บ้านผมรออย่างเดียวครับ คุณเปิ้ล ......
คลองเปรมประชากรอยู่หน้าบ้านเลยอ่ะครับ ห่างกันแค่ถนนกับซอยคั่นอีก 30 เมตร
หวังไว้ในความสามารถของรุ่นพ่อรุ่นพี่ในกทม ที่วางแผนเรื่องน้ำ ทำกันมากว่า ยี่สิบปีแล้ว
ตั้งแต่ฝนสองพันปี มหาจำลองครับ เค้าเริ่มทำกันตั้งแต่รุ่นนั้นจริงๆ (รุ่นพี่ที่เค้าทำกัน เคยชวนผมไปช่วย)
เชื่อมั่น แต่ไม่ค่อยวางใจเท่าไหร่ครับ บ้านสร้างใหม่ ผมเช็คระดับน้ำกลับไป 30 ปี แล้วค่อยทำระดับบ้าน
พื้นบ้านผมสูงกว่าถนนใหญ่อยู่ประมาณ 80 ซม ในกรณีฉุกเฉินจริงๆ กันกระสอบทรายทางเข้่าบ้านประมาณเมตรครึ่ง
กับอุดทางเข้าท่อระบายน้ำอีก 6 จุด คงรับน้ำได้อีกสัก 30 ซม. ก่อนน้ำเข้าชั้นล่างทางหน้าต่าง (ขอบหน้าต่างล่างผมห่างจากพื้นแค่ 30 ซม ทำบานสูงอยากได้แสงมากๆ) ระดับนี้เท่ากับระดับคันกั้นน้ำริมคลองประปาพอดีครับ สูงกว่านี้ คนกรุงไม่มีน้ำใช้แล้วแน่ๆ
ว่าๆไป ฝนมันก็ไม่น่าจะมากขนาดทำลายสถิติยี่สิบปีนะ ความเห็นผมคงเป็นเรื่อง การจัดการน้ำซะมากกว่า
น่าจะมีสองสามประเด็น ที่คิดแล้วปวดใจ
หนึ่งคือ ไม่ฉลาด ระดับไม่รู้ว่าเรื่องน้ำเป็นปัญหา
สองคือ รู้แต่ไม่สนใจ เพราะไม่ได้ผลประโยชน์
สามคือ รู้แต่ปล่อยให้เกิด เพราะไม่มีฝีมือแก้
สี่คือ รู้แต่ปล่อยให้เกิด เพราะจะได้ทานตามน้ำได้ (มีรัฐบาล ที่แล้ว เป็นตัวอย่าง)
ตอนนี้มีแต่พูดเรื่องเงินต้องใช้เท่าไหร่อีก ฝันจะแก้ปัญหาอนาคตกับการใช้เงินหลายแสนล้าน
แต่ปัญหาอยู่ตรงหน้า ยังแก้ไม่ได้เลยอ่ะนะ
ความเห็นผมนะ ไม่ใช่เราไม่มีกระทรวงน้ำ หรือ งบประมาณหรอกครับ
เราไม่มีคนที่มีความสามารถที่ทำได้ต่างหาก มีแต่พวกมีโอกาสได้ทำ แต่เอาแต่ประโยชน์เข้าตัวเองและพวกเนาะ
ผมสงสารลูกหลานผมจริงๆ
กลัวเป็นแบบกรีก เนาะ.....