LEADTEK เปิดตัว NVIDIA RTX PRO Blackwell ซีรีส์ใหม่ สำหรับเวิร์กสเตชันและดาต้าเซ็นเตอร์ พร้อมพลัง AI รุ่นใหม่ “ Agentic AI ”

/ ข่าวโดย: Nongkoo OverclockTeam , 31/03/2025 15:59, 54 views / view in EnglishEN
Share

LEADTEK เปิดตัว NVIDIA RTX PRO Blackwell ซีรีส์ใหม่ สำหรับเวิร์กสเตชันและดาต้าเซ็นเตอร์ พร้อมพลัง AI รุ่นใหม่ “ Agentic AI ”

1 LEADTEK เปิดตัว NVIDIA RTX PRO Blackwell ซีรีส์ใหม่ สำหรับเวิร์กสเตชันและดาต้าเซ็นเตอร์ พร้อมพลัง AI รุ่นใหม่ “ Agentic AI ”

บริษัท เอสเซนตี้ รีซอร์สเซส จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย LEADTEK ผู้นำด้านการ์ดจอประมวลผลระดับสูง LEADTEK เปิดตัว NVIDIA RTX PRO Blackwell ซีรีส์ใหม่ สำหรับเวิร์กสเตชันและดาต้าเซ็นเตอร์ พร้อมพลัง AI รุ่นใหม่ “ Agentic AI ”

LEADTEK เปิดตัว NVIDIA RTX PRO Blackwell ซีรีส์ล่าสุดของ GPU สำหรับเวิร์กสเตชันและเซิร์ฟเวอร์ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อมืออาชีพด้าน AI, วิศวกรรม, การออกแบบ 3D, การสร้างภาพเสมือน และงานครีเอทีฟที่ต้องการพลังประมวลผลระดับสูง ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดของ AI inference, Ray Tracing และ Neural Rendering ที่ทรงพลังกว่าเดิม รองรับการใช้งานตั้งแต่การสร้าง Agentic AI, การจำลองแบบเรียลไทม์, การออกแบบในโลกเสมือนจริง ไปจนถึงการพัฒนา AI ทางกายภาพสำหรับหุ่นยนต์, รถยนต์อัจฉริยะ และพื้นที่อัจฉริยะ (Smart Spaces)

2 LEADTEK เปิดตัว NVIDIA RTX PRO Blackwell ซีรีส์ใหม่ สำหรับเวิร์กสเตชันและดาต้าเซ็นเตอร์ พร้อมพลัง AI รุ่นใหม่ “ Agentic AI ”


LEADTEK เปิดตัวผลิตภัณฑ์ในซีรีส์นี้ ดังนี้


-    NVIDIA RTX PRO 6000 Blackwell Workstation Edition

-    NVIDIA RTX PRO 6000 Blackwell Max-Q Workstation Edition

-    NVIDIA RTX PRO 5000 Blackwell

-    NVIDIA RTX PRO 4500 Blackwell

-    NVIDIA RTX PRO 4000 Blackwell

3 LEADTEK เปิดตัว NVIDIA RTX PRO Blackwell ซีรีส์ใหม่ สำหรับเวิร์กสเตชันและดาต้าเซ็นเตอร์ พร้อมพลัง AI รุ่นใหม่ “ Agentic AI ”

กราฟิกการ์ดในตระกูล NVIDIA RTX PRO Blackwell มาพร้อมสถาปัตยกรรมใหม่ที่ทรงพลังในทุกมิติ เริ่มต้นจาก NVIDIA Streaming Multiprocessor รุ่นล่าสุด ที่ให้ประสิทธิภาพการประมวลผลเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 1.5 เท่า พร้อมนวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า Neural Shaders ซึ่งนำความสามารถของ AI มาผสานภายในโปรแกรมมิ่ง Shader ทำให้สามารถสร้างภาพกราฟิกที่ได้รับการเสริมด้วย AI ได้ในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ถือเป็นก้าวสำคัญของยุคใหม่แห่งกราฟิกที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์อย่างแท้จริง

ต่อเนื่องด้วย RT Cores รุ่นที่สี่ ซึ่งเป็นหัวใจของการประมวลผล Ray Tracing ที่สามารถทำงานได้เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เท่า และยังได้รับการออกแบบให้สามารถสร้างฉาก 3 มิติที่มีความสมจริงตามหลักฟิสิกส์ และซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี RTX Mega Geometry ที่ออกแบบมาให้รองรับฉากขนาดใหญ่และวัตถุจำนวนมากในการเรนเดอร์

ในขณะที่ Tensor Cores รุ่นที่ห้า ก็ได้รับการปรับปรุงเพื่อรองรับการทำงานของ AI อย่างเต็มรูปแบบ โดยสามารถประมวลผลคำสั่งด้าน AI ได้มากถึง 4,000 ล้านล้านครั้งต่อวินาที (TOPS) พร้อมทั้งรองรับความแม่นยำ FP4 ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการฝึกและใช้งานโมเดล AI ขนาดใหญ่ รวมถึงการใช้งานฟีเจอร์ขั้นสูงอย่าง NVIDIA DLSS 4 Multi Frame Generation ที่ช่วยให้การเรนเดอร์ภาพมีคุณภาพสูงขึ้นแต่ใช้ทรัพยากรน้อยลง

หน่วยความจำของ NVIDIA RTX PRO Blackwell อัปเกรดมาใช้ GDDR7 ซึ่งทั้งเร็วขึ้นและมีความจุมากขึ้น รองรับได้สูงสุดถึง 96GB สำหรับเวิร์กสเตชันและเซิร์ฟเวอร์ เพื่อให้สามารถจัดการกับชุดข้อมูลหรือโปรเจกต์ขนาดใหญ่ได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นงานออกแบบ 3 มิติขั้นสูง, การจำลองทางวิศวกรรม, การเรนเดอร์วิดีโอระดับ 8K หรือแม้แต่การสร้างสภาพแวดล้อมแบบ VR ขนาดใหญ่ในแบบเรียลไทม์

การรองรับ Error Correcting Code (ECC) ในหน่วยความจำ GDDR7 โดยตรง (Native ECC) ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของข้อมูลโดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพหรือความจุหน่วยความจำ ด้วยเทคนิคที่เรียกว่า Sideband ECC ระบบจะจัดสรรพื้นที่เล็ก ๆ แยกออกจากหน่วยความจำหลักสำหรับเก็บข้อมูล ECC โดยเฉพาะ ซึ่งจะใช้เพื่อตรวจสอบและแก้ไขความผิดพลาดในระดับบิตเดียว (Single-bit errors) หรือแจ้งเตือนความผิดพลาดแบบสองบิต (Double-bit errors) ทำให้ตอบโจทย์การใช้งานในระดับ Mission-Critical ที่ต้องการความแม่นยำและความเสถียรสูง เช่น งานวิศวกรรมขั้นสูง การคำนวณทางวิทยาศาสตร์ การจำลองโมเดล AI และงานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของข้อมูล เป็นต้น

ด้านการประมวลผลวิดีโอ NVIDIA ก็ได้นำเสนอ NVENC รุ่นที่ 9 ที่ช่วยเร่งความเร็วในการเข้ารหัสวิดีโอ และรองรับมาตรฐานสีแบบ 4:2:2 สำหรับงานตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ พร้อมกับ NVDEC รุ่นที่ 6 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการถอดรหัสวิดีโอ H.264 ได้ถึง 2 เท่า และรองรับการถอดรหัส HEVC พร้อม 4:2:2 เพื่อให้การแสดงผลวิดีโอคมชัดและประหยัดเวลาในการโหลดไฟล์ขนาดใหญ่

4 LEADTEK เปิดตัว NVIDIA RTX PRO Blackwell ซีรีส์ใหม่ สำหรับเวิร์กสเตชันและดาต้าเซ็นเตอร์ พร้อมพลัง AI รุ่นใหม่ “ Agentic AI ”

สำหรับงานแสดงผล RTX PRO Blackwell รองรับมาตรฐาน DisplayPort 2.1 ที่สามารถขับภาพความละเอียดสูงได้ถึง 4K ที่ 480Hz หรือ 8K ที่ 165Hz พร้อมทั้งรองรับ HDR และความลึกสีที่แม่นยำ เหมาะสำหรับผู้ใช้งานด้านการตัดต่อวิดีโอ, การออกแบบภาพ 3 มิติ และงานถ่ายทอดสดที่ต้องการความแม่นยำในการแสดงผลระดับสูงสุด

สุดท้าย สำหรับการใช้งานระดับองค์กร RTX PRO Blackwell ยังรองรับเทคโนโลยี Multi-Instance GPU (MIG) ซึ่งช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถแบ่งการใช้งานของ GPU ออกเป็นหลายอินสแตนซ์ในเครื่องเดียว โดย GPU รุ่น RTX PRO 6000 สามารถแบ่งได้สูงสุด 4 อินสแตนซ์ และ RTX PRO 5000 แบ่งได้ 2 อินสแตนซ์ พร้อมระบบป้องกันการรบกวนข้ามเวิร์กโหลด (Fault Isolation) ช่วยให้การจัดสรรทรัพยากรมีความปลอดภัยและยืดหยุ่น รองรับการใช้งานแบบหลายผู้ใช้ในสภาพแวดล้อมดาต้าเซ็นเตอร์หรือคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งหมดนี้ ทำให้ LEADTEK NVIDIA RTX PRO Blackwell ไม่ได้เป็นเพียง GPU สำหรับงานกราฟิกเท่านั้น แต่เป็นหัวใจสำคัญของแพลตฟอร์มประมวลผลแห่งอนาคต ที่พร้อมขับเคลื่อนทุกอุตสาหกรรมในยุค AI และกราฟิกอัจฉริยะอย่างแท้จริง

LEADTEK เปิดราคา NVIDIA RTX PRO ดังนี้ ลูกค้าที่สนใจสินค้า LEADTEK สามารถติดต่อสอบถามการพรีออเดอร์กับร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วประเทศได้แล้ววันนี้

ร่วมแสดงความคิดเห็นหรือวิจารณ์ Click!!!
Bookmark บทความ : Zickr Kudd Duocore Techkr aJigg Oncake Lefthit Meetgamer Siamcollective TagToKnow Dunweb Digza