Review : Asus ML239H monitor : Page 1 (1/1)
...เชื่อว่าทุกท่านในที่นี้น่าจะคุ้นเคยกับจอ LCD ที่ผู้ผลิตทั้งหลายก็ต่างพยายามจะเรียกมันใหม่ว่ามันคือ LED monitor ทั้งที่จริงๆแล้วไส้ในมันก็คือ LCD เพียงแค่เปลี่ยนอุปกรณ์ส่องสว่างฉากของเจ้าพาแนล LCD ให้มาเป็นหลอดแบบ LED ก็เท่านั้นเองครับ แต่สำหรับวันนี้ ผมมีเรื่องน่าตื่นเต้นกว่าเรื่องของ LED มาให้คุณผู้อ่านได้ลองสัมผัสเปิดโลกทัศน์กัน ก็คือจอ Asus ML239H ซึ่งเป็นจอ LCD ขนาด 23 นิ้วที่ใช้พาแนลแบบ IPS มีมุมมองการรับชมภาพ(โดยที่สีไม่เพี้ยน) กว้างถึง 178องศา ทั้งแนวตั้งและแนวนอน
ภาพแสดงจอ Asus ML239H ปรับเอนหน้าขึ้นจนสุดและหมุนออกด้านข้างเล็กน้อย
Specifications
Display | Panel Size: Wide Screen 23.0"(58.4cm) 16:9 Panel Type : IPS True Resolution : 1920x1080 Full HD 1080P : Yes Pixel Pitch : 0.2652mm Brightness(Max) : 250 cd/㎡ ASUS Smart Contrast Ratio (ASCR) : 50000000:1 Viewing Angle (CR≧10) : 178°(H)/178°(V) Response Time : 5ms (Gray to Gray) Display Colors : 16.7M |
Video Feature | Trace Free Technology SPLENDID Video Intelligence Technology SPLENDID Video Preset Modes : 6 Modes Skin-Tone Selection : 3 Modes Color Temperature Selection : 4 Modes HDCP support |
Convenient Hotkey | SPLENDID Video Preset Mode Selection Auto. Adjustment Brightness Adjustment Contrast Adjustment Input Selection |
I/O Ports | Signal Input : HDMI ,D-Sub,DVI-D (via HDMI-to-DVI cable) AV Audio Input : HDMI Earphone jack : 3.5mm Mini-Jack (for HDMI Only) |
Signal Frequency | Analog Signal Frequency : 30~85 KHz(H)/ 55~75 Hz(V) Digital Signal Frequency : 30~85 KHz(H)/ 55~75 Hz(V) |
Power Consumption | Power On: <40W Power saving mode:<0.5W Power Off mode: <0.5W |
Mechanical Design | Chassis Colors : Black Tilt : +20°~-5° Swivel : Yes |
Dimensions | Phys. Dimension with Stand(WxHxD): 560.7x428.6x220.4mm Box Dimension (WxHxD):640x510x145mm |
Weight | Net Weight (Esti.): 3.9kg Gross Weight (Esti.): 6.1kg |
Accessories | VGA cable Power adapter Power cord Quick start guide HDMI-to-DVI cable Warranty Card |
...Asus ML239H นั้นเป็นมอนิเตอร์ 23 นิ้ว ดังเสป็คสรุปใจความสำคัญๆออกมาได้ทำนองว่า ใช้พาแนลแบบ IPS ความละเอียดขนาด 1920*1080 (Full HD) แบบ 16:9 อัตตรา refresh rate (เปลี่ยนจากสีเทา ไป ดำ แล้วกลับมาเทา) อยู่ที่ 5ms และมีมุมมองการรับชมภาพกว้างถึง 178องศาด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Splendid ซึ่งจะเป็นโปรไฟล์สีภายในจอที่สามารถปรับเปลี่ยนค่าให้เหมาะกับการรับชมคอนเทนท์ต่างชนิดกันได้ด้วย
ซึ่งก่อนที่เราจะมาทำความรู้จักกับจอแบบ IPS กัน ผมคิดว่าเราน่าจะมาทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่าครับว่าพาแนลแบบ IPS นั้นคืออะไร
...จอ LCD นั้นประกอบไปด้วยผลึกคริสตัล ที่ถูกกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้า ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบนพื้นพาแนลที่ประกอบไปด้วยผลึกคริสตัล วิธีการกระตุ้นผลึกดังกล่าวนั้นก็มีอยู่ด้วยกันหลายวิธีครับ โดยที่หลักๆแล้วเราก็จะได้เห็นมอนิเตอร์ทั่วไปนั้นจะเลือกใช้การจัดเรียง ผลึกและชุดอิเลกโทรดที่ใช้ในการขับพิกเซลที่แตกต่างกันออกไปตามแล้วแต่ เทคโนโลยีที่ใช้ พาแนลแบบ IPS (In-plane switching) นั้นแตกต่างจากมอนิเตอร์ธรรมดาที่มักมีขายกันอย่างแพร่หลายที่มักใช้พาแนล แบบ TN ตรงที่ พาแนลแบบ IPS นั้นจะมีการวางตัวอิเลกโทรดที่ใช้ในการสวิทช์ผลึกคริสตัลแต่ละผลึก เอาไว้ในแนวระนาบเดียวกัน ในขณะที่พาแนลแบบ TN นั้นจะมีการวางอิเล็กโทรดเอาไว้ในแนวดิ่งประกบคู่กัน
...ผล ลัพท์ของการจัดเรียงอิเลกโทรดแบบดังกล่าวนั้นทำให้พาแนลแบบ IPS มีจุดแข็งในเรื่องของมุมมองในการรับชมภาพที่กว้างที่สุดในบรรดาพาแนลหลายๆ แบบ การขับสีสัน รายละเอียดต่างๆ จะทำได้เที่ยงตรงตามโปรไฟล์ได้ดีกว่าพาแนลแบบ TN แต่อาจจะด้อยกว่าบ้างในเรื่องของ response time ซึ่งปัจจุบันก็เรียกได้ว่าพัฒนามาจนถึงขั้นที่ตาคนเราจะแรกความแตกต่างออกได้ยากมากแล้ว โดยที่แน่นอนว่า ของดีกว่า ราคาก็ย่อมแพงกว่าครับ IPS นั้นส่วนใหญ่แล้วจะเป็นพาแนลที่ถูกบรรจุอยู่ในจอ LCD หรือ LCD TV ระดับไฮเอนด์ๆสักนิดหนึ่ง หรือจอสำหรับดีไซน์เนอร์ที่ใช้คอมพิวเตอร์ทำมาหากินเฉพาะด้าน
...ดีไซน์โดยภาพรวมของ ML239H นั้นออกมาในแนวง่ายๆ ขนาดไม่ใหญ่โตเทอะทะโต๊ะทำงานมากนัก ถึงแม้จะมีขนาดถึง 23 นิ้ว แต่ก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าใหญ่กว่าจอจำพวกขนาด 21.5 นิ้วเสียเท่าไรนัก เนื่องมาจากดีไซน์ที่ดูเรียบง่าย เป็นเหลี่ยมๆแบนๆนั้นเองครับ
ตัวบอดี้ของจอนั้นส่วนใหญ่ทำมาจากพลาสติก พื้นพลาสติกส่วนใหญ่เป็นผิวมันวาว เรียกได้ว่า high glossy กันเลยทีเดียว
...อินเตอร์เฟสเชื่อมต่อของเจ้า ML239H นั้นอาจจะดูแปลกๆไปเสียหน่อยครับ เนื่องจากมันเป็นจอ LCD สำหรับคอมพิวเตอร์ธรรมดา แต่ดันมีพอร์ต HDMI มาให้ ซึ่งจริงๆแล้วตัวมันเองก็ไม่ได้มีลำโพงในตัวแต่อย่างใด แต่ก็มีช่องสำหรับเสียบหูฟังหรือลำโพงเป็นแจ๊คขนาด 3.5mm มาให้ ก็เพราะว่าสาย HDMI นั้นถ้าจะให้เรียกกันง่ายๆก็คือมันก็คล้ายๆกับเราเอาสาย digital DVI มาผสมกับสายสัญญาณเสียงแบบ digital เข้าไปด้วยกันในเส้นเดียวนั้นแหละครับ นอกจาก HDMI แล้ว ML239H ก็ยังสนับสนุนการต่อสัญญาณเข้ามาแบบ DVI ด้วยในกล่องของจอตัวนี้จะมีสาย DVI to HDMI มาให้หนึ่งเส้นด้วย แล้วที่ขาดไมได้ก็คือ DSUB แบบ analog มาตรฐานที่คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องน่าจะใช้งานกันได้นั้นเอง
...สังเกตได้ว่า ML239H นั้นจะมีช่องสำหรับเสียบไฟ DC เลี้ยงตัวจอ ทั้งนี้เพราะว่าตัวจอตัวนี้นั้นจะไม่มีสวิชชิงเพาเวอร์ซัพพลายอยู่ภายในตัว ต้องอาศัยใช้อะแดปเตอร์ หรือสวิชชิงเพาเวอร์ซัพพลายแบบเครื่องโน๊ตบุ๊กในการจ่ายไฟให้กับตัวจอนั้นเองครับ ซึ่งก็มีข้อดีอย่างนึงคือทำให้ตัวมันมีน้ำหนักเบาและดูเรียบร้อยบนโต๊ะทำงานมากขึ้นกว่าจอขนาดหนาๆหนักๆ
...เมื่อเราทดลองเปิดรูปภาพต่างๆดูบนหน้าจอบนโปรไฟล์มาตรฐานของตัวจอ ก็จะพบว่าสีสันที่ได้นั้นดูสมจริงและเที่ยงตรง ดูแล้วไม่มีเฉดสีใดเฉดสีหนึ่งแหลมออกมาให้เห็นกระแทกลูกตาเลยครับ และคอนทราสต์ไม่จัดมากเหมือนจอที่ผมคุ้นเคยที่บ้าน ซึ่งนี่คือนิสัยปกติของพาแนลแบบ IPS อยู่แล้ว ซึ่งสีสันแนวๆนี้ผมคิดว่าบางทีอาจจะไม่เหมาะสำหรับการนำไปใช้งานทางด้านบันเทิง เช่นดูหนัง ที่บางทีเราก็ต้องการสีสันฉูดฉาด และไม่ได้สนใจเรื่องของความเที่ยงตรงถูกต้อง และรายละเอียดของสีมากนัก
ซึ่งแน่นอนว่ามุมมองในการรับภาพของพาแนลแบบนี้นั้นเป็นจุดแข็งอยู่แล้ว ผมพยายามถ่ายภาพมาให้ได้เห็นสักมุมสองมุม ว่า 178องศา ของจริงนั้นน่ะ มันเป็นอย่างไร
ปุ่มกดตั้งค่าต่างๆนั้นจะเป็นปุ่มแบบซอฟท์สวิชที่กดใช้งานง่ายพอสมควร และจะมี LED เรืองแสงอยู่เมื่อเราเอานิ้วมือไปรูดผ่านหรือสัมผัสมัน
...อย่างไรก็ดี หากท่านจะนำเอาจอ ML239 ไปใช้กับงานบันเทิงต่างๆผมแนะนำว่าให้เปิดใช้งานโหมดสีของ Splendid ซึ่งจะทำการล็อคค่าสี คอนทราส และความสว่าง ให้เหมาะสมกับสถานการการใช้งานต่างๆ ตามภาพด้านบน รวมไปถึงโหมด sRGB ซึ่งก็พอที่จะคบใช้งานได้ในกรณีที่เอาไว้ดูภาพถ่ายเพื่อให้แน่ใจว่าสีจะไม่เพี้ยน แต่สำหรับการทำงานที่ต้องการความเที่ยงตรงจริงๆ โหมดเหล่านี้ควรจะถูกปิดการทำงานไปเสียให้หมด และใช้การ calibrate อย่างละเอียดอีกครั้งครับ . . ...สรุปปิดท้ายด้วยราคาที่ผมเช็คจากเว็บของดีคอมเองอยู่ที่ 7500 ราคานี้ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าไม่ถือว่าแพงจนเกินไปนัก เพราะถ้าเทียบกับจอพาแนลแบบ TN ขนาด 23 นิ้วในตลาดส่วนใหญ่จะอยู่ที่ราวๆห้าหรือหกพันบาท (อาจคลาดเคลื่อนได้) จ่ายเพิ่มอีกด้วยเม็ดเงินเท่านี้ได้คุณภาพเน้นๆ ใครที่ทำงานทางด้านดีไซน์ด้วยคอมพิวเตอร์แล้ว มองหามอนิเตอร์แบบ IPS ไว้ใช้สักตัวหนึ่ง ก็น่าจะทำให้คุณเข้าขั้นถึงความเป็นมืออาชีพและทำงานด้วยสภาพแวดล้อมสีที่เที่ยงตรงมากขึ้นกว่าจอแบบ TN ธรรมดาก็เป็นได้ครับ หรือหากจะนำจอตัวนี้ไปใช้งานเพื่อความบันเทิงทั่วๆไป Splendid color mode ในตัวจอก็สามารถตอบสนองการทำงานได้ดีเลยทีเดียวจากการทดลองนั่งปรับเล่นอยู่สักพักหนึ่ง.
.
ขอขอบคุณ
ASUS