Review : Sony Handycam NEX VG-10E : Overview (1/5)
...สำหรับวันนี้ก็มาถึงคิวของรีวิวอุปกรณ์ หรือจะเรียกได้ว่าเป็นของเล่นราคาแพงจากโซนี่อย่าง Handycam NEX VG-10E ที่เป็นกล้องวีดีโอใหม่ที่ยังคงจะอยู่ในไลน์ของแฮนดีแคม แต่ว่าจะเข้าไปใช้งานระบบอุปกรณ์เสริมของ NEX ได้อย่าง VG-10E ตัวนี้ กล่าวคือ Handycam ตัวนี้นั้นจะเป็นกล้องวีดีโอที่สามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ แบบเดียวกับกล้องตระกูล NEX ของโซนี่ และใช้เลนส์ E mount นั่นเองครับ
...เริ่มต้นจากตัวกล้อง โดยภาพรวมนั้นกล้อง Handycam NEX VG-10E นั้นก็มีขนาดที่ไม่ได้ใหญ่มากนัก ตามคอนเซ็ปต์ของทั้ง NEX และ Handycam เป็นขนาดที่ยังคงสามารถใช้งานกันได้ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย และยังคงสามารถถือพกพาไปเที่ยวในวันหยุดได้อย่างสะดวกสบาย ในขณะที่ยังคงคุณภาพและลูกเล่นที่ดีและหลากหลายกว่ากล้องขนาดคอมแพคทั่วๆไปไว้ได้อยู่ครับ
...การถือใช้งานนั้น สามารถถือได้โดยง่าย ใช้มือเสียบเข้ากับตัวสายรัดมือที่ติดมากับตัวกล้อง ก็สามารถถือถ่ายได้ตามปกติ
...กล้อง NEX VG-10E นั้นเป็นกล้องวีดีโอขนาดเล็ก ที่มีขนาดของเซ็นเซอร์เท่ากับฟอแมต APS-C ที่เป็นมาตรฐานของกล้อง DSLR ในทุกวันนี้ ซึ่งจากข้อมูลของทางโซนี่นั้นเคลมมาครับว่าขนาด APS-C ของตัวกล้อง VG-10E นี้นั้น ใหญ่กว่าเซ็นเซอร์ของกล้องวีดีโอขนาดเล็กทั่วไปถึง 19.5 เท่า ซึ่งผลลัพท์ที่ได้ก็คือ คุณภาพของงานที่ออกมานั้นจะให้รายละเอียดสีสันที่ดีกว่า รวมไปถึงสัญญาณรบกวนที่ต่ำกว่ากล้องวีดีโอขนาดเล็กทั่วไป รวมไปทำให้ผู้ถ่ายภาพสามารถเล่นกับมิติ หรือความชัดตื้นชัดลึก (ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ) ได้อีกด้วย
...โดยตัว Handycam NEX VG-10E ตัวนี้ จะใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ Exmor CMOS ที่เป็นเทคโนโลยีการออกแบบ CMOS ล่าสุดของโซนี่ ที่ช่วยลดสัญญาณรบกวนและเพิ่มประสิทธิภาพของตัวเซ็นเซอร์ ในขณะที่ยังคงให้ความละเอียดในระดับสูง โดยในตัว VG-10E นี้ ในโหมดภาพนิ่ง สามารถให้ความละเอียดได้มากถึง 14 ล้านพิกเซล และ วีดีโอ สามารถถ่ายได้ในระดับ 24mbps 1080 หรือในระดับ Full HD และยังสามารถเร่งความไวแสงได้มากถึงระดับ ISO 12800 อีกด้วย
...ตัวกล้องนั้นสามารถถอดเปลี่ยนได้ โดยใช้แปลนเมาท์แบบ Sony E-Mount ที่ใช้ร่วมกันกับกล้อง NEX ทั้งสองรุ่นก่อนหน้านี้ รองรับระบบ Auto Focus แบบ 25 จุด แบบ Contrast AF ในการถ่ายภาพนิ่ง และนอกจากนี้ ยังรองรับเลนส์จากกล้องตระกูล Alpha และ Minolta A mount ได้โดยผ่านตัวแปลงที่ต้องซื้อแยกต่างหาก โดยหากนำเลนส์ Alpha หรือ Minolta A mount มาใช้แล้วนั้น จะไม่สามารถใช้งานระบบ Auto Focus ได้
...ซึ่งผลลัพท์จากการที่มันสามารถเปลี่ยนเลนส์ได้นี้เอง จึงทำให้ NEX VG-10E นั้นเป็นกล้องวีดีโอขนาดเล็ก ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับกล้องวีดีโอระดับมืออาชีพ ในขนาดและราคาที่เล็กกว่านั้นเองครับ ซึ่งรายละเอียดลูกเล่น สำหรับท่านที่เคยถ่ายภาพด้วยกล้อง DSLR ก็คงพอจะทราบกันว่ากล้องที่เปลี่ยนเลนส์ได้ สามารถเปลี่ยนเลือกเอาเลนส์สำหรับการถ่ายภาพเฉพาะทาง หรือเลนส์ที่มีคุณสมบัติพิเศษในแบบต่างๆมาใช้สร้างสรรค์ผลงานได้มากมาย
...ตัวกล้องดีไซน์มาให้มีขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป ในขณะเดียวกัน ก็ยังต้องคงไว้ซึ่งฟีเจอร์การใช้งานแบบมืออาชีพ อย่างเช่นช่องมองภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) ด้านบน ที่สามารถพับขึ้นได้แบบในรูปภาพด้านบน สำหรับงานที่ต้องใช้งานกล้องวีดีโอบนขาตั้งกล้อง และตัวช่างภาพเองต้องยืนถ่ายงานอยู่ตลอดเวลา การพับช่องมองภาพขึ้นแบบนี้ก็ช่วยให้ทำงานได้สะดวกขึ้นพอสมควรเลยทีเดียว
...แปลนเมาท์เลนส์ที่เมื่อติดตั้งเลนส์คิตที่แถมมากับตัวกล้องไปบวกกับใส่ Hood ให้เรียบร้อย ก็ทำให้ตัวกล้องดูมีขนาดใหญ่และบึกบึนขึ้นมาพอสมควรเหมือนกันครับ และเมื่อไมโครโฟนถูกติดตั้งตัวกันลมไปแล้ว ก็ยิ่งทำให้ดูน่าสนใจขึ้นมาถนัดตา
...ไมค์โครโฟนติดในตัวกล้องนั้น ก็เป็นไมค์ชั้นดีพอสมควรเลยครับ รองรับการอัดเสียงมาตรฐาน Dolby Digital 7.1 กันเลยทีเดียว
...ด้านขวามือของตัวกล้อง ที่จะเป็นพื้นที่สำหรับการจับถือหลัก ก็จะเป็นวัสดุยางสังเคราะห์ที่จับค่อนข้างถนัดมือ แต่จะมีอารมณ์แข็งๆอยู่บ้าง ไม่เหมือนยางในกล้อง DSLR รุ่นใหญ่ๆ ที่แบบนั้นจะเป็นยางที่จับสบาย แต่เปื่อยง่าย
...ใต้ฝาปิดฝาแรก ก็จะมีพอร์ต USB 2.0 สำหรับเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ และ HDMI Out สำหรับต่อแสดงผลออกทางขอ LCD TV ได้โดยตรง
...บริเวณด้านบนตรงส่วนนี้ จะเป็นช่องไว้สำหรับต่อสัญญาณเสียงเข้าอัดโดยตรง ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานกับไมโครโฟนไร้สายของโซนี่เองเพื่อใช้ในการถ่ายรายการได้เช่นกัน
...NEX VG-10E นั้นรองรับทั้งการถ่ายภาพเคลื่อนไหว และภาพนิ่งที่ค่อนข้างสมบูรณ์เลยครับ โดยที่หัวกล้องนั้นก็จะมี Hot shoe มาตรฐานของ Sony หรือจะใส่กับแฟลชMinolta เก่าๆก็ได้ (อันสีดำ) ส่วนอันสีเงิน ก็จะเป็น Hot shoe แบบมาตรฐาน ที่มีไว้สำหรับติดตั้งอุปกรณ์เสริมอื่นๆ แต่ไม่รองรับการสั่งยิงแฟลชแบบ Manual ใน Hot shoe สีเงินนะครับ ถ้าจะใช้แฟลช ก็ต้องไปที่อันสีดำเท่านั้น