Zyxel Nebula เปิดตัว UI ใหม่แบบ next-gen มาพร้อม dashboard และฟีเจอร์ใหม่สุดล้ำ
Share | Tweet |
Zyxel Nebula เปิดตัว UI ใหม่แบบ next-gen มาพร้อม dashboard และฟีเจอร์ใหม่สุดล้ำ
นครซินจู๋, ประเทศไต้หวัน, 13 มกราคม 2020 - Zyxel ประกาศเปิดตัวการออกแบบ Nebula Cloud Networking Solution ใหม่ ปรับปรุงหน้าจอผู้ใช้งาน (UI) ให้ทันสมัยกว่าเดิม ช่วยเสริมทั้งความสวยงามและประสิทธิภาพในการใช้งาน พร้อมเติมฟีเจอร์เครื่องมือการจัดการแบบอัจฉริยะและรองรับอุปกรณ์เพิ่มมากขึ้น การปรับปรุงทั้งหมดนี้จะช่วยให้ใช้งานระบบ Cloud Networks ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ปรับปรุง Dashboard เพื่อผู้ใช้งาน
สิ่งแรกที่ผู้ใช้งาน Nebula สัมผัสได้คือความสบายตาของ Dashboard บน Nebula Control Center พื้นหลังสีขาวงาช้างผสานความสวยงามของ Nebula app แบบใหม่ ช่วยให้รู้สึกสอดคล้องกันในการใช้งานทุกๆอุปกรณ์
นอกจากนี้ยังมีการเพิ่ม dark mode ให้กับ interface ของ Nebula ทั้งหมด เพื่อลดอาการล้าทางสายตาสำหรับผู้ที่ใช้งานในที่ที่มีแสงน้อย และมีปัญหากับแสงจากหน้าจอที่จ้าเกินไป ผู้ใช้สามารถสลับระหว่างหน้าจอระหว่าง bright และ dark mode ได้เพียงคลิกเดียว
ทั้งนี้ การปรับปรุงทั้งหมดไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อความสวยงามเท่านั้น จากเสียงตอบรับของผู้ใช้งาน Dashboard แบบปรับปรุงใหม่นี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน โดยผู้ใช้สามารถปรับแต่งหน้าจอได้อย่างไร้ขีดจำกัด อาทิเช่นการใช้ Widget แบบ card-style และการปรับแต่ง portal สำหรับ WiFi และ Gateway แบบที่ได้ผลลัพธ์ตรงตามในหน้าจอจริงๆ ด้วยการปรับปรุงทั้งหมดนี้ ส่งผลให้ Nebula มีประสิทธิภาพและให้ประสบการณ์การใช้งานได้ดีขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
การเชื่อมต่อเน็ตเวิร์คที่ฉลาด, ง่ายดาย และปลอดภัย
Nebula ยังมีฟีเจอร์สำคัญอีกหลายอย่างที่รับประกันได้ว่าจะช่วยพัฒนาการจัดการระบบ Cloud ให้ดีและประหยัดเวลามากขึ้น ฟีเจอร์ Startup Wizard ในตอนนี้รองรับการตั้งค่าเกตเวย์ ทำให้มั่นใจได้ว่าการตั้งค่าเน็ตเวิร์คนั้นทั้งเร็ว ง่าย และสมูบรณ์แบบ นอกจากนี้ยังมี Smart Engine ที่ช่วยให้การเรียงลำดับการตั้งค่าต่างๆของทั้งเครือข่ายเป็นไปได้โดยง่าย หากผู้ใช้งานต้องการสร้างเครือข่าย VLAN ด้วย Guest SSID ระบบ Nebula จะช่วยแนะนำการตั้งค่าผ่าน interface ของ VLAN โดยอัตโนมัติ นอกเหนือจากนั้น หากมีการเปิดการตั้งเวลาปิดการจ่ายไฟจาก PoE เพื่อประหยัดพลังงาน Nebula จะยกเว้นการแจ้งรายงานการดับของ Access Point ตัวนั้นไปยัง Access Point ตัวอื่นๆที่เชื่อมต่ออยู่ใน Switch เดียวกันอีกด้วย
การเติบโตของ Nebula เพื่ออนาคตที่ดีและรวดเร็วกว่าเดิม
การรองรับอุปกรณ์ ของ Nebula นั้นครอบคลุมมากขึ้น รวมถึง Access Point รุ่น WAX650S, NWA110AX และ WAX510D ทั้งหมดรองรับ WiFi6 (802.11ax) ตลอดจนการเสริมประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย รวมถึง MAC filtering สำหรับแต่ละ SSID, มาตรฐาน WiFi ล่าสุดอย่าง WPA3 และ Dynamic VLAN assignment ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับโรงเรียนขนาดใหญ่หรือเครือข่ายระดับองค์กรธุรกิจเพราะสามารถแยกวง VLAN ให้กับผู้ใช้งาน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยและยังง่ายต่อการจัดการอีกด้วย
ในการเปิดตัวครั้งนี้ ยังรวมถึงการเปิดตัวสวิตช์รุ่น XS3800-28 ซึ่งรองรับระบบคลาวด์ในตัว เป็นสวิตช์ 10G แบบ aggregation ซึ่งสามารถทำงานเป็นแกนหลักของเครือข่ายในระบบ Nebula ได้ ด้วยการเพิ่มความสะดวกในการจัดการระบบคลาวด์ สวิตช์รุ่น XS3800-28 จึงพร้อมใช้งานด้วยประสิทธิภาพระดับสูงสุดทันที นอกจากนี้ยังมีสวิตช์ 10G รุ่นที่เล็กกว่าเตรียมเปิดตัวในเร็วๆนี้อีกด้วย
“ด้วยศักยภาพทางธุรกิจที่สูงระดับนี้ บริษัทหลายรายเลือกเข้าสู่ตลาด Cloud Networking management แต่ส่วนใหญ่มีคุณภาพและฟีเจอร์ในการใช้งานค่อนข้างจำกัด” กล่าวโดย Crowley Wu รองประธานกรรมการ บริษัท Zyxel ฝ่าย Networking “ด้วยความเป็นผู้นำในโซลูชั่นด้าน Cloud Networking Management ระดับ SMB ทาง Zyxel ได้ล้ำหน้าอย่างยิ่งใหญ่ด้วย interface ระดับ next-gen บน Nebula รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ การปรับปรุง UI ในแนวทางที่น่าสนใจและทรงพลังครั้งนี้ ส่งผลให้ผู้ใช้งานทุกท่านสามารถใช้งานระบบ Nebula ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ”
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยว Zyxel Nebula, คลิก
สัมผัสประสบการณ์ระบบ Nebula แบบ real time, คลิก