หัวเว่ย จับมือ Intel เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์อัจฉริยะรุ่นใหม่ FusionServer Pro V6
Share | Tweet |
หัวเว่ย จับมือ Intel เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์อัจฉริยะรุ่นใหม่ FusionServer Pro V6
เซี่ยงไฮ้–23 ก.ย.–พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ที่งาน Working Together to Drive New Value — FusionServer Pro V6 Launch ซึ่งจัดโดยหัวเว่ยและถ่ายทอดสดออกไปทั่วโลก ได้มีการเปิดตัว Huawei FusionServer Pro 2488H V6 ผลิตภัณฑ์รุ่นล่าสุดในตระกูล FusionServer Pro อย่างเป็นทางการ ซึ่งโดดเด่นด้วยการผสมผสานที่สมบูรณ์แบบของนวัตกรรมและประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม ผลิตภัณฑ์นี้สร้างขึ้นจากความมุ่งมั่นที่หัวเว่ยมีต่อพันธมิตรในอุตสาหกรรมประมวลผลที่ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง และถือเป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมสู่ความเป็นดิจิทัลอย่างรวดเร็ว
เสริมพลังยุคดิจิทัลด้วยประสิทธิภาพสูง
Kenneth Zhang ประธาน FusionServer Business ของหัวเว่ยกล่าวถึงความจำเป็นที่อุตสาหกรรมประมวลผลต้องรวมพลังและความหนาแน่นในการคำนวณโหนดเดี่ยวที่สูงกว่าเดิมเข้ากับ O&M อัจฉริยะเพื่อรับมือความท้าทายในปัจจุบัน “การยกระดับประสิทธิภาพของเซิร์ฟเวอร์ในระดับระบบ ควบคู่ไปกับการติดตั้งศูนย์ข้อมูลที่มีความหนาแน่นสูงและ O&M อัจฉริยะ เป็นเรื่องสำคัญสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมประมวลผล”
เซิร์ฟเวอร์อัจฉริยะ Huawei FusionServer Pro ทำงานบนสถาปัตยกรรม x86 เพื่อปลดล็อกการคำนวณทั้งแบบทั่วไปและการคำนวณที่ต่างกันอย่างทรงพลัง FusionServer Pro 2488H V6 รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล 3rd Gen Intel® Xeon® Scalable 4 ที่อยู่ในแร็คเก็บข้อมูลแบบ 2U และหน่วยความจำ 48 DDR4 DIMMs และ PCIe 11 ช่องสำหรับที่จัดเก็บในตัวเครื่อง เสริมด้วยโมดูลการฝึกอบรมและสรุป AI ล่าสุด เพื่อปลดปล่อยพลังการประมวลผลมากถึง 560 TFLOPS ในโหนดเดียว
Intel ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรระดับโลกที่สำคัญที่สุดของหัวเว่ย ได้มาร่วมงานเปิดตัว FusionServer Pro 2488H V6 ในครั้งนี้ด้วย พร้อมสาธิตผลิตภัณฑ์ศูนย์ข้อมูล Intel รุ่นล่าสุด โดยหนึ่งในผลิตภัณฑ์ดังกล่าวคือ หน่วยประมวลผล 3rd Gen Intel® Xeon® Scalable ที่ช่วยเร่งความเร็วและเพิ่มประสิทธิภาพของ AI ให้ก้าวหน้าขึ้นอีกระดับด้วย Intel® Deep Learning Boost (Intel® DL Boost) ซึ่งรองรับการทำงานในรูปแบบ bfloat 16 ทั้งยังให้ประสิทธิภาพการสรุปผลที่สูงกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 1.9 เท่า นอกจากนี้ Intel ยังนำเสนอเทคโนโลยีหน่วยความจำในรูปแบบของ Intel® Optane™ persistent memory (PMem) ซีรีส์ 200 เพื่อสนับสนุนการวิเคราะห์บิ๊กดาต้าแบบเรียลไทม์ โดยเมื่อ Huawei FusionServer Pro 2488H V6 ทำงานร่วมกับการกำหนดค่าที่ยอดเยี่ยมในหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ของ Intel แล้วจะส่งมอบประสิทธิภาพที่สูงกว่าและบริการที่ดีกว่าให้แก่ลูกค้า
พัฒนาระบบนิเวศด้วยการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด
ระบบนิเวศที่เจริญรุ่งเรืองสนับสนุนเทคโนโลยีและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ต้น นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมหัวเว่ยจึงเดินหน้าพัฒนาระบบนิเวศและสนับสนุนการทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ดังที่ Kenneth Zhang กล่าวว่า การทำงานร่วมกับ Intel และพันธมิตรระดับโลกรายอื่น ๆ ทำให้หัวเว่ยสร้างผลิตภัณฑ์และโซลูชันเซิร์ฟเวอร์อัจฉริยะ FusionServer Pro ขึ้นมามากมาย “เป็นเพราะความพยายามร่วมกันของเรา ทำให้ระบบนิเวศการทำงานร่วมกันของ FusionServer Pro เติบโตขึ้น” Kenneth ระบุ
นอกจากนี้ ยังมีชุดโซลูชันที่มาจากความร่วมมืออีกมาก อาทิ Huawei SAP HANA ซึ่งประกอบด้วย โซลูชันโหนดเดี่ยว รวม และ TDI ที่มาพร้อมประสิทธิภาพระดับสูง มีความน่าเชื่อถือสูง และปรับขนาดได้อย่างราบรื่น โดยโซลูชันรวมเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนโดยเซิร์ฟเวอร์ซีรีส์ Huawei FusionServer Pro เพื่อให้องค์กรสามารถเร่งความเร็วในการดำเนินการที่สำคัญ เช่น การวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) และคลังเก็บข้อมูล ตลอดจนช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลสำคัญได้อย่างรวดเร็วเพื่อใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีค่าจำนวนมหาศาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Li Peisong ประธานของ SAP Partner Adoption Center (SAP PAC) ประเทศจีน พันธมิตรรายสำคัญของหัวเว่ย ซึ่งมาเป็นวิทยากรในงานนี้ ได้แสดงความเห็นว่า เป็นเพราะความร่วมมือทางเทคนิคที่ใกล้ชิดระหว่าง SAP PAC และหัวเว่ย ทำให้ผลิตภัณฑ์ร่วมเหล่านี้มีประสิทธิภาพสูง และทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์ม IT ที่สอดคล้องกับข้อมูลจำเพาะทางเทคนิคของ SAP ได้อย่างสมบูรณ์
เซิร์ฟเวอร์ซีรีส์ Huawei FusionServer Pro ได้รับความสนใจอย่างสูงจากพันธมิตรในอุตสาหกรรมรายอื่น ๆ โดย Leon Wang ผู้อำนวยการบริหารและซีอีโอของ Automated Systems Holdings Limited (ASL) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโซลูชันระดับโลกที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นฮ่องกงได้มาเสนอข้อดีของผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์อัจฉริยะ Huawei FusionServer Pro ในงานนี้ พร้อมกล่าวว่า สำหรับเขาแล้ว ASL จะเป็นพันธมิตรกับหัวเว่ยเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ระดับที่เหนือกว่าและสร้างมูลค่าใหม่ร่วมกัน
แม้เทคโนโลยี 5G, AI และคลาวด์ กำลังทำให้การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลนั้นมีความเป็นไปได้ แต่มันก็มาพร้อมความท้าทายบางอย่าง เช่น ข้อกำหนดสำหรับการคำนวณที่หลากหลายในทุกแง่มุมของสังคม ดังนั้น เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ หัวเว่ยจะทำงานร่วมกับ Intel และพันธมิตรทั่วโลกรายอื่น ๆ เพื่อเติมเต็มความมุ่งมั่นต่อระบบซัพพลายที่หลากหลายทั่วโลก และเพิ่มพลังให้กับอุตสาหกรรมการประมวลผลและระบบนิเวศ ความร่วมมือกันนี้จะช่วยให้เรานำเสนอผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์อัจฉริยะ FusionServer Pro และโซลูชันระดับพรีเมียมให้แก่ลูกค้า พร้อมมอบประสิทธิภาพที่ไม่มีใครเทียบ และระบบนิเวศที่รุ่งเรืองที่ช่วยให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ เดินหน้าสู่ดิจิทัลได้ต่อไป
HUAWEI CONNECT 2020 เป็นงานใหญ่ประจำปีที่หัวเว่ยจัดขึ้นสำหรับอุตสาหกรรม ICT ทั่วโลก งานปีนี้ได้ถูกจัดขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ ในระหว่างวันที่ 23-26 กันยายน HUAWEI CONNECT คือแพลตฟอร์มแบบเปิดที่ออกแบบมาเพื่อช่วยนำทางการเปลี่ยนแปลงแก่ลูกค้าและพันธมิตร แบ่งปันประสบการณ์ และทำงานร่วมกันเพื่อสร้างมูลค่าใหม่ ในงานปีนี้ เราจะสำรวจแนวโน้มและโอกาสในการผลิกโฉมอุตสาหกรรมสู่ดิจิทัล ด้วยการจัดแสดงเทคโนโลยี ICT ผลิตภัณฑ์ และโซลูชันชั้นสูง เพื่อแสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ของนวัตกรรมความร่วมมือ และแบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในยุคการเปลี่ยนสู่ดิจิทัล เป้าหมายสำคัญที่สุดของเราคือการสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมแบบเปิดและยอดเยี่ยมที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกคนและสร้างมูลค่าใหม่สำหรับอุตสาหกรรมทั้งหมด สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
https://www.huawei.com/en/events/huaweiconnect2020/
เกี่ยวกับหัวเว่ย
หัวเว่ย ก่อตั้งขึ้นในปี 2530 เป็นผู้นำของโลกด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) และอุปกรณ์อัจฉริยะ เรามีพนักงานกว่า 194,000 คน และดำเนินงานในกว่า 170 ประเทศและภูมิภาค เพื่อให้บริการลูกค้ากว่า 3 พันล้านคนทั่วโลก
วิสัยทัศน์และพันธกิจของเราคือ การนำดิจิทัลไปสู่ทุกคน ทุกบ้าน และทุกองค์กร เพื่อโลกอัจฉริยะที่เชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์ เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ เราจะผลักดันการเชื่อมต่อที่มีอยู่ทุกแห่งและส่งเสริมการเข้าถึงเครือข่ายอย่างเท่าเทียม, นำคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์ไปยังทุกมุมโลกเพื่อมอบพลังการคำนวณที่เหนือกว่าในที่ที่ต้องการและในเวลาที่จำเป็น, สร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อช่วยให้ทุกอุตสาหกรรมและองค์กรคล่องตัว มีประสิทธิภาพ และกระฉับกระเฉงมากขึ้น ตลอดจนเปลี่ยนนิยามประสบการณ์ผู้ใช้ด้วย AI เพื่อมอบความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้นสำหรับประชาชนในทุกมุมมองของชีวิต ไม่ว่าจะที่บ้าน ที่ทำงาน หรือขณะเดินทาง