Review : Motorheadphone Motorizer Headset : Page 1 (1/1)
...วันนี้ อาจจะมาเริ่มต้นกันแบบดุดันนิดหนึ่งครับ เพราะวันนี้ผมก็ได้รับหูฟัง "Motorheadphones" ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหูฟังที่ตั้งชื่อผลิตภัณฑ์ ตามชื่อวงดนตรีร็อคแนว Heavy Metal จากอังกฤษในชื่อวง "Motorhead" นั้นเอง ซึ่งวันนี้ที่ผมได้มานั้นก็เรียกได้ว่าเป็นหูฟังรุ่นใหญ่ที่สุด ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ในแบรนด์ Motorheadphones กันเลยทีเดียวกับรุ่น Motorizer ซึ่งก็อีกนั้นแหละครับ ชื่อ Motorizer นั้นก็มาจากชื่ออัลบัมของวงนี้อีกเช่นกัน ตัวหูฟังนั้นเป็นหูฟังครอบหูฟูลไซส์ตัวท๊อป ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานที่เน้นความทนทาน ใช้ฟังเพลงก็ได้ หรือจะใช้ในงานของ DJ ก็ดี และตัวสายแจ๊ก 3.5มม. นั้นก็จะมีไมโครโฟน และสวิชสำหรับควบคุมการทำงานของโทรศัพท์ไอโฟนได้อีกด้วย เรียกได้ว่าซื้อตัวเดียว จบและครบเครื่องเลยครับ
..เมื่อ ลองหยิบตัวหูฟังขึ้นมาพบว่า ตัวหูฟัง เฮาส์ซิง หรือตัวบอดี้มันเนี่ยส่วนใหญ่แล้วทำมาจากพลาสติกลายหนัง ที่เป็นวัสดุคือๆกันกับพวกกล่องใส่กีต้าร์นั้นแหละครับ เท่าที่ทดลองหยิบจับดูก็พบว่ามีความแข็งแรงและดูน่าจะทนทานดี
...จะ เห็นได้ว่าบริเวณตัวลูกหูฟังนั้นก็จะสามารถปรับหมุนได้อิสระพอสมควร สามารถยกตัวหูขึ้นมา จับฟังหูเดียว แบบที่ดีเจหรือผู้ควบ คุมเสียงใช้มอนิเตอร์เสียงในระบบได้เลยครับ ตัวฟองน้ำ เป็นจุดที่ผมประทับใจมากที่สุดในตัวหูฟังนี้ เพราะปกติแล้ว ผมจะเกลียดการใช้หูฟังแบบครอบหู เพราะมันอบ ทำให้รู้สึกอึดอัด แต่สำหรับเจ้า Motorizer แล้ว ลืมเรื่องนั้นไปได้เลยครับ เพราะฟองน้ำนั้นหุ้มด้วยผ้าเนื้อนุ่มสบาย และสามารถระบายอากาศได้ ในขณะเดียวกันก็สามารถปิดครอบหูได้สนิท สร้างบรรยากาศในการฟังเพลงที่ดีเลยทีเดียว
โครง สร้างนั้นก็ง่ายๆไม่ซับซ้อนอะไร ปรับระดับสูงต่ำไม่ได้ แต่ตัวโครงนี้ก็จะค่อนข้างยืดหยุ่นพอสมควรครับ สามารถทำให้มันเหมาะสมกับสรีระศรีษะของแต่ละคนได้สบายๆ
...วัสดุ นั้นเป็นคล้ายๆกับยางแข็งๆ ที่สามารถยืดหยุ่นได้พอสมควร ในขณะเดียว กันก็ให้ความทนทานในระดับที่ผมคิดว่า หายห่วง ชนิดว่าผมคิดเอาเองนะครับว่านั่งทับก็ไม่น่าจะเป็นอะไร แต่อย่ากระโดดเหยียบมันก็เป็นพอครับ
...ด้าน ข้างนั้นมีการปั้มนูนโลโกของ Motorhead มา ดุดันเอาเรื่อง และก็จะสังเกตว่าตัวหูฟังนั้นสามารถถอดสายแยกเก็บออกจากกันได้ ซึ่งผมคิดว่าเป็นไอเดียที่ดีสำหรับคนที่อาจจะไม่ได้อยากใช้เจ้าตัวไมโครโฟน กับชุดควบคุมเสียงที่แถมมา ก็อาจะจไปซื้อสายออดิโอทั่วไป มาเสียบแทนกันได้ ซึ่งก็จะทำให้เราปรับความสั้นยาวได้ง่ายขึ้น
.
.
...ส่วน ของการทดลองฟัง ผมได้ทดลองฟัง แต่ไม่ได้ละเอียดอะไรมากนัก พอจะจับใจความได้ก็คือเรื่องของความมีมิติของเสียงเนี่ยทำได้ดีมาก ตามสไตล์ของหูฟังครอบหูนี่แหละครับ ต้องเรียนตามตรงว่าปกติแล้วผมเองจะมีหูฟังตัวโปรดเป็น Senheiser MX880 ซึ่งเป็นหูฟังยัดหูธรรมดา พอฟังมันนานๆก็จะรู้สึกชิน มาจับเจ้า Motorizer แล้วก็รู้สึกเลยว่า มิติของเสียงมันได้บรรยากาศในการฟังเพลงได้ดีกว่าหูฟังยัดหูที่ผมคุ้นเคยมากเลยทีเดียว เสียงดนตรีเท่าที่ฟังดู ก็ไม่มีย่านไหนที่พร่ามัวจนน่ารำคาญ ทั้งย่านต่ำ กลางเสียงร้อง และย่านสูงๆ ก็ทำออกมาได้ดีครับ เบสตัวนี้จะมาแบบผู้ดี และมีให้ได้ตึบตับกันพอสมควรครับซึ่งก็เป็นไปตามขนาดของมัน ส่วนเสียงคนร้อง กับเสียงเครื่องดนตรีที่เป็นเมโลดีสูงๆ ก็ทำได้ใสเคลียร์ อาการบาดหูมีให้เห็นได้บ้าง แต่ไม่มากเท่าไร แต่สิ่งที่ยังขาดสำหรับตัวหูฟังตัวนี้คือ การแยกแยะความรู้สึกของเครื่องดนตรีแต่ละชนิด ที่ผมคิดว่ายังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร อารมณ์ประมาณว่า ความหนักแน่นของเสียงมันทำให้ผมเบนความสนใจของเครือ่งดนตรีแต่ละชนิดออกไป จนรู้สึกว่าเสียงมันพันๆกันไปหมด
.
.
สำหรับวันนี้ก็ต้องลาไปก่อน สวัสดีครับ