Quick Preview : Sony Tablet S1 : Page 1 (1/1)
...ก่อนอื่นคงต้องขออภัยท่านผู้อ่านหลายๆท่านที่อาจจะติดตามเนื้อหาเกี่ยวกับโน๊ตบุ๊กและแท็บเล็ต ที่มาอัพเดตบทความ preview ชิ้นนี้ให้ช้ากว่าปกติ จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ แต่ใจความนั้นคือเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ที่ผ่านมานั้นทางโซนี่ไทย ได้ทำการเปิดตัว "Tablet" ที่หลายๆคนอาจจะมองว่ามาช้าไปเสียหน่อย ปล่อยให้ค่ายไต้หวันปล่อยหมัดออกมามากมายจวบจนจะเป็นปี แต่แน่นอนว่าด้วยแบรนด์โซนี่และตามสไตล์ของค่ายนี้ ต้องมีอะไรมาให้ได้เซอไพรส์กันแน่นอน ซึ่งผมคิดว่าใครที่ตามข่าวจากเว็บต่างประเทศหลายๆเว็บน่าจะได้เห็นหน้าค่าตากันไปบ้างแล้ว วันนี้เราจะมาชมกันครับว่า Sony Tablet S1 นั้นจะมีรูปร่างหน้าตาและคุณสมบัติเป็นอย่างไร แบบไทยๆตามสไตล์เรากัน
...บรรยากาศในงานเปิดตัวผมคงจะไม่ได้โฟกัสอะไรมาก เพราะคิดว่าคงจะไม่ค่อยเป็นประโยชน์ต่อท่านที่สนใจตัวแท็บเล็ตเสียเท่าไรนัก หลักๆสำคัญคือ มร. โทรุ ชิมิซึ กรรมการผู้จัดการของทางโซนี่ไทยได้ขึ้นมากล่าวพูดเปิดงานและอธิบายคร่าวๆเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์ ซึ่งในภายหลังก็ได้มีสตาฟของทางโซนี่ที่เป็นคนไทยมาอธิบายให้ฟังอย่างละเอียดกันอีกครั้งครับ
...Sony Tablet S1 นั้นเป็นแท็บเล็ตบนแพลตฟอร์มแอนดรอย เวอร์ชั่น 3.2 ภายในนั้นจะเป็นขุมพลัง NVIDIA Tegra 2 1GHz Dual-Core ซึ่งผมเคยเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับเจ้าโปรเซสเซอร์ตัวนี้ไปแล้วว่ามันเป็นโปรเซสเซอร์บนพื้นฐานของ ARM ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มหลักที่ Android จะสามารถรันได้ เปิดตัวมาทั้งหมดสองรุ่นด้วยกันคือ 16GB และ 32 GB ราคา 14900 และ 17900 บาท ตามลำดับ ซึ่งทั้งสองรุ่นจะมีการเชื่อมต่อเครือข่ายได้เพียงแค่ WiFi เท่านั้น ยังไม่มีรุ่น 3G ออกมาแต่อย่างใด
...ถึงแม้ว่าเราจะได้เห็นแท็บเล็ตจากแบรนด์ยักษ์ใหญ่จากทางฝั่งญี่ปุ่นอย่างโซนี่กันช้ากว่าแบรนด์จากทางไต้หวันหรือทางฝั่งฝรั่ง แต่โซนี่เองก็ภูมิใจในการออกแบบ และความละเมียดละไม และความ"Unique" ในสไตล์โซนี่ เริ่มต้นที่ดีไซน์ที่มาในรูปแบบของ "นิตยสารพับครึ่ง" และน้ำหนักที่เบาเพียง 598กรัม ตัวจอความละเอียด 1280x800 ขนาดหน้าจอ 9.4 นิ้ว ซึ่งถือเป็นขนาดที่ผมขอเรียกว่า "อินดี้" เพราะไม่มีแท็บเล็ตแอนดรอยเจ้าไหนในตอนนี้เลยที่จะมีขนาดจอ 9.4 นิ้วแบบนี้ ซึ่งผมคิดว่าความรู้สึกขณะใช้งานจริงนั้น ไม่ต่างอะไรไปจากพวกจอ 10.1 มากนักครับ
...การจับถือในมือ ทั้งแนวตั้งและแนวนอน การออกแบบในสไตล์นิตยสารพับครึ่งดังกล่าวของโซนี่ถือว่าประสบความสำเร็จครับ มันทำให้การถือด้วยมือเพียงข้างเดียวทำได้ง่ายกว่าพวกเครื่องบางๆอย่างไอแพด หรือกาแล็คซี่ อยู่พอสมควรเลยทีเดียว และแน่นอนว่าคุณคงไม่อยากที่จะหาเคสหรือแจ็คเก็ตอะไรก็แล้วแต่มาสวมมันแน่ๆถ้ามันทำออกมาแล้วจับถนัดมือได้แบบนี้ แต่อย่างไรก็ดี ทางโซนี่ก็มี accessories ดังกล่าวขายแยกอยู่ด้วยเช่นกันครับ
ที่บอกว่าง่ายกว่าพวกเครื่องบางๆแนวๆ slim-line ในสมัยนี้ส่วนหนึ่งเพราะดีไซน์เท็กซ์เจอร์ด้านหลังที่จะมีปุ่มๆมาให้ด้วย ดูสวยงามและมีประโยชน์ใช้สอย ประกอบกับเวลาโดนลายนิ้วมือหรือรอยขีด ก็จะดูไม่น่าเกลียดนัก
...แน่นอนว่า Ergonomics ที่ดี แลกมากับความหนาที่มันจะต้องมีบ้างในระดับหนึ่ง ซึ่งผมคิดว่าคงไม่ใช่ประเด็น เพราะน้ำหนักตัวมันค่อนข้างเบาทำให้พกพาได้ง่ายอยู่แล้ว ส่วนตรงนี้ที่ท่านเห็นคือปุ่ม Power, Volume รวมไปถึงช่องลำโพง
...ภายใต้ฝาปิดมีพอร์ต Micro USB ที่สามารถทำงานได้ทั้งโหมด Host และ Client หมายความว่า ใช้เสียบเข้ากับ PC ก็ได้ หรือจะเอาไว้ใช้เสียบเข้ากับอุปกรณ์ USB อย่างแฟลชไดร์ฟผ่านสายแปลงก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ภายในนั้นยังมีการ์ดรีดเดอร์สำหรับเมมโมรีการ์ดแบบ SD (แบบเต็มใบ) มาให้ด้วย ซึ่งก็น่าแปลกว่าทำไมไม่มีตัวอ่านสำหรับ Memory stick มาให้
หล่อเหลาเอาการเมื่อเชื่อมเข้ากับแท่น Docking
...โซนี่พยายามชูจุดเด่นในเรื่องของความง่ายในการจัดการสื่อผสม (มัลติมีเดีย) ต่างๆภายในตัวแท็บเล็ต ด้วยฟีเจอร์ DLNA ที่จะทำให้เราสามารถแสดงภาพถ่าย วีดีโอ และเพลง ผ่านทางระบบ WiFi ขึ้นไปบนจอทีวีที่สนับสนุน DLNA ได้โดยตรงโดยไม่ต้องทำการต่อสายสัญญาณภาพแต่อย่างใด ดังภาพที่ทางทีมงานของโซนี่กำลังสาธิตอยู่นั้นเองครับ โดยที่แท็บเล็ตหนึ่งเครื่อง สามารถผูกเข้ากับทีวีได้หลายเครื่องเหมือนกัน แต่จริงๆแล้วผมขอตั้งขอสังเกตว่า DLNA นั้นไม่ใช่สิ่งใหม่ เพราะในโทรศัพท์ Android 2.2 ที่ผมใช้งานอยู่นั้นก็มีให้สามารถใช้งานได้เช่นกันครับ (คงจะเป็นบางรุ่น)
...อีกจุดหนึ่งที่น่าจะเป็นจุดเด่นสำหรับคนนิยมโฮมเธียเตอร์ ก็คือ Tablet S1 นี้สามารถเรียนรู้สัญญาณรีโมตอินฟาร์เรดของเครื่องเล่นหรือโทรทัศน์ทั่วๆไปได้ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ที่มีรีโมตอินฟาเรดใช้ โดยที่ในตัวโปรแกรมดังกล่าวก็จะมีฐานข้อมูลโทรทัศน์โซนี่มาให้บ้างอยู่แล้ว
...นอกจากนี้โซนี่ยังสร้างความแตกต่างด้วยการพอร์ตเอาเกมของ Playstation 1 มาลงเอาไว้ในตัวเครื่อง Tablet S1 ไว้อีกด้วยครับ ซึ่งเกมดังกล่าวจะสงวนไว้ทำงานได้ก็เฉพาะกับเครื่อง Tablet ของทางโซนี่ ซึ่งถือว่าเป็น Tablet ที่เป็น "Playstation Certified" เท่านั้น ตอนนี้เข้าใจว่ายังมีให้เลือกไม่มาก แต่อนาคตทางโซนี่ได้ทำฐานข้อมูลเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าไปดาวโหลดเกม PS1 มาเล่นในเครื่อง Tablet ของตนเองได้ ส่วนการควบคุมนั้นก็ใช้หน้าจอในการกดปุ่มเป็นหลัก หรือว่าจะใช้ Dual Shock ของ PS3 ที่เป็นแบบไร้สายก็ได้เช่นกัน
รายละเอียดตัวเครื่อง ดูกันจะจะว่า Android 3.2.1 แล้ว !
...อินเตอร์เฟสการใช้งานทั่วๆไปก็ไม่ต่างจากเครื่องแอนดรอยอื่นๆมากนัก มีการปรับแต่งในบางส่วนเท่านั้น โดยใน Tablet S1 นี้จะไม่มีปุ่ม hard button ในการเลือกหน้า home หรือเข้าเมนูเลือก apps จะต้องใช้ soft key ในหน้าจอหลักกดเอาเองครับ
หน้าจอเลือก apps ทำออกมาในโทนสีขาวสบายตาและไอคอนใหญ่พอสมควร
หน้า Favourite ทำให้การจัดการ apps ที่ใช้บ่อยๆทำได้ง่ายขึ้น แทนที่จะลากขึ้นไปไว้แกะกะกับ widget อื่นๆที่มีประโยชน์ในการแสดงข้อมูลแบบ realtime บนหน้า home
.
.
...ถือได้ว่าเป็นการเข้ามาที่ผมเรียกได้ว่าค่อนข้างช้า แต่เป็นสเต็ปการก้าวที่รุกคืบไปอย่างมีชั้นเชิงของโซนี่เลยทีเดียว ตัว Tablet S1 นั้นสร้างความแตกต่างและคงความเป็นโซนี่ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ซึ่งความเป็นโซนี่นั้นไม่ได้หมายความว่าจะไม่เปิดรับผู้ใช้หน้าใหม่ที่ไม่เคยมีอุปกรณ์คอนซูเมอร์อิเลกทรอนิกส์ของโซนี่ใช้งานในบ้านเลย เพราะ S1 นั้นเรียกได้ว่าถึงแม้จะมีเอกลักษณ์หลายๆอย่างเป็นของตัวเอง แต่ฟีเจอร์หลายๆอย่างนั้นไม่ได้อยู่ในระบบปิดจนเกินไป ทำให้มันดูเป็น Tablet ที่น่าใช้และมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง มากกว่าของจากหลายๆค่ายที่พยายามจะไปเลียนแบบทางฝั่ง apple เขาครับ
...สเป็คที่เปิดมาผมคิดว่าพอไปได้ สำหรับคนที่ไม่ได้ต้องการ Tablet ไว้ต่ออินเตอร์เน็ทผ่าน Cellular network หรือเรามักจะเรียกกันว่า 3G กล่าวคือเหมาะสำหรับคนที่มี Smartphone ใช้งานและสามารถเปิด personal hotspot ใช้งานเองได้อยู่แล้ว Tablet S1 ราคาที่เปิดมา 14900.- ในรุ่น 16GB และ 17990.- ในรุ่น 32GB เทียบกับฟีเจอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ และความแรงของโปรเซสเซอร์ NVIDIA Tegra 2 Dualcore ถือว่าไม่ได้ถูก แต่ก็ไม่เรียกว่าแพง เพราะมันมีมูลค่าในตัวมันอยู่ครับ
.
.
