Acer Iconia A1-830 Tablet Review : Page 1 (1/1)

Article by Northbridge On July 21, 2014 17,241 views
Acer Iconia A1-830 Tablet Review

...Acer Iconia A1-830 นั้นเป็นแท็บเล็ตแอนดรอยด์ ขนาด 7.9 นิ้ว ขนาดก็เรียกได้ว่าเท่าๆกับ ipad mini โดยตัวเครื่องได้รับการปรับปรุงในด้านสมรรถนะมาจาก A1 ในรุ่นก่อนๆ และอยู่ในระดับราคาที่ไม่แพงมากนัก คือราว 6000 บาท มาพร้อมกับซีพียูจากตระกูล Intel X86 รุ่นประหยัดพลังงานอย่าง Intel Atom พร้อมแรม 1GB ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android 4.2  และฟีเจอร์อื่นๆ เท่าที่ผู้ใช้แท็บเล็ตจะต้องการ ซึ่งเราจะลองมาชมไปพร้อม ๆ กันเลยครับ

สิ่งที่จะกล่าวถึงเป็นอย่างแรกก็คือเรื่องวัสดุ และการออกแบบตัวเครื่อง ที่ส่วนตัวผมค่อนข้างประทับใจ ในราคาระดับ 6000 บาทนี้ คุณจะได้ตัวเครื่องที่มีการตกแต่งด้วยโทนสีขาว และทริมสีโครเมียมอย่างดี ตลอดจนตัวบอดีด้้านหลังก็ทำมาจากอะลูมิเนียมสีเงิน เก็บงานมาแบบสากๆมือเล็กน้อย และให้ความรู้สึกที่แน่น และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันดีมากๆ

ด้วยขนาดหน้าจอที่พอดีกับ ipad mini ซึ่งเป็นแท็บเล็ตในขนาดที่ผมชอบ คือสามารถถือใช้งานได้เหมือนกันว่าถือพ็อคเก็ตบุค อ่านอยู่ในมือ และหน้าจอนั้นก็เป็นแบบ IPS พร้อม LED Backlit ซึ่งก็ทำให้ผมตื่นเต้นพอสมควร เพราะไม่คิดว่าแท็บเล็ตราคาไม่แพงมากแบบนี้ จะให้หน้าจอที่มีสีสันสวยงาม และสู้แสงได้ดีมากขนาดนี้ครับ

นอกจากทริมโครเมียมในบริเวณขอบข้างเครื่อง ก็จะมีทริมพลาสติกสีขาวให้เห็นบ้างบริเวณที่มีพอร์ตเชื่อมต่อ

ตัวปุ่มกดเพาเวอร์ กับโวลุม ก็ให้สัมผัสที่ดี ไม่มีการคลอน แต่ตัวปุ่มจะเป็นพลาสติกนะครับ

พอร์ต USB และ Audio Jack อยู่บริเวณใกล้เคียงกัน ภายใต้กรอบเครื่องในส่วนที่เป็นพลาสติก ส่วนกล้องก็เป็นกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ที่มีคุณภาพอยู่ในระดับที่ไม่ได้เลวร้าย แต่ก็ไม่ได้ดีมากนัก

ด้านเดียวกันกับปุ่มกด ก็จะพบว่ามีสลอตสำหรับเสียบ micro SD ด้วย ใช้งานได้สะดวกดีเหมือนกันครับ

โลโก Acer สีเงินใต้กรอบกระจกหน้าจอ

พลิกไปพลิกมา ก็หาพอร์ตอื่นๆไม่เจอละครับ สรุปก็คือมันไม่มีพอร์ต HDMI และช่องใส่ซิมการ์ด ก็แสดงว่า ต้องใช้ WiFi ในการเชื่อมต่อเท่านั้น และเท่าที่หาข้อมูลมา ก็ไม่พบ A1-830 ในรูปแบบของ 3G/G4 ครับ

ให้ดูอีกรอบว่าตัวเครื่องเมื่อถือไว้ในมือแล้ว ขนาดมันก็คือๆกับ พ็อคเก็ตบุคเล่มสวยๆเล่มหนึ่ง

 

 

 

มาดูในส่วนของการใช้งานตัวเครื่องกันบ้างครับ หน้าจอขนาด 7.9 นิ้วแบบ IPS นั้นมีความละเอียด 1024*768 พิกเซล พอดีๆ ซึ่งก็เท่าๆกับ netbook สมัยก่อน หรือหน้าจอ CRT ขนาด 17 นิ้วสมัยยุคปี 2000 นั้นแหละครับ วันนี้ความละเอียดระดับนี้มาอยู่ในแท็บเล็ตขนาด 7.9 นิ้ว ก็ทำให้สามารถดูภาพได้รายละเอียดที่สวยงาม และพื้นที่วางไอคอนที่มาก ดังภาพที่ผมแคปมาให้ดูด้านบน

สำหรับการเปิดเว็บ ก็สามารถดูหน้าโฮมเพจแบบ desktop ทั่วไปได้ แต่ถ้าคนสายตาไม่ดีก็อาจจะต้องใส่แว่นสายตายาวมองกันสักนิดหนึ่ง หรือซูมตัวอักษรดูเอา

CPU-Z

ข้อมูลจากใน CPU-Z ก็บอกเราว่าตัวซีพียูเป็นรุ่น Atom Z2560 ซึ่งก็แปลได้ว่าเป็นรุ่น 2 คอร์ แต่มี Hyper Threading ทำให้ตัว OS จะเห็นเป็น 4 Cores เสมือน ทำงานที่ความเร็วแปรผันตั้งแต่ 800-1600MHz ใช้เทคโนโลยีการผลิต 32 นาโนเมตร และกราฟฟิคใช้เป็น PowerVR SGX ครับ

ตัวชื่อของซิสเต็มก็ยังคงเห็นชื่อ Clovertrail ที่เราอาจจะเคยได้ยินมาจากเครื่อง netbook ในสมัยเก่าๆอยู่ ก็เป็นโครงสร้างที่คล้่ายๆกัน แต่ต่างกันที่ระบบปฏิบัติการ

AnTuTu X Benchmark

คะแนนของ A1-830 ก็เรียกได้ว่าทำออกมาได้ในระดับเกณฑ์กลางๆ ค่อนไปทางดีมาก เมื่อเทียบกับแท็บเล็ตหลายๆตัวในตลาด

โดยในหน้า Detail ตัวโปรแกรม AnTuTu ก็อธิบายไว้ชัดเจนครับว่าตัวเครื่องสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นขนาดใหญ่ได้ลื่นไหล และกราฟฟิคก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก

AnTuTu 3D Rating

แต่พอมาถึงการทดสอบ 3D ก็พบว่ายังทำผลงานออกมาได้ในระดับที่พอใช้งานได้เท่านั้น เพราะถ้าให้เทียบกับแท็บเล็ตพวกที่ใช้ชิป NVIDIA นั้นก็จะพบว่า Iconia A1 คะแนนยังห่างชั้นกันไกล เพราะพวกนั้นเขาจะคุยกันที่หลักหมื่นแต้มกันแล้วครับ

3Dmark

ส่วน 3Dmark ที่เป็น cross platform benchmark นั้นก็ทำคะแนนออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจ ในการทดสอบ IceStrom ดูจากเฟรมเรตแล้วป้วนเปียนในระดับ 20-30 เฟรม ก็เป็นอันว่าพอใช้การได้แล้วครับ

...ผมมีความประทับใจตั้งแต่แรกที่ได้จับ Acer Iconia A1-830 ครับ ด้วยตัวบอดี้ที่ทำให้ผมตื่นเต้นว่า นี่หรือคือแท็บเล็ตราคา 6000 บาท ดีไซน์และการประกอบ ผมคิดว่าอยู่ในระดับที่ต้องเรียกว่าไม่ธรรมดา สำหรับราคานี้ คือเรียบง่าย แต่ดูแฟชั่น ไม่หวือหวา และมีความบางในระดับที่กำลังสวย ขนาดหน้าจอ 7.9 นิ้ว ถ้านึกอะไรไม่ออก ลองนึกถึง ipad mini ครับ เท่าๆกันเลยทีเดียว ตลอดจนสมรรถนะของ Intel Atom ที่ติดเครื่องมาก็ทำให้การใช้งานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และเรียกแอพต่าง ๆ ขึ้นมาใช้ได้อย่างลื่นไหลพอสมควร แต่อาจจะยังมีจุดอ่อนในเรื่องของกราฟฟิค ที่อาจจะมีคู่แข่งในราคาที่แพงกว่ากันในระดับหนึ่ง ทำคะแนนออกมาได้ดีกว่ามาก ซึ่งภาพรวมถ้าไม่ได้เอาไว้เล่นเกมเป็นหลัก ผมคิดว่าคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรนัก

.

.