BIOSTAR H610MH REVIEW

...สวัสดีทุกท่านที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ Vmodtech.com ในวันนี้ผมก็มีรีวิวทดสอบเมนบอร์ดรุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวกันในเดือนนี้อีกรุ่นในชิปเซ็ต H610 รุ่นใหม่ล่าสุดมาให้ทุกท่านได้ชมกันอย่างต่อเนื่องครับกับเมนบอร์ดที่เป็นชิปเซ็ตรุ่นเล็กสุดราคาสุดประหยัดที่ออกมารองรับซีพีู Intel 12th Gen จากแบรนด์ Biostar แบรนด์คุณภาพกับราคาที่เป็นมิตรที่ใครหลายๆ คนชื่นชอบ โดยทาง Biostar ก็ได้ส่งเมนบอร์ดมาให้เราทดสอบในชื่อรุ่น BIOSTAR H610MH ซึ่งเป็นเมนบอร์ดใน MH ซีรี่ย์ในขนาด M-ATX ขนาดกลางรุ่นเล็กที่มีราคาไม่แพงเน้นความคุ้มค่าออกแบบมาให้เน้นการใช้งานทั่วไปรองรับซีพียู Intel 12th Gen ได้อย่างสมบรูณ์แบบ โดยเมนบอร์ดในรุ่น BIOSTAR H610MH รุ่นนี้นั้นจะรองรับแรม DDR4 ครับ ดีไซน์นั้นก็ออกแบบมาในแนวใช้งานทั่วไปด้วยโทนสีดำสนิทมีช่อเชื่อมต่อที่จำเป็นให้มาใช้งานครบครันรองรับการ DIY เพิ่มเติมได้ครับ ข้อแตกต่างจากรุ่น B660 กับ H610 ก็คือรุ่น H610 นั้นจะเน้นใช้งานแบบเดิมๆ ไม่สามารถโอเวอร์คล๊อกทั้งซีพียูและบัสแรมได้ครับ แต่สำหรับ B660 จะปรับบัสแรมหรือโอเวอร์คล๊อกแรมได้นั่นเองครับ สำหรับ H610 จะใช้บัสแรมได้สูงสุดที่ความเร็ว 3200Mhz นั่นเองครับ

...

...แม้จะเป็นชิปเซ็ต H610 ในระดับเล็กแต่เมนบอร์ด BIOSTAR H610MH นั้นก็จัดฟีเจอร์มาให้ใช้งานอย่างครบครันในระดับเมนบอร์ดรุ่นเล็กที่เน้นความคุ้มค่าครับไม่ว่าจะเป็น Super Hyper PWM , Super Durable Solid Caps , PCIe 4.0 , PCIe M.2 32Gb/s , Intel GbE LAN , Debug LED , Smart Update ,  BullGuard Internet Security (90 days FREE trial) , UEFI BIOS , A.I FAN  , Debug LED , HD Audio , ถือได้ว่าให้มาใช้งานกันคุ้มค่าเลยครับ เดี๋ยวเราไปชมกันครับว่าประสิทธิภาพของเมนบอร์ด BIOSTAR H610MH เมื่อใช้านกับซีพียูระดับกลางตัวคุ้มอย่าง Core i5 12400F จะเข้ากันมากน้อยขนาดไหน ก่อนอื่นเราไปชมรายละเอียดจากหน้าเว็บไซต์ BIOSTAR กันก่อนครับ

INTRODUCTION

เราไปชมรูปร่างหน้าตาของ BIOSTAR H610MH กันต่อเลยครับ

BIOSTAR H610MH Appearance

ตัวกล่องมาในแนวสีดำบอกชื่อรุ่น BIOSTAR H610MH เอาไว้ชัดเจนครับ

ด้านหลังบอกฟีเจอร์การทำงานต่างๆ เอาไว้ครบถ้วนครับ

อุปกรณ์ต่างๆ ประกอบด้วย คู่มือ ,  สาย SATA 2เส้น

ตัวเมนบอร์ด BIOSTAR H610MH ดีไซน์เน้นความเรียบง่ายเน้นความคุ้มค่าตัว PCB สีดำสนิท

ขนาดเมนบอร์ด Micro ATX Form Factor Dimension: 20.8cm x 23.6cm ( W x L )

ดีไซน์ดูเรียบง่ายแต่ก็จัดวางช่องเชื่อมต่อให้ง่ายต่อการใช้งานและ DIY กันได้พอสมควรครับ

ตัวเมนบอร์ดก็เน้นใช้งานทั่วไปอาจจะไม่ได้สวยงามหรูหราเน้นใช้งานทั่วไปเป็นหลักครับ

ดีไซน์ขนาดเล็กขนาด M-ATX เหมาะกับท่านที่จะประกอบเคสใช้งานทั่วไปได้สบายครับ

ภาคจ่ายไฟแบบมาตรฐาน Super Hyper PWM 10เฟสพร้อมคาปาซิเตอร์เกรดดี Super Durable Solid Caps ที่จ่ายไฟอย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดการทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพตลอดการใช้งานครับ

ใช้ซ๊อกเก็ต Intel® Socket LGA 1700 ใหม่ล่าสุดรองรับหน่วยประมวลผล Support for 12th Generation Intel Core™ i9/ i7/ i5/ i3 processors and Intel Pentium processors/ Intel Celeron processors in the LGA1700 package

สล็อตแรมมีด้วยกัน 2ช่อง รองรับแรมแบบ DDR4 1866/ 2133/ 2400/ 2666/ 2933/ 3200 สำหรับชิปเซ็ต H610 จะใช้บัสแรมได้สูงสุดที่ความเร็ว 3200Mhz นั่นเองครับ

ไฟเลี้ยงซีพียู 8พิน 1ช่องครับ

ช่อง SATA มี 4ช่องทำงานด้วยกัน 4 x SATA 6Gb/s ports

ชิปเซ็ต H610 รุ่นใหม่ล่าสุด

ฮีตซิงค์อลูมิเนียมขนาดเล็กสีดำสนิทระบายความร้อน

อีกฝั่งก็จะเป็นระบบเสียง ALC897 7.1 Channels, High Definition Audio เน้นเสียงใช้งานทั่วไป

สล๊อต PCIe ประกอบด้วย PCIe x16 slots 1ช่องครับ

ช่อง M.2 มีทั้งหมด 1ช่องการทำงาน 1 x M.2 (M Key) Socket (M2_PCIEG3_32G_ SATA)

ช่องเชื่อมต่อด้านหลังมี pre-installed IO shielding ป้องกันอันตรายในการใช้งานและมีช่องเชื่อมต่อให้มาเยอะพอสมควรครับ

1 x PS/2 Keyboard/Mouse Port 1 x HDMI 1 x VGA Port 2 x USB 3.2 (Gen1) ports 4 x USB 2.0 ports 1 x LAN port 3 x Audio Jack

PCB ด้านหลังสีดำสนิทครับ

เราไปชมผลทดสอบอื่นๆ กันต่อเลยครับ

Test Setup

SYSTEMS
.CPU	.INTEL CORE i5 12400F
.Thermal Grease	.Noctua NT-H2 THERMAL PASTE
.Motherboard	.BIOSTAR H610MH
.Memory	..KLEVV CRAS X DDR4 3600Mhz
.Graphic Card	. ASUS GeForce RTX 2080 Ti DUAL
.Harddisk	. Plextor M6PRO 256 / KINGSTON SSD 256GB
.CPU Cooler	..Water Cooling
.Power Supply	..MSI MPG A850GF 80 PLUS GOLD POWER SUPPLY
.Operation System	..Windows 10 64-bit

รายละเอียดต่างๆของระบบที่ใช้ทดสอบกันในวันนี้ครับ ซีพียูเป็น INTEL CORE i5 12400F รุ่นกลา Non K รุ่นใหม่ล่าสุดครับพร้อมจัดเต็มคู่กับเมนบอร์ด BIOSTAR H610MH ตัวคุ้มราคาประหยัดของทาง BIOSTAR รุ่นใหม่ล่าสุดดีไซน์จัดเต็มร่วมกับ ASUS GeForce RTX 2080 Ti DUAL กราฟฟิกการ์ดจากทางเอซุสครับ

บรรยากาศขณะทดสอบ อุณหภูมิประมาณ 28-30องศาฯ ด้วยระบบระบายความร้อนด้วยน้ำธรรมดา

CPU-Z

โดยซีพียูที่ใช้งานคือ INTEL CORE i5 12400F 6C/12T ใช้งานที่ความเร็วปกติเพราะไม่สามารถโอเวอร์คล๊อกได้ครับ โดยบัสแรมสามารถปรับสุงสุดได้ที่ความเร็ว DDR4 3200Mhz กับเมนบอร์ดระดับเล็กราคาประหยัดสุดคุ้มในชิปเซ็ต H610 ที่ใช้งานได้จริงตลอดการทดสอบครับ

GPU-Z

ส่วนการ์ดจอที่ใช้งานนั้นเป็น ASUS GeForce RTX 2080 Ti DUAL ตัวแรงเลยครับ

AIDA64

เราไปชมผลทดสอบกันต่อเลยครับ

SuperPI 1MB

SuperPI 32MB

HyperPI 32MB

สำหรับชุด SuperPi 1MB อยู่ที่เวลา 8.182นาที SuperPI32 อยู่ที่เวลา 6นาที 45.72นาที HyperPi32MB ก็ผ่านทุกการทดสอบเวลานั้นเร็วแรงดีเยี่ยมไปเลยครับใช้งานได้จริงอย่างมีเสถียรภาพ

ไปดูผลทดสอบด้านอื่นๆกันต่อเลยครับ

wPrime2.10 , CPUMark99 WINRAR 5.0 Benchmark

ส่วน Winrar นั้นอยู่ที่ 19264KB/s โปรแกรม Fritzchess นั้นอยู่ที่ 54.09คะแนนครับและ wPrime อยู่ที่เวลา 109วินาที แรงทุกการทดสอบกันเลยทีเดียว

CPU-Z Benchmark

CPU-Z Benchmark อยู่ที่ 4979คะแนนครับ แรงเลยทีเดียว

X264 FHD

ผลทดสอบโดยรวม X264 กดกันไป 56.63FPS แรงดีเลยครับ

Geekbench 5

Geekbench 5 คะแนนอยู่ที่ 8781คะแนนเลยครับ แรงมากครับ

Corona 1.3 Benchmark

Corona เรนเดอร์ที่เวลา 1นาที 58วินาที เรนเดอร์ได้แรงเลยครับ

FRYRENDER X64

Fryrender เวลาอยู่ที่ 2นาที 5วินาที เรนเดอร์ได้ดีใช้ได้ครับ

AIDA64 Cache & Memory Benchmark

ผลทดสอบค่า Memory ก็แรงทั้งอ่าน/เขียน/ก๊อปปี้เลยครับ อยู่ที่ 49425 MB/s , 46967 , 46466MB/s กับบัสแรม DDR4 3200Mhz ซึ่งประสิทธิภาพอ่าน/เขียนแรงดีทั้งคู่ครับ ทั้งอ่าน/เขียนเลยครับ แรงเยี่ยมจริงๆ

เราไปชมผลเทสอื่นๆกันต่อเลยครับ

Blender Render 2.82

ในการทดสอบโปรแกรม Blender Render 2.82 ประสิทธิภาพที่ทำออกมาได้ดีครับอยู่ที่ 3นาที 25วินาทีเท่านั้นครับในไฟล์ไม่ใหญ่มาก

Cinebench 20

Cinebench 23

โปรแกรม Cinebench ทุกเวอร์ชั่นประสิทธิภาพ Multi Core ที่แรงเต็มพลังทุกการทดสอบเลยครับ ใช้งานได้ดีเลยครับกับซีพียูระดับกลาง

เราไปชมผลด้านกราฟฟิกกันต่อเลยครับ

PCMark10

PCMark10 อยู่ที่ 7122คะแนน แรงเลยครับ

3DMark11

3Dmark11 รวมอยู่ที่ 33079คะแนน แรงดีเลยครับด้านกราฟฟิก

3DMark 2013

Fire Strike คะแนนรวมอยู่ที่ 2615คะแนน แรงดีเลยครับ ขับพลังกราฟฟิกได้ดี

3DMark Time Spy Extreme คะแนนรวมอยู่ที่ 5938คะแนน แรงยอดเยี่ยมครับด้านกราฟฟิก DX12 ขับพลังกราฟฟิกออกมาได้อย่างแรงดีจริงๆ

Unigine 2

Unigine2 อยู่ที่ 8182คะแนน แรงดีเช่นกันครับกับคะแนนกราฟฟิก DX12

เราไปชมบทสรุปในช่วงท้ายกันเลยครับ

Conclusion

...ก็มาถึงบทสรุปครับกับการรีวิว BIOSTAR H610MH เมนบอร์ดระดับเล็กที่เน้นความประหยัดในราคาที่ไม่แพงในชิปเซ็ต H610 รุ่นใหม่ล่าสุดที่รอรับซีพียู Intel 12th Gen ได้อย่างสมบรูณ์ใช้งานกันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพดังที่ท่านได้เห็นในบททดสอบกับการใช้งานร่วมกับซีพียู Core i5 12400F ในรุ่นกลาที่เค้นพลังออกมาได้อย่างสมบรูณ์แรงมาเต็มทุกการทดสอบกันเลยทีเดียว ในเรื่องของความร้อนที่ใครหลายๆ คนอาจจะกังวลเพราะตัวเมนบอร์ดไม่มีฮีตซิงค์ที่ภาคจ่ายไฟและจุดอื่นๆ ในการใช้งานจริงนั้นไม่เป็นปัญหาครับความร้อนนั้นไม่ได้สูงมากนักและใช้งานโหลดหนักๆ ความเร็วไม่ตกหรือดรอปลงให้เห็นก็ถือว่าภาคจ่ายไฟแบบ Super Hyper PWM ทั้ง 10เฟสและคาปาซิเตอร์ Super Durable Solid Caps ออกแบบมารองรับซีพียูทุกระดับได้อย่างสบายๆ พร้อมใช้งานครับ

.

...ด้วยดีไซน์การออกแบบที่เรียบง่ายเน้นการใช้งานทั่วไปให้ฟีเจอร์มาพร้อมใช้งานครบครันเน้นความคุ้มค่าไม่ว่าจะเป็น Super Hyper PWM , Super Durable Solid Caps , PCIe 4.0 , PCIe M.2 32Gb/s , Intel GbE LAN , Debug LED , Smart Update ,  BullGuard Internet Security (90 days FREE trial) , UEFI BIOS , A.I FAN  , Debug LED , HD Audio , ก็ถือว่าให้มาพอสมควรพร้อมใช้งานทั่วๆ ไปครับ แม้จะเป็นเมนบอร์ดรุ่นเล็กแต่ก็ยังให้ PCIe 4.0 มาให้ใช้งานและมี M.2 ให้อีกด้วยในราคาไม่เกิน 3พันบาทซึ่งผมมองว่ามันถูกมากๆ เหมาะสำหรับท่านที่เน้นเมนบอร์ดราคาถูกประหยัดแต่ได้ความคุ้มค่าเพียงพอต่อการใช้งานแม้จะไม่ได้มีช่องเชื่อมต่อมาให้เยอะแต่ด้วยราคาและประสิทธิภาพที่เน้นไปที่ภาคจ่ายไฟที่รองรับการทำงานซีพียูรุ่นใหญ่ได้ใช้งานแบบสบายๆ ก็ถือเป็นจุดเด่นของเมนบอร์ด BIOSTAR H610MH รุ่นนี้ครับ

.

...ถ้าท่านกำลังมองหาเมนบอร์ดรุ่นเล็กไม่เน้นดีไซน์เน้นใช้งานจริงและเน้นความประหยัดให้ฟีเจอร์ที่สำคัญๆ มาใช้งานทั่วไปที่ให้มาครบและที่สำคัญราคาถูกมากแค่ 2,890บาทเท่านั้น BIOSTAR H610MH เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับท่านที่จะประกอบคอมพีซีสำหรับองค์กร การศึกษา สำนักงาน หรือใช้งานทั่วไปที่บ้าน Home Use แบบจัดสเปกเล็กๆไปจนถึงระดับกลางสุดคุ้มกับซีพียู Core i3 / Core i5 / Pentium / Celeron ที่ราคาไม่แพงใน Gen12 มาใช้งานได้แบบคุ้มค่าผมมองว่า BIOSTAR H610MH เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่าเลยครับ

...

...โดยราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 2,890บาทไทย พร้อมวางจำหน่ายตามร้านไอทีชั้นนำทั่วไปหรือตัวแทนจำหน่ายในเร็วๆ นี้ครับ แล้วพบกันใหม่กับรีวิวอุปกรณ์ใหม่ๆที่อัพเดทให้ได้รับชมกันทุกวันที่ Vmodtech.com สวัสดีครับ

...

ราคา 2,890บาท 87USD

..

...

.

...

ขอบคุณที่ติดตาม

Dodge Vmodtech

.

.

Special Thanks.

BIOSTAR