HyperX เปิดตัวเกมมิ่งเกียร์รุ่นใหม่สำหรับพีซีและคอนโซลในงาน CES 2021
Share | Tweet |
HyperX เปิดตัวเกมมิ่งเกียร์รุ่นใหม่สำหรับพีซีและคอนโซลในงาน CES 2021
อาทิ คีย์บอร์ดเกมมิ่งแบบ 60 Percent Mechanical และอุปกรณ์สำหรับชาร์จรุ่นใหม่จาก HyperX ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ต่อพ่วงที่ได้รับรางวัล
ชุดหูฟังสำหรับเกมมิ่ง Wireless Cloud II และเมาส์น้ำหนักเบาพิเศษพร้อมการออกแบบสไตล์ Honeycomb Hex
พร้อมจำหน่ายแล้วในบางพื้นที่
กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย – 12 มกราคม 2564 - HyperX ซึ่งเป็นแผนกเกมของ Kingston Technology เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติม จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลในงาน CES 2021 ในวันนี้ โดยในการร่วมงาน CES ในแบบดิจิทัลในปีนี้ HyperX ยังคงให้การสนับสนุนกลุ่มเกมเมอร์ ด้วยการขยายผลิตภัณฑ์ระดับมืออาชีพสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านการเล่นเกมส์ และแฟน ๆ ของ HyperX โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ได้รับการเปิดตัว ในช่วงของการเปิดตัวสินค้าเสมือนจริง ได้แก่ คีย์บอร์ดแบบ 60 เปอร์เซนต์รุ่นแรกของบริษัท HyperX Alloy Origins ™ 60 เกมมิ่งคีย์บอร์ดในแบบแมคคานิคอล; อุปกรณ์เสริมสำหรับชาร์จรุ่นใหม่ อย่างแท่นชาร์จคอนโทรลเลอร์ ChargePlay Duo ™สำหรับ Xbox Series X / S และ Pulsefire Haste Gaming Mouse เมาส์ ที่พร้อมขยายการวางจำหน่ายมากขึ้นในหลายประเทศ1, ชุดหูฟังสำหรับเกมมิ่งไร้สาย Cloud II และชุดหูฟังสำหรับเกมมิ่งCloud Revolver ™ + 7.1
“การเล่นเกมกลายเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจมากขึ้นในปีนี้ เนื่องจากผู้คนค้นหาวิธีที่ปลอดภัย และให้ความบันเทิงในการติดต่อสื่อสารกับเพื่อนและครอบครัว” HyperX กล่าว “กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ของ HyperX สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของเราที่มีต่อชุมชนเกมที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดไม่ว่าจะเล่นเมื่อใด หรือในรูปแบบใดก็ตาม”
ผลิตภัณฑ์ HyperX ใหม่ล่าสุด ได้เพิ่มระดับความสะดวกสบาย ประสิทธิภาพการปรับแต่ง และการควบคุมที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงการเล่นเกมสำหรับเกมเมอร์ทุกระดับ
คีย์บอร์ดเกมมิ่ง HyperX Alloy Origins 60 Mechanical: คีย์บอร์ด Alloy Origins 60 มีรูปแบบที่กะทัดรัดเป็นพิเศษในขนาดเพียง 60 เปอร์เซ็นต์ของคีย์บอร์ดขนาดเต็ม ซึ่งช่วยในเรื่องการประหยัดพื้นที่ เพื่อเพิ่มพื้นที่บนโต๊ะทำงานให้ได้มากที่สุด เพื่อให้สามารถขยับเมาส์ได้มากที่สุด ตัวคีย์บอร์ดใช้แมคคานิคอลสวิตช์สีแดงของ HyperX ที่ออกแบบมาให้มีจุดตอบสนองที่สั้นลง และใช้เวลาในการกดปุ่มที่สั้นลงเพื่อการตอบสนองที่ดีขึ้น HyperX Alloy Origins 60 ใช้การออกแบบที่ประกอบด้วยหลอดไฟ LED สวิตช์ HyperX Red และปุ่มกด PBT แบบ double-shot พร้อมการพิมพ์ฟังก์ชั่นเสริมที่ด้านข้าง เพื่อการจดจำที่รวดเร็ว รองรับการทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ HyperX NGENUITY ที่ช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งแสงไฟ ปรับโหมดเกม และตั้งค่ามาโครได้ในแบบที่ต้องการ โดยมีหน่วยความจำออนบอร์ด ซึ่งสามารถบันทึกได้ถึงสามรูปแบบ
HyperX ChargePlay Duo Controller Charging สำหรับ Xbox: เป็นแท่นชาร์จ HyperX ChargePlay Duo ที่ได้รับลิขสิทธิ์จาก Xbox อย่างเป็นทางการ โดยออกแบบมาสำหรับ Xbox สามารถใช้งานร่วมกันได้กับตัวควบคุมไร้สายสำหรับ Xbox Series X / S และ Xbox One มีฝาปิดช่องใส่แบตเตอรี่เพิ่มเติมสองชิ้น ให้ใช้งานได้กับอุปกรณ์ควบคุมไร้สายของ Xbox Series X / S มาพร้อมแผงช่องเสียบที่เปิดหรือปิดตามน้ำหนัก เมื่อเสียบอุปกรณ์ควบคุมไร้สายเข้ากับแท่นชาร์จ และมีไฟ LED ที่แสดงสถานะการชาร์จสำหรับตัวควบคุมแต่ละตัว ChargePlay Duo แต่ละชุดยังมีแบตเตอรี่แบบชาร์จไฟได้ 1400mAH มาให้อีกสองชุดด้วย
HyperX Pulsefire Haste ที่พร้อมวางจำหน่ายเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ: Pulsefire Haste เป็นเมาส์ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกไปแล้วในสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เริ่มวางจำหน่ายในบางพื้นที่แล้ว โดย Pulsefire Haste ได้รับการออกแบบเปลือกนอกเป็นหกเหลี่ยมแบบรังผึ้งที่เบาเป็นพิเศษ ซึ่งให้การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วขึ้นและการระบายอากาศที่ดีขึ้น ตัวเมาส์มีสวิตช์ป้องกันฝุ่น TTC Golden Micro พร้อมความทนทานในการคลิกได้มากถึง 60 ล้านครั้ง มีปุ่มที่สามารถตั้งโปรแกรมได้หกปุ่มและมาพร้อมกับหน่วยความจำออนบอร์ด Pulsefire Haste มาพร้อมกับชุดยางรองเมาส์ที่ผลิตจาก PTFE เกรดบริสุทธิ์ที่มีแรงเสียดทานต่ำ เพื่อการเคลื่อนที่ได้อย่างลื่นไหล และใช้สายเคเบิลแบบ HyperFlex USB ที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงดึงและความต้านทาน ตัวของ Pulsefire Haste มีกริ๊ปสำหรับเมาส์ทั้งสองข้างเช่นเดียวกับปุ่มซ้ายและขวาของเมาส์ และชุดยางรอง PTFE สำรองมาให้ในชุดจัดจำหน่าย นอกจากนี้ Pulsefire Haste ยังรองรับการปรับแต่งได้ด้วยซอฟต์แวร์ HyperX NGENUITY ช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งการตั้งค่า DPI, แสงไฟ RGB, การกำหนดปุ่มและบันทึกมาโครได้
HyperX Cloud II แบบไร้สายที่พร้อมวางจำหน่ายเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ: Cloud II Wireless ที่ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา ขณะนี้พร้อมวางจำหน่ายในบางประเทศเพิ่มเติมแล้ว โดย Cloud II Wireless ได้รับการออกแบบในสไตล์เดียวกับหูฟัง HyperX Cloud II แบบมีสาย ที่ได้รับความชื่นชมทั้งในด้านความสะดวกสบาย ประสิทธิภาพและความทนทาน โดย Cloud II Wireless พร้อมมอบประสบการณ์เสียงที่สมจริงในการเล่นเกม ด้วยระบบเสียงรอบทิศทาง2 7.1 เสมือนจริงที่ปรับแต่งเองโดย HyperX ขับเสียงด้วยไดร์เวอร์ขนาด 53 มม. ให้เสียงที่สมบูรณ์และชัดเจนสำหรับการเล่นเกม รวมถึงการทำงานและการเรียนจากที่บ้าน ชุดหูฟังไร้สายนี้ทำงานที่คลื่นความถี่ 2.4GHz อายุการใช้งานแบตเตอรี่นานถึง 30 ชั่วโมง3 และระยะการทำงานของสัญญาณไร้สายได้สูงสุดถึง 20 เมตร4.
HyperX Cloud Revolver + 7.1 ที่พร้อมวางจำหน่ายเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ: Cloud Revolver + 7.1 ที่ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา ขณะนี้พร้อมวางจำหน่ายในบางประเทศเพิ่มเติมแล้วด้วยเช่นกัน ซึ่งชุดหูฟังสำหรับเกมมิ่ง Cloud Revolver + 7.1 นี้ มีคุณสมบัติในการให้เสียงที่สมจริง ช่วงเสียงกว้าง เวทีเสียงระดับสตูดิโอพร้อมด้วยความสบาย และความทนทานอันเป็นเอกลักษณ์ของ HyperX Cloud Revolver + 7.1 และยังมีระบบเสียงรอบทิศทางเสมือนจริง2 จากไดรเวอร์ขับเสียงรอบทิศทาง 50 มม. เพื่อความลึกและสเตจเสียงที่กว้างมากขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มความแม่นยำของเสียงในการเล่นเกมแอ็คชั่นชู้ตติ้งมุมมองบุคคลที่หนึ่ง และในเกมสภาพแวดล้อมแบบเปิด ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับแต่งไดรเวอร์ การออกแบบกลไกของห้องเสียงและที่ครอบหูที่ใหญ่ขึ้น ช่วยให้ผู้ใช้ได้ยินเสียงคู่ต่อสู้อย่างชัดเจนแ ละแม่นยำเพื่อความได้เปรียบในการแข่งขันสูงสุดขณะเล่นเกม