สถาบันเพื่ออุตสาหกรรมสารสนเทศแห่งประเทศไต้หวัน ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆเพื่อสร้างเมือง Smart City ขึ้นมาด้วยระบบการศึกษา

ไต้หวันจัดงาน Smart City Summit & Expo (SCSE) ประจำปี 2018 ที่ศูนย์ประชุม Taipei Nangang Exhibition Center ตั้งแต่ 27 มีนาคม 2561 ถึง 30 มีนาคม 2561 ในปีนี้ปีนี้งาน Smart City Summit & Expo (SCSE) ได้ดำเนินงานควบคู่ไปกับการจัดนิทรรศการโชว์ผลงานนวัฒกรรมโดยสถาบัน Digital Education (ITG) ของสถาบันเพื่ออุตสาหกรรมสารสนเทศแห่งประเทศไต้หวัน Institute for Information Industry (III) ซึ่งเป็นแนวคิดเกี่ยวกับเทคโนโลยีและการเป็นหุ้นส่วนทางอุตสาหกรรม จุดหลักที่น่าสนใจในงานนี้ก็คือการจัดระบบการศึกษาที่ชาญฉลาดแบบสมาร์ท “FuturE2D” หรือ Smart Education ซึ่งวิเคราะห์บทบาทของการศึกษาในการพัฒนาสังคมจากมุมมองของสิ่งแวดล้อมที่เป็นอยู่พร้อมด้วยพรสวรรค์และโอกาสในการการเรียนรู้ด้วยการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรวมเข้าด้วยกัน เพื่อจัดการปัญหาด้านการศึกษาที่สำคัญ 10ประการและจัดการวางแผนระยะยาวสำหรับการปรับใช้ในอนาคตกับเมืองอัจฉริยะแบบ Smart City เพื่อทำให้นาๆประเทศของโลกสามารถมองเห็นการเติบโตอย่างรวดเร็วของการศึกษาที่เป็นแบบสมาร์ทในประเทศไต้หวัน

พื้นที่การศึกษาอันชาญฉลาดของงาน FuturE2D ประกอบด้วยประเด็นการศึกษาที่เกี่ยวข้อง 10 ประเด็นตั้งแต่การศึกษาขั้นพื้นฐานไปจนถึงการฝึกอบรมขั้นสูง เพื่อรับรองทักษะการจ้างงานของเยาวชนและการศึกษาพิเศษ เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับสังคมผู้สูงอายุ ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาสหสาขาวิชาชีพกว่า 70คนซึ่งประกอบด้วยองค์กรในท้องถิ่นและระหว่างประเทศ บริษัท และบุคคลทั่วไป ที่พร้อมแบ่งปันความคิดและแนวทางแก้ไขปัญหาในแต่ละประเด็นด้านการศึกษาผ่านการประชุมโต๊ะกลมที่เป็นแนวคิดโดยใช้แนวทาง World Café “Agoood” ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านนวัตกรรมทางสังคมที่อยู่เบื้องหลังโครงการที่มุ่งพัฒนาการพร้อมสนับสนุนเด็กพิการที่มีปัญหาในการได้ยิน ในขณะที่ขนมอบแสนอร่อยที่เป็นผลงานจากนักเรียนกลุ่มนี้ได้ถูกผลิตขึ้นสร้างความชื่นชอบกับแขกที่มาร่วมงานนั้น ที่เป็นฝีมือนักเรียนจากมูลนิธิออทิสติก Kanner’s ในความเป็นจริงนักเรียนจำนวนหนึ่งเหล่านี้เริ่มเรียนรู้เข้าใจในหลักสูตรการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในช่วงต้นปีนี้ โดยบรรดาแขกวีไอพีและแขกทั่วไปยังได้ชมการจัดทำแผนงานอันน่าทึ่งที่เน้นถึงแผนการทำงานร่วมกันของหน่วยประชาสงเคราะห์ เทคโนโลยีการศึกษา และศิลปะ

ดร. I-Chang, Tsai รองประธานและผู้อำนวยการสถาบันการศึกษาระบบดิจิทัลของสถาบันเพื่ออุตสาหกรรมสารสนเทศแห่งประเทศไต้หวัน Institute for Information Industry (III) กล่าวว่า “ผมเชื่อมั่นว่าระบบ Smart Education การศึกษาที่มีคุณภาพเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่จะสามารถรักษาความสามารถที่มีคุณภาพเอาไว้ เพื่อที่จะทำให้เป็น Smart City ที่เหมาะสมได้เป็นอย่างยิ่ง” Dr. H.A. Hanief Saha Ghafur, Chariman จาก Nahdlatul Ulama (NU) ซึ่งเป็นองค์กรอิสลามที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซียยังตระหนักถึงศักยภาพและเห็นว่าการศึกษาเป็นองค์ประกอบหลักของเมืองอัจฉริยะและในวันนี้ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับ Institute for Information Industry (III) เพื่อเปลี่ยนรูปแบบการเรียนรู้ของโรงเรียนในอินโดนีเซียในอนาคตอันใกล้นี้ ด้วยการมุ่งเน้นในการจัดตั้งศูนย์ประสบการณ์ในอินโดนีเซียเพื่อเป็นการเร่งรัดการเรียนรู้ในอินโดนีเซียที่จะช่วยสร้างหนทางสร้างวิสัยทัศน์ของประเทศภายในปี พ.ศ. 2568 ซึ่งเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของวิธีการแก้ปัญหาของไต้หวันในด้านการศึกษาในอนาคตในระดับนานาชาติ นิทรรศการในปีนี้นำเสนอความเป็นไปได้ต่างๆของเทคโนโลยีการศึกษา โดยไฮไลท์ที่สำคัญ ได้แก่ การนำเสนอห้องเรียนที่สมาร์ท Smart Classroom จากกรมการศึกษารัฐบาลเมืองไทเปสาธิตระบบการจัดการเรียนรู้ Cool Coins ‘COLMS’ และแอปพลิเคชันการเรียนรู้มือถือ ‘Taipei E Cool Coin’ โดยคณะครูนักเรียนจากโรงเรียนประถมของโรงเรียนประถมศึกษา Nanhu และโรงเรียนประถมศึกษา Xihu เช่นเดียวกับระบบ VR ที่ใช้ในด้านการศึกษาซึ่งจัดทำขึ้นโดยสถาบันข้อมูลอุตสาหกรรม Institute for Information Industry (III) ในการพัฒนาด้านการศึกษาสมาร์ทในไต้หวันได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาทั่วโลกรวมทั้งสหรัฐอเมริกาและยุโรป (ฟินแลนด์โปแลนด์เปรู) ตะวันออกกลาง (จอร์แดน) และเอเชีย (ญี่ปุ่นอินโดนีเซียอินเดีย) , มาเลเซีย, เวียดนาม, เนปาล, ฮ่องกงและมาเก๊า) “สำหรับพลเมืองของเมืองที่ฉลาด Smart City ที่รุ่งเรืองนั้น เราต้องวางการระบบศึกษาให้เป็นศูนย์กลางด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่พร้อมสำหรับผลประโยชน์ของทุกคน” Dr. I-Chang, Tsai กล่าวเสริม “ผู้เรียนทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถมีสิทธิเท่าเทียมเท่าเทียมกับโอกาสทางการศึกษาที่เน้นความเท่าเทียมกันและช่วยให้ตระหนักถึงศักยภาพของการเรียนรู้ที่ชาญฉลาดและเรียนรู้ควบคู่กับเมืองไปพร้อมอนาคต”

นายกเทศมนตรี Andrew Antoniolli และที่ปรึกษาจากเมือง Ipswich ประเทศออสเตรเลียรู้สึกประทับใจกับปัญหาด้านการศึกษา 10 เรื่องที่สถาบันเพื่ออุตสาหกรรมสารสนเทศแห่งประเทศไต้หวันได้แสดงให้เห็นในนิทรรศการ

Lasse Leponiemi หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการและหุ้นส่วนของ HundrED จากประเทศฟินแลนด์ได้แบ่งปันนวัตกรรมด้านการศึกษาที่สร้างแรงบันดาลใจในงาน ‘FuturE2D’

สมาชิกสภาคองเกรสจากประเทศสหรัฐอเมริกาไม่เพียงแต่ชื่นชอบคุกกี้ข้าวที่อบโดยนักเรียนมูลนิธิโรคออทิสติกของ Kanner แต่ยังทดสอบและสัมผัสประสบการณ์ในการพัฒนาระบบเกม VR ที่พัฒนาโดยสถาบันเพื่ออุตสาหกรรมสารสนเทศแห่งประเทศไต้หวัน