำหรับการประมวลผลข้อมูลที่มีสำคัญในระดับ Mission Critical ในชื่อรุ่น อินเทล™ ซีออน ™โปรเซสเซอร์ ตระกลู E7-8800/4800/2800 ซึ่งได้รับการพัฒนามาจากโปรเซสเซอร์สำหรับเซิร์ฟเวอร์อินเทลในรุ่นเดิม เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นที่มีความสำคัญต่อ ธุรกิจในระดับไฮเอนด์ รวมไปถึงระบบ Business Intelligence การวิเคราะห์ข้อมูลแบบ Real-time และการใช้งานเวอร์ชวลไลเซชั่น นอกจากนี้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและป้องกันดาต้า เซ็นเตอร์ โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่นี้จึงมาพร้อมกับคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่ดียิ่งกว่า เดิม เพื่อให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยของข้อมูล

อินเทล™ ซีออน ™โปรเซสเซอร์ ตระกลู E7-8800/4800/2800 มีดายขนาด 513  mm2 และมีทรานซิสเตอร์มากถึง 2,600 ล้านตัว ด้วยเทคโนโลยีกระบวนการผลิตขนาด 32 นาโนเมตรของอินเทล ช่วยให้ อินเทล™ ซีออน™ โปรเซสเซอร์ รุ่นใหม่นี้ มีจำนวนแกนประมวลผลได้สูงถึง 10 คอร์ พร้อมด้วย อินเทล™ไฮเปอร์ เธรดดิ้ง เทคโนโลยี และยังให้ประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงขึ้นกว่าโปรเซสเซอร์ในตระกูล อินเทล™ ซีออน™ ซีรี่ส์ 7500 สูงสุดถึงร้อยละ 40 ในขณะเดียวกัน คุณสมบัติการประหยัดพลังงานแบบใหม่ยังช่วยลดปริมาณการใช้งานพลังงานเมื่อชิ ปไม่มีการประมวลผลอีกด้วย

เทคโนโลยีกระบวนการผลิตขนาด 32 นาโนเมตรของอินเทล ช่วยให้ อินเทล™ ซีออน™ โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่นี้มีจำนวนแกนประมวลผลได้สูงถึง 10 คอร์ พร้อมด้วย อินเทล™ไฮเปอร์ เธรดดิ้ง เทคโนโลยี และยังให้ประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงกว่าโปรเซสเซอร์ในตระกูล อินเทล™ ซีออน™ ซีรี่ส์ 7500 จนถึงร้อยละ 40 ในขณะเดียวกัน คุณสมบัติการประหยัดพลังงานแบบใหม่ยังช่วยลดปริมาณการใช้พลังงานในช่วงเวลา ที่ชิปไม่มีการประมวลผลอีกด้วย นับจากวันนี้เป็นต้นไป ระบบที่ประกอบด้วย อินเทล™ ซีออน™ โปรเซสเซอร์ ตระกูล E7 จำนวนกว่า 35 ระบบจะถูกส่งไปยังผู้ผลิตทั่วโลก

“กว่าสิบปีที่ผ่านมา อินเทลได้เปลี่ยนโฉมหน้าการนำเอาคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์มาใช้ในการประมวลผล ระดับ Mission Critical และในวันนี้เราได้เพิ่มระดับของมาตรฐานให้สูงขึ้นไปอีก” นายเอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “อินเทล™ ซีออน™ โปรเซสเซอร์ ตระกูล E7 รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับประสิทธิภาพที่เหนือชั้นกว่ารุ่นเดิม พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง และมีการพัฒนาด้านความเสถียรและการใช้พลังงานให้ดีมากยิ่งขึ้น จากแนวโน้มของอุตสาหกรรม เราเล็งเห็นว่าสถาปัตยกรรมโปรเซสเซอร์สำหรับเซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่นี้ต่างไป จากเดิมที่อินเทลเคยทำมา ขณะเดียวกัน ความจำเป็นสำหรับหน่วยงานด้านไอทีที่ต้องติดตั้งสถาปัตยกรรม RISC แบบปิด ซึ่งมีราคาแพง เพื่อใช้กับแอพพลิเคชั่นในระดับ mission critical นั้น กำลังจะสิ้นสุดลง”

ภาพแสดงเวเฟอร์ชิปอินเทล ด้วยเทคโนโลยีกระบวนการผลิตขนาด 32 นาโนเมตรของอินเทล ช่วยให้อินเทล™ ซีออน™ โปรเซสเซอร์ รุ่นใหม่นี้มีจำนวนแกนประมวลผลได้สูงถึง 10 คอร์ พร้อมด้วย อินเทล™ไฮเปอร์ เธรดดิ้ง เทคโนโลยี และยังให้ประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงขึ้นกว่าโปรเซสเซอร์ในตระกูล อินเทล™ ซีออน™ ซีรี่ส์ 7500 สูงสุดถึงร้อยละ 40 ในขณะเดียวกัน คุณสมบัติการประหยัดพลังงานแบบใหม่ยังช่วยลดปริมาณการใช้งานพลังงานเมื่อชิ ปไม่มีการประมวลผลอีกด้วย

ทำลายสถิติ ช่วยประหยัดพลังงาน และเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับโปรเซสเซอร์ในตระกูลใหม่นี้ จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 18 รุ่น ซึ่งแบ่งออกเป็นรุ่นสำหรับเซิร์ฟเวอร์ประเภท 2, 4 และ 8 ซ็อกเก็ต และยังสามารถขยายการทำงานไปใช้กับเซิร์ฟเวอร์ที่มี 256 ซ็อกเก็ตได้ด้วย โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่นี้ยังสร้างสถิติโลกใหม่ด้านประสิทธิภาพอีกกว่า 12 รายการ ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นจากเดิมจนถึงร้อยละ 40 ในการประมวลผลช่วยเพิ่มความเร็วและความถูกต้องให้กับแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่มีความสำคัญสูงมากต่อองค์กร อย่างเช่น ในกลุ่มงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์และบริการทางด้านการเงิน ซึ่งจำเป็นต้องใช้ความเร็วสูงในการประมวล ด้วยประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเวอร์ชวลไลเซชั่น3 ที่เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์รุ่นปัจจุบัน ทำให้ชิปตัวใหม่ล่าสุดนี้กลายเป็นโปรเซสเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับการทำ งานแบบเวอร์ชวลไลเซชั่นที่สูงที่สุดในอุตสากรรมปัจจุบัน

ผู้จัดการฝ่ายไอทีที่กำลังมองหาระบบไอทีที่มีความคุ้มค่ามากขึ้นต่อการลง ทุน สามารถเปลี่ยนจากเครื่องเซิร์ฟเวอร์แบบดูอัลคอร์จำนวนถึง 18 เครื่อง มาใช้อินเทล™ ซีออน™ โปรเซสเซอร์ ตระกูล E7 เพียงตัวเดียว และเพื่อช่วยลดปัญหาค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของดาต้า เซ็นเตอร์ โดย ซีออน โปรเซสเซอร์ รุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมกับ Intel® Intelligent Power ที่ช่วยลดการใช้พลังงานของตัวชิปเมื่อไม่มีการทำงาน หรือตามระดับการใช้งาน ในขณะที่ยังคงมีระบบการจัดการพลังงานของตัวโปรเซสเซอร์ที่ดีมากขึ้น

ด้วยการจัดกลุ่มของแอพพลิเคชั่นที่มีการใช้พลังการประมวลผลจาก คอมพิวเตอร์และมีความสำคัญต่อธุรกิจหรือองค์กรสูง จะมีตั้งแต่ระบบประมวลผลโมเดลพยากรณ์อากาศจนไปถึงการวิเคราะห์ข้อมูลทาง ธุรกิจแบบ Real-time ซึ่งจำเป็นต้องใช้ประสิทธิภาพในการประมวลผลที่มาก อินเทลจึงออกแบบโปรเซสเซอร์แบบ 10 คอร์เป็นพิเศษอีก 10 รุ่น ประกอบด้วย E7-8870, E7-4870 และ E7-2870 ซึ่งทั้งหมดสามารถทำความเร็วได้ถึง 2.4 กิกะเฮิรตซ์ โดยยังคงค่า TDP (Thermal Design Point) เพียงแค่ 130 วัตต์เท่านั้น

นอกจากนี้ ทางอินเทลยังได้เปิดตัวชิปที่มีการรวมเอาประโยชน์จากประสิทธิภาพในการทำงาน ที่สูงเข้ากับการใช้พลังงานต่ำ ซึ่งเป็นชิปรุ่นที่มีความเร็วในการทำงานที่เหมาะสม โดยในรุ่น 10 คอร์แบบประหยัดพลังงาน E7-8867L นี้จะมีความเร็วในการทำงาน 2.13 กิกะเฮิรตซ์ และมีค่า TDP เพียง 105 วัตต์เท่านั้น ในขณะที่รุ่น 8 คอร์ E7-8837 จะมีความเร็วที่สูงขึ้นอยู่ที่ 2.67 กิกะเฮิรตซ์ และมีค่า TDP อยู่ที่ 130 วัตต์

อินเทล ซีออน โปรเซสเซอร์ในตระกลู E7 นี้ยังคงอยู่บนแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาให้รองรับการทำงานร่วมกับหน่วยความจำ มหาศาลมากถึง 2 เทราไบต์ ในระบบที่มี 4 ซ็อกเก็ต และรองรับการทำงานร่วมกับโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่นี้ นอกจากนี้ชิพส่วนใหญ่ยังได้มาพร้อมกับอินเทล™ เทอร์โบบูสต์ เทคโนโลยี, อินเทล™ไฮเปอร์ เธรดดิ้ง เทคโนโลยี และ อินเทล™ เวอร์ชวลไลเซชั่น เทคโนโลยี (VT) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน รองรับการทำงานแบบมัลติทาสกิ้ง และยังช่วยให้มีระบบการจัดการที่ง่าย และมีเสถียรภาพของระบบที่ดีขึ้นด้วย

คุณสมบัติด้านความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือใหม่

อินเทลได้นำเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่อินเทลเป็นผู้พัฒนาขึ้นเอง มาใส่ในโปรเซสเซอร์ระดับกลาง อย่าง อินเทล™ ซีออน™ โปรเซสเซอร์ ซีรี่ส์ 5600 ไปจนถึงโปรเซสเซอร์สำหรับเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องทำงานร่วมกับระบบงานที่ มีความสำคัญสูงๆ อย่าง อินเทล™ ซีออน™ โปรเซสเซอร์ในตระกูล E7 โดยเทคโนโลยี Intel® Advanced Encryption Standard New Instruction (AES-NI) จะช่วยให้ระบบสามารถ ทำการเข้ารหัสและถอดรหัสข้อมูลที่มีการทำงานอยู่ในแอพพลิเคชั่นได้อย่างรวด เร็ว ในขณะที่เทคโนโลยี Intel® Trusted Execution Technology (Intel TXT) จะช่วยสร้างแพลตฟอร์มระบบความปลอดภัยตั้งแต่ เริ่มระบบเพื่อป้องกันแอพลิเคชั่นจากการบุกรุกได้ ด้วยคุณสมบัติด้านความปลอดภัยเหล่านี้ จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าระบบการทำงานแบบเวอร์ชวลไลซ์จะมีความปลอดภัยมากขึ้น เมื่อมันถูกสั่งให้เริ่มทำงานในรูปแบบต่างๆ ในขณะที่ยังรักษาประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีมากขึ้นกว่าเดิมไปพร้อมกัน

รองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรม

นับตั้งแต่วันนี้ ผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์จากทั่วทุกมุมโลกเตรียมพร้อมที่จะเปิดตัว อินเทล™ ซีออน™ โปรเซสเซอร์ ตระกูล E7 กว่า 35 แพลตฟอร์มไปใช้งาน ซึ่งผู้ผลิตเหล่านี้ ได้แก่ Bull*, Cisco*, Cray*, Dawning*, Dell*, Fujitsu*, Hitachi*, HP*, Huawei*, IBM*, Inspur*, Lenovo*, NEC*, Oracle*, PowerLeader*, Quanta*, SGI*, Supermicro*, and Unisys*

ผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์สำหรับองค์กรขนาดใหญ่จำนวนมากยังเริ่มพัฒนาซอฟต์แวร์ ของตนให้รองรับการทำงานกับแพลตฟอร์มที่ใช้ ซีออน โปรเซสเซอร์ ตระกูล E7 เช่น IBM*, Microsoft*, Oracle*, Red Hat*, SAP AG*, and VMware*

เซิร์ฟเวอร์สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก

อินเทลยังได้เปิดตัว อินเทล™ ซีออน™ โปรเซสเซอร์ ในตระกูล E3-1200 ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์สำหรับเซิร์ฟเวอร์ระดับเริ่มต้นที่พัฒนาขึ้นมา เพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้งานแอพลิเคชั่นของธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งมีตั้งแต่เครื่องมือสำหรับการทำงานร่วมกัน ไปจนถึงแอพลิเคชั่นสำหรับจัดการพื้นที่เก็บข้อมูลและการ Backup ด้วยประสิทธิภาพในการทำงานที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์รุ่นเดิม ซีออน โปรเซสเซอร์ ตระกูล E3-1200 มีความเร็วสูงขึ้นและมีเสถียรภาพที่มากขึ้นกว่าการใช้งานคอมพิวเตอร์ เดสก์ท้อปที่ใช้แอพลิเคชั่นตัวเดียวกัน อีกทั้งยังรองรับหน่วยความจำแบบ Error Correcting Code (ECC) เพื่อให้มั่นใจได้ถึงความเสถียรของระบบด้วยการป้องกันการเปิดความผิดพลาดที่ ทำให้ข้อมูลเสียหายหรือระบบหยุดทำงาน และด้วยความที่ธุรกิจขนาดเล็กต้องเผชิญกับปัญหาภัยคุกคามระบบความปลอดภัย เป็นอย่างมาก ซีออน โปรเซสเซอร์ ตระกูล E3-1200 จะช่วยให้ข้อมูลที่มีค่าของคุณมีความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี Intel AES-NI and Intel TXT ที่มีอยู่เช่นเดียวกัน

รายละเอียดสินค้าและราคา

อินเทล ซีออน โปรเซสเซอร์ ในรุ่น E7-8800/4800/2800 จะมีราคาตั้งแต่ 774 ถึง 4,616 เหรียญสหรัฐสำหรับการสั่งซื้อในจำนวน 1,000 ชิ้น ส่วน อินเทล ซีออน โปรเซสเซอร์ ในรุ่น E3-1200 จะมีราคาตั้งแต่ 189 ถึง 612 เหรียญสหรัฐเมื่อสั่งซื้อในจำนวน 1,000 ชิ้น รายละเอียดเกี่ยวกับราคาทั้งหมดสามารถหาได้ที่ Intel Newsroom ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อินเทล ซีออน โปรเซสเซอร์ รุ่นใหม่นี้ได้ที่ www.intel.com/xeon และข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆ ด้านประสิทธิภาพ และสถิติที่น่าสนใจสามารถดูได้ที่ www.intel.com/performance/server

เกี่ยวกับอินเทล
อินเทล (NASDAQ:INTC) เป็นผู้นำระดับโลกในด้านนวัตกรรมซิลิกอน สร้างสรรค์เทคโนโลยี สินค้า รวมทั้งการริเริ่มต่างๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและการทำงานของผู้คนอย่างต่อเนื่อง ท่านสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอินเทลได้ที่ newsroom.intel.com และ blogs.intel.com

Intel, Intel Xeon, และ Intel logo เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ อินเทล คอร์ปอเรชั่น หรือสำนักงานสาขาในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆขอสงวนสิทธิ์ ชื่อและยี่ห้ออื่นอาจถูกอ้างอิงถึงโดยถือเป็นทรัพย์สินของชื่อยี่ห้อนั้นๆ