2 ค่ายยักษ์ “กา ร์มิน-อัสซุส” ผนึกพลัง ส่ง M10 รุกตลาดปี 2010
Share | Tweet |
หลังจาก Asus และ Garmin ประกาศความเป็นพันธมิตรอย่าง เป็นทางการเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และ ส่ง garmin-asus รุ่น M20 ลงสู่ตลาดเป็นรุ่นแรกในประเทศไทย จนเป็นที่ยอมรับจากกูรูและผู้ใช้ทั่วไปได้อย่างสง่างาม พิสูจน์ได้จากบทความวิจารณ์และชื่นชมผ่านสื่อต่างๆ ทั้งในวงการมือถือ ไอที รถยนต์ และการท่องเที่ยว อีกทั้งยอดขายที่เกินความคาดหมายในระยะ เวลาอันสั้นมาแล้ว
วันนี้ การ์มิน-อัสซุส ก้าวหน้าไปอีกขั้น ด้วยสมาร์ทโฟนระบบสัมผัสรุ่นล่าสุด garmin-asus M10 พลิกบทบาทใหม่ภายใต้แนวคิดเฉพาะ ตัวเรียกว่า Smart3 (Smart Phone - Smart Navigation - Smart Lifestyle) โดยการรวม ทุกความต้องการของผู้ใช้ไว้ในเครื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร ระบบแผนที่นำทาง และบริการเข้าสู่ข้อมูลต่าง ๆ แบบเรียลไทม์เพื่ออำนวย ความสะดวกในชีวิตประจำวัน
นายเอดิสัน วัง ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์การ์มิน-อัสซุส ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “garmin-asus M10 คือ สมาร์ทโฟนสำหรับคนยุคใหม่ ที่ชื่นชอบอุปกรณ์แบบ All-in-one รวมทุกการใช้งานที่มีในโทรศัพท์ โน้ตบุ๊ก อุปกรณ์นำทางผ่านดาวเทียม กล้องดิจิตอล และการเชื่อมต่อสังคมออนไลน์ เข้าไว้ด้วยกัน ด้วยดีไซน์ทันสมัย ใช้งานง่าย พร้อมระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด Windows Mobile 6.5.3 เวอร์ชั่นที่มีเฉพาะใน garmin-asus M10 เท่านั้น”
garmin-asus M10 มาพร้อมกับจอภาพความละเอียดระดับ WVGA ขนาด 3.5 นิ้ว ด้วยอินเทอร์เฟซที่ตอบสนองการสัมผัสด้วยนิ้วมือได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมความจุ RAM / ROM ขนาด 512 MB / 512 MB และหน่วยความจำในเครื่องขนาด 4GB (สามารถเพิ่ม Micro SD Card ได้) พร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆเช่น 3D Task Manager ที่ให้ผู้ใช้สับเปลี่ยนแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานอยู่ได้ง่าย ขึ้น พร้อมรองรับ 3G และระบบเชื่อมต่อไร้สาย HSDPA และ Wi-Fi ให้สามารถรับ-ส่งข้อความได้รวด เร็วทันใจ นอกจากนี้ยังใช้แบตเตอรี่ขนาด 1500 mAh จึง สามารถใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น
garmin-asus M10 มาพร้อมฟังก์ชั่น Click & Search สามารถค้นหาสถานที่ที่ต้องการได้โดยตรงจากแอ พพลิเคชั่นที่ใช้งานเป็นประจำเช่น ปฏิทิน รายชื่อติดต่อ อีเมล์ หรืออินเทอร์เน็ตเบราเซอร์ เพียงไฮไลท์สถานที่ที่ต้องการแล้วกดปุ่มค้น หาก็สามารถนำทางได้ทันที พร้อมรองรับการใช้งานเครือข่ายสังคมออ นไลน์ต่างๆ เช่น Facebook หรือ Picasa Web Albums อีกทั้งยังสามารถใช้บริการเชื่อมต่อเพื่อรับ ข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้อย่างง่ายดาย เช่น สภาพอากาศ ตารางเที่ยวบิน และตารางเวลาภาพยนตร์ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกล้องดิจิตอลความละเอียด 5 ล้านพิกเซล อีกด้วย
นายเอดิ สัน วัง กล่าวเพิ่มเติมว่า “garmin-asus M10 มีระบบซอร์ฟแวร์นำทางขั้นสูงแบบเดียวกับที่มีใน เครื่องนำทางระดับไฮเอนด์ของ Garmin รุ่น 1460 ด้วยฟีเจอร์การแสดงผลอันโดดเด่นแบบ Junction View ที่แสดงช่องทางเดินรถพร้อมจำลองทางแยกเสมือนจริง ในแบบ 3D”
ด้านนาย พรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เทรนด์โดยรวมของตลาดพีดีเอ โฟนในประเทศไทย รวมถึง กระแสความนิยมของผู้ใช้ในในปีนี้ จะมีความต้องการอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานง่าย และมีคุณสมบัติที่หลากหลาย อีกทั้งยังหันมาให้ความสนใจกับดีไซน์ที่ทันสมัย พกพาสะดวก ซึ่งผมมั่นใจว่า garmin-asus M10 คือคำตอบของทั้งหมดดังที่กล่าวมา”
“จากผลตอบรับที่ดีของรุ่น M20 ที่ เปิดตัวออกสู่ตลาดเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ทำให้เชื่อได้ว่า การเปิดตัวรุ่นใหม่ออกมาสู่ตลาดในครั้งนี้ จะกระตุ้นให้ตลาดสมาร์ทโฟน ในประเทศไทยคึกคักได้มากกว่าเดิม ประกอบกับประสิทธิภาพการบริหารจัดการของ ตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่คือ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้เป็นอย่างดี จึงมั่นใจได้ว่า การ์มิน-อัสซุส จะมียอดขาย และส่วนแบ่งตลาดในประเทศไทยที่เติบ โตขึ้นจนน่าจับตามองเลยทีเดียว” คุณพรเทพ กล่าวทิ้งท้าย
ด้านตัว แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย นายสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่เราได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ การ์มิน-อัสซุส ในประเทศไทย และได้จัดจำหน่ายรุ่น M20 เป็นรุ่นแรก ผลตอบรับจากดีลเลอร์และลูกค้าเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง ทำให้มั่นใจได้ว่ารุ่น M10 ที่กำลังจะออกสู่ตลาดนี้ จะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะโดดเด่นด้านระบบ นำทางแล้ว ยังเพิ่มเติมฟีเจอร์ใหม่ ๆ อีกหลายอย่าง ทำให้ M10 มีความแตกต่างจากอุปกรณ์สื่อสารอื่น ๆ เราจึงมั่นใจว่าจะ สามารถขยายตลาดได้กว้างขึ้น โดยจะขยายช่องทางจัดจำหน่ายไปสู่ตลาดต่าง จังหวัด ตลาดฟีเจอร์โฟน รวมถึงช่องทางใหม่ผ่านทางร้านค้า GPS
garmin-asus M10 จะเริ่มวางจำหน่ายกลางเดือนมีนาคมนี้ โดยมี 2 สีให้เลือก คือ สีดำ และสีขาวซึ่งจะวางจำหน่าย 2 แบบคือราคา 14,900 บาท (ไม่รวมอุปกรณ์ติดตั้งใช้งาน ในรถยนต์) และราคา 16,900 บาท (รวมอุปกรณ์ติดตั้งใช้งานในรถยนต์) ราคาทั้ง 2 แบบรวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว