อินเทล แคปิตอล ลงทุนราว 17 ล้านเหรียญสหรัฐ กับบริษัทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การประกาศลงทุนในงานประชุม เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรัม ว่าด้วยภูมิภาคเอเชียตะวันออก

สะท้อนภาพการเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจสื่อออนไลน์และอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคนี้

ประเด็นข่าว

• อินเทล แคปิตอล ลงทุนใน รีบอนซ์ดอทคอม (Reebonz.com) และ เวียดนาม คอมมูนิเคชั่นส์ คอร์ปอเรชั่น (Vietnam Communications Corporation)
• ในปี 2555 อินเทล แคปิตอล ได้มีการลงทุนไปแล้วทั่วโลกกว่า 139 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
• อินเทลเล็งเห็นศักยภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่าเป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ด้านเทคโนโลยีชั้นสูง โดยมีแรงผลักดันจากเศรษฐกิจที่โตขึ้นอย่างรวดเร็วและชนชั้นกลางที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น

เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรัม, กรุงเทพฯ 31 พฤษภาคม 2555 - วันนี้ อินเทล แคปิตอล องค์กรที่ดูแลด้านการลงทุน ควบรวมและซื้อกิจการ ของบริษัท อินเทล คอร์ปอเรชั่น ประกาศการลงทุนกับสองบริษัทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งได้แก่ Reebonz.com หนึ่งในกลุ่มบริษัทอีคอมเมิร์ซของสิงคโปร์ที่ขายสินค้าระดับไฮเอนด์ (luxury goods) รายใหญ่ที่สุดในเอเชีย  และ Vietnam Communications Corporation ผู้ให้ บริการระบบสาธารณูปโภคและบริการอินเทอร์เน็ตของเวียดนาม  ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมราว 17 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่มีการเปิดเผยครั้งนี้ ถือเป็นการส่งเสริมการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในธุรกิจที่มุ่งส่งเสริมประสบการณ์ของคนบนโลกออนไลน์ในประเทศต่างๆ เพื่อผลักดันให้เกิดการใช้เทคโนโลยีและการใช้บรอดแบนด์ความเร็วสูงให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“การเข้าถึงเครือข่ายบรอดแบนด์ความเร็วสูงได้อย่างครอบคลุม และการที่ประเทศต่างๆ มีเครือข่ายออนไลน์ที่ให้บริการบรอดแบนด์แก่ผู้บริโภค คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราตระหนักถึงวิสัยทัศน์ของอินเทลที่มุ่งสร้างสรรค์และขยายขอบข่ายเทคโนโลยีการประมวลผลให้สามารถเชื่อมต่อและเติมเต็มชีวิตให้กับผู้คน”  อาร์วินด์ โสดาห์นิ ประธานของ อินเทล แคปิตอล และรองประธานบริหารของอินเทล กล่าว

“Reebonz และ VC Corp เป็นตัวอย่างของบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการนำพาผู้คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าให้สู่โลกออกไลน์ได้สำเร็จ จากการนำเสนอประสบการณ์ที่ออกแบบให้ผู้คนมีส่วนร่วมและมีลักษณะที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าในภูมิภาคนี้อย่างเหมาะสม”

“เอเชียตะวันออกเฉียงใต้นับเป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกในด้านเทคโนโลยีชั้นสูง ซึ่งเป็นผลพวงมาจากเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรุ่งเรืองและจำนวนประชากรชนชั้นกลางที่เพิ่มสูงขึ้น ด้วยเหตุนี้ เราจึงเล็งเห็นความต้องการที่สูงขึ้นในด้านอีคอมเมิร์ซและบริการที่ใช้คลาวด์ทั่วทั้งภูมิภาค และการลงทุนในครั้งนี้ จะมีส่วนในการส่งเสริมเทรนด์การเติบโตนี้ด้วย” เกรกอรี่ ไบรอัน รองประธานและผู้จัดการทั่วไป              อินเทล เอเชียแปซิฟิก กล่าว

Reebonz.com ซึ่งตั้งอยู่ที่สิงคโปร์ เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทอีคอมเมิร์ซเอกชนรายใหญ่ที่สุดในเอเชีย ที่ประกอบธุรกิจค้าขายสินค้าระดับไฮเอนด์ (luxury goods) ทั้งสินค้าแฟชั่น อย่างเช่น กระเป๋าถือ และเครื่องประดับ ให้กับลูกค้า ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียเหนือ และออสเตรเลีย  ส่วน VC Corp ซึ่งอยู่ในเวียดนาม เป็นบริษัทที่นำเสนอคอนเทนท์ออนไลน์ อีคอมเมิร์ซ สังคมออนไลน์ เครือข่ายโฆษณา และบริการเสริมบนโทรศัพท์มือถือ ทั้งนี้ อินเทล แคปิตอล ได้มีการยื่นจดทะเบียนในการลงทุนกับ VC Corp กับหน่วยงานผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องในการออกใบอนุญาตในเวียดนามแล้ว

อินเทล คอร์ปอเรชั่น เริ่มขยายธุรกิจเข้าสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตั้งแต่ปี 2515  ปัจจุบัน อินเทลมีบุคลากรกว่า 10,000 คนในภูมิภาคแห่งนี้ นอกจากโครงการลงทุนโดย อินเทล แคปิตอล ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องแล้ว อินเทล ยังมีส่วนร่วมในส่งเสริมศักยภาพที่แข็งแกร่งให้กับภูมิภาคนี้ ด้วยการดำเนินโครงการ อินเทล ทีช (Intel Teach) ซึ่งเป็นโครงการอบรมครูกว่า 520,000 คนในภูมิภาคนี้ ให้สามารถเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยยกระดับการเรียนการสอนในชั้นเรียน

อินเทล แคปิตอล เริ่มเข้ามาลงทุนในเอเชียตะวันออกฉียงใต้ ตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมา โดยได้ลงทุนเม็ดเงินไปกว่า 95 ล้านเหรียญสหรัฐฯในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านเทคโนโลยีอีกมากมาย ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเทล แคปิตอลอยู่ภายใต้การบริหารของ สุเดียร์ คุปปาม ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร และ ดีพาค   นาทาราจัน ผู้อำนวยการด้านการลงทุน โดยดีพาค นาทาราจันยังเป็นผู้จัดการด้านการลงทุนในบริษัท Reebonz และ VC Corp deals หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอินเทล ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กรุณาเยี่ยมชมที่เว็บ website at WEF

เกี่ยวกับ อินเทล แคปิตอล

อินเทล แคปิตอล  บริษัทระดับโลกด้านการลงทุน ควบรวมและซื้อกิจการ ของอินเทล ลงทุนสินทรัพย์ในบริษัทหน้าใหม่และบริษัทต่างๆ ทั่วโลกที่ทำธุรกิจด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี  อินเทล แคปิตอลลงทุนในบริษัทต่างๆ โดยมีทั้งธุรกิจในด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการ ที่มุ่งเจาะกลุ่มเอ็นเตอร์ไพรซ์ อุปกรณ์โมบาลย์ ด้านสุขภาพ อินเทอร์เน็ตสำหรับคอนซูเมอร์ สื่อดิจิตอล การผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ และเทคโนโลยีสะอาด นับตั้งแต่ปี 2534 เป็นต้นมา อินเทล แคปิตอล ได้มีการลงทุนไปแล้วมากกว่า 10.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ กับ 1,234 บริษัทใน 51 ประเทศ  ในช่วงเวลาดังกล่าว มีอยู่ 199 บริษัทที่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างๆ ทั่วโลก และมี 296 รายที่อินเทล แคปิตอล ได้ทำการซื้อหรือควบรวมกิจการ  สำหรับปี 2554 ที่ผ่านมา อินเทล แคปิตอล ได้ลงทุนเม็ดเงิน 526 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการลงทุน ต่างๆ รวม 158 ราย โดยมูลค่าการลงทุนประมาณร้อยละ 51 ของกองทุนทั้งหมดเป็นการลงทุนนอกสหรัฐฯ และแคนาดา ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อินเทล แคปิตอล และสิทธิประโยชน์ด้านต่างๆ สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ www.intelcapital.com หรือติดตามได้ที่ @Intelcapital

เกี่ยวกับอินเทล

อินเทล (NASDAQ:INTC) เป็นผู้นำระดับโลกในด้านนวัตกรรมซิลิกอน สร้างสรรค์เทคโนโลยี สินค้า รวมทั้งการริเริ่มต่างๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและการทำงานของผู้คนอย่างต่อเนื่อง ท่านสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอินเทลได้ที่ newsroom.intel.com และ blogs.intel.com.