รุกตลาด B2B ครั้งแรกในไทย กระตุ้นตลาดสมาร์ทแท็บเล็ตโตภายในสิ้นปี

กรุงเทพฯ (29 ตุลาคม 2553) – ซัมซุงฉลองความสำเร็จยอดจองแอนดรอยด์แท็บเล็ตรุ่นแรกของโลก “ซัมซุง กาแล็คซี่ แท็บ” 5,000 เครื่องทั่วประเทศ หลังเผยโฉมครั้งแรกเพียงเดือนเศษ ล่าสุดจับมือเอไอเอสเดินเครื่องขยายฐานตลาดบีทูบี (B2B) รองรับความต้องการของกลุ่มธุรกิจเชิงอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ คาดดันกลุ่มสมาร์ทแท็บเล็ต (Smart Tablet) เติบโตภายในสิ้นปีนี้

นายวิชัย พรพระตั้ง ผู้อำนวยการธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “จากกระแสความแรงของการใช้สมาร์ทแท็บเล็ต (Smart Tablet) ที่ขยายไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยในขณะนี้ ทำให้ซัมซุงประสบความสำเร็จอีกขั้นในฐานะผู้บุกเบิกตลาดสมาร์ทแท็บเล็ต และสามารถบรรลุความสำเร็จทำให้ ซัมซุง กาแล็คซี่ แท็บ แอนดรอยด์แท็บเล็ตเวอร์ชั่น 2.2 รุ่นแรกของโลก เป็นดีไวส์ที่กำลังเป็นที่ต้องการมากที่สุดในตลาด เนื่องจากความครบครันทั้งทางด้านดีไซน์และฟังก์ชันที่สามารถตอบสนอง ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่มีรูปแบบการใช้ชีวิตนอกบ้าน (On the Go) ได้อย่างลงตัว ทั้งด้านธุรกิจ การโทรศัพท์ติดต่อสื่อสาร และเพลิดเพลินกับสื่อรูปแบบต่างๆ เรียกได้ว่าเป็น “More Possibilities On the Go” อย่างแท้จริง โดยซัมซุงคาดการณ์ว่านวัตกรรมของสมาร์ทแท็บเล็ตจะเป็นจุดเปลี่ยนของการใช้ ชีวิตในอนาคตของคนยุคใหม่ภายในระยะเวลาอันใกล้

ภายหลังจากเปิดตัว “ซัมซุง กาแล็คซี่ แท็บ” ด้วยการนำเสนอสุดยอดนวัตกรรมที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีความคุ้มค่าและดีไซน์ สวยงามพร้อมรองรับการทำงานเชิงธุรกิจได้อย่างสมบูรณ์แบบมาตั้งแต่เดือน กันยายนที่ผ่านมา พบว่าขณะนี้กระแสตอบรับความสำเร็จของ “ซัมซุง กาแล็คซี่ แท็บ” โดยเฉพาะในประเทศไทยมียอดสั่งจองมากถึง 5,000 เครื่องหลังจากเปิดตัวผลิตภัณฑ์ไปเพียงเดือนกว่าเท่านั้น ทำให้ซัมซุงเพิ่มขีดความสามารถด้วยการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มเป้าหมายหลัก อีกกลุ่ม โดยเน้น Segment Marketing หรือการทำตลาดแบบเจาะกลุ่ม ด้วยการจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ “เอไอเอส” เปิดตลาดบีทูบี (Business to Business หรือ B2B) เพื่อเป็นการสร้างเครือข่ายและขยายฐานของกลุ่มผู้ใช้ “ซัมซุง กาแล็คซี่ แท็บ” ให้กระจายไปสู่ผู้บริโภคในอุตสาหกรรมและธุรกิจเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ โดยเบื้องต้นจะเป็นกลุ่มลูกค้าองค์กรที่มีอยู่ในเครือข่ายเอไอเอสและซัมซุง ก่อนที่จะขยายไปสู่องค์กรอื่นๆในวงกว้าง”

“ด้วยความโดดเด่นอย่างเหนือชั้นของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เอื้อประโยชน์ให้ซัมซุงสามารถคิดค้นและพัฒนาแอพลิเคชันใหม่ๆ เพื่อตอบสนองการใช้งานในอุตสาหกรรมและองค์กรต่างๆ ทุกที่ทุกเวลา ภายใต้แนวคิด Business On the Go โดยนำเสนอตัวอย่างกลุ่มธุรกิจ 4 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจประกันภัยรถยนต์ ธุรกิจโรงพยาบาลและการแพทย์ ธุรกิจการซื้อขายหุ้น และธุรกิจรถยนต์ โดยแอพลิเคชันที่ถูกบรรจุใน “ซัมซุง กาแล็คซี่ แท็บ” สามารถนำไปใช้ในเชิงธุรกิจให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าบีทูบีดังนี้

• ธุรกิจประกันภัยรถยนต์ เมื่อลูกค้าประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน และโทรแจ้งที่บริษัทประกันภัย บริษัทจะส่งข้อมูลลูกค้าพร้อมเลขกรมธรรม์ และแผนที่พร้อมระบุตำแหน่งของลูกค้าที่ชัดเจนไปให้พนักงานเคลมประกัน พนักงานสามารถไปถึงสถานที่เกิดเหตุได้ถูกต้อง รวดเร็ว พร้อมข้อมูลของลูกค้าครบถ้วน และยังสามารถถ่ายภาพจากซัมซุง กาแล็คซี่ แท็บ ด้วยแอพพลิเคชันพิเศษ ที่ช่วยระบุตำแหน่งในการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างง่ายดาย ส่งกลับไปยังบริษัทได้ทันที ทำให้สะดวก รวดเร็ว และลดขั้นตอนยุ่งยาก

• ธุรกิจโรงพยาบาลและการแพทย์ ด้วยการพัฒนาระบบงานตามความต้องการของทางโรงพยาบาลเพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการ จัดเก็บข้อมูลผู้ป่วยและระบบการจัดการเรื่องการจ่ายยาแบบออนไลน์ผ่านระบบ Wireless LAN และส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ช่วยยกระดับการบริการอีกขั้นด้วยความรวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ และทดแทนกระดาษจดแบบเดิม

• ธุรกิจการซื้อขายหุ้น โดยนับแต่นี้ผู้เล่นหุ้นสามารถเกาะติดตลาดหุ้นแบบ Real-time และไม่จำเป็นต้องติดตามกระดานหุ้นอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียว ด้วยหน้าจอแสดงผลขนาด 7 นิ้วของและการรองรับเทคโนโลยี Flash ของ “ซัมซุง กาแล็คซี่ แท็บ” ทำให้สามารถเปิดโปรแกรมหุ้นได้ทุกประเภท ติดตามความเคลื่อนไหวได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมทำการซื้อขายหุ้นง่ายๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัส

• ธุรกิจรถยนต์ ด้วย E-Catalogue เหนือระดับกับการนำเสนอรถยนต์ผ่าน “ซัมซุง กาแล็คซี่ แท็บ” ที่รองรับเทคโนโลยี Flash ทำให้ลูกค้าเสมือนได้เห็นรถยนต์จริงก่อนตัดสินใจ E-Catalogue ยังสามารถให้การบริการสั่งซื้อรถยนต์ในรูปแบบเฉพาะบุคคล โดยสามารถดาวน์โหลดข้อมูลรถแต่ละรุ่นผ่าน E-catalogue แสดง VDO presentation แบบ interactive พร้อมเลือกรุ่นและออปชั่นต่างๆ รวมถึง การทดลองเปลี่ยนสี อุปกรณ์ตกแต่งเพื่อปรับระดับราคาและช่วยในการตัดสินใจ ผ่านระบบ Flash configuration

“สำหรับกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเพื่อรุกธุรกิจบีทูบีนั้น จะดำเนินในรูปแบบ customization เพื่อเข้าถึงและตอบสนองความต้องการในแต่ละกลุ่มลูกค้าองค์กรอย่างเฉพาะ เจาะจง ซึ่งกิจกรรมแรกที่จัดขึ้นเพื่อสร้างการรับสู่กลุ่มลูกค้าบีทูบีรวมถึงผู้ บริโภคทั่วไปคือ จับมือกับเอไอเอสจัดงาน “ซัมซุง แท็บเล็ต เดย์ (Samsung Tablet Day)” เพื่อมอบสิทธิพิเศษ อาทิ การอบรมขั้นตอนการใช้งานผลิตภัณฑ์อย่างครบวงจร พร้อมร่วมสนุกและรับของสมนาคุณมากมายจากซัมซุง และเอไอเอส สำหรับผู้ที่มาร่วมงานจะได้รับโปรแกรมแผนที่นำทางตลอดชีพจาก Route 66 นอกจากนี้ภายในงานยังมีการจัดเวิร์คช็อปเพื่อสาธิตแอพพลิเคชันล่าสุดต่างๆ ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถขยายฐานไปสู่กลุ่มลูกค้า บีทูบี พร้อมกระตุ้นตลาดกลุ่มสมาร์ทแท็บเล็ตภายในสิ้นปี” นายวิชัยกล่าวทิ้งท้าย

ด้านนางภูมิใจ กฤติยานนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด สมาร์ทโฟน บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า “ในแง่ของ Operator เราเน้นการสร้าง Consumer Choices ให้แก่ลูกค้าในทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของสมาร์ทโฟนและสมาร์ทดีไวส์ที่ร่วมมือ กับคู่ค้าระดับโลกทำตลาดมาอย่างต่อเนื่อง เน้นการมอบบริการที่ครบถ้วน ทั้งเครือข่ายคุณภาพ, แพ็คเกจโปรโมชันที่เหมาะสม, Customer Service ที่มั่นใจได้ รวมถึงแอพพลิเคชันที่ตอบโจทย์  ซึ่งความร่วมมือกับซัมซุงในการนำ “ซัมซุง กาแล็คซี่ แท็บ”พร้อมโปรโมชันฟรี 500 เม็ก นาน 1 ปี มูลค่าถึง 6,000 บาท เข้ามาจำหน่ายและประสบผลสำเร็จ สามารถสร้างกระแสความนิยมสมาร์ทดีไวส์ในกลุ่มแท็บเล็ตได้เป็นอย่างมาก ถือเป็นสิ่งยืนยันถึงกลยุทธ์ที่กล่าวมา ดังนั้นสิ่งที่เรามองต่อจากนี้คือ การร่วมมือต่อยอดนำเสนอคุณสมบัติจาก “ซัมซุง กาแล็คซี่ แท็บ” เพื่อเสริมศักยภาพการบริหารจัดการไปยังกลุ่มลูกค้าองค์กร ในลักษณะการผสมผสานแอพพลิเคชันเข้ากับบริการ AIS Smart Solutions ในลักษณะของ End to End ที่จะ Customize รูปแบบ แอพพลิเคชันให้สนับสนุนการทำธุรกิจของแต่ละอุตสาหกรรมอย่างเป็นรูปธรรมพร้อม ด้วยบริการหลังการขาย, แพ็คเกจโปรโมชันคุ้มค่า บนเครือข่ายคุณภาพของเอไอเอส”

# # #

เกี่ยวกับ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์

บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด คือ ผู้นำระดับโลกด้านเซมิคอนดักเตอร์ โทรคมนาคม สื่อดิจิตอลและเทคโนโลยีการควบรวมดิจิตอล ในปี พ.ศ. 2551 บริษัทมียอดขายรวม 96 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีพนักงานจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 164,600 คน ประจำอยู่ที่สำนักงานกว่า 179 แห่งใน 61 ประเทศ และประกอบด้วยหน่วยธุรกิจหลัก 7 หน่วย คือ ธุรกิจจอภาพ ธุรกิจการสื่อสารไร้สาย ธุรกิจระบบโทรคมนาคม ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าดิจิตอล ธุรกิจโซลูชันไอที ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ และธุรกิจจอแอลซีดี นอกจากจะได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์ระดับโลกที่เติบโตเร็วที่สุด แล้ว ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ยังเป็นผู้ผลิตโทรทัศน์ดิจิตอล หน่วยความจำ โทรศัพท์มือถือ และจอทีเอฟทีแอลซีดีชั้นนำอีกด้วย สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ http://www.samsung.com

เกี่ยวกับ ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์

บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด คือ ผู้นำด้านเครื่องใช้ไฟฟ้า ไอที โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์เซมิ-คอนดักเตอร์ในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2551 บริษัทมียอดขายในประเทศ 22,000 ล้านบาท ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดอันดับหนึ่งในผลิตภัณฑ์แอลอีดีทีวี แอลซีดีทีวี พลาสม่าทีวี สลิมทีวี  ตู้เย็นแบบไซด์บายไซด์ ตู้เย็น 2 ประตู เครื่องซักผ้าอัตโนมัติ เตาอบไมโครเวฟ จอแอลซีดีมอนิเตอร์ เลเซอร์พรินเตอร์แบบมัลติฟังก์ชัน และออฟติคอล ดิสก์ ไดรฟ์ บริษัทมีพนักงานประมาณ 5,000 คน ในส่วนการขาย การตลาด และการผลิต สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม ได้ที่เว็บไซต์ http://www.samsung.com/th

# # #

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

ปริญดา นิลทจันทร์
บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด
โทร 0-2695-9169
อีเมล์ [email protected]

อาจารีย์ เอื้อเฟื้อ / พรชนันท์ มงคลกุล
เวิรฟ
โทร 0-2204-8154, 0-2204-8223
อีเมล์ [email protected]