26 กุมภาพันธ์ 2556 – เอปสัน เดินหน้าเปิดตัวพรินเตอร์อิงค์แท็งค์ตระกูลแอลซีรี่ส์ (L-series) เพิ่มอีก 2 รุ่น ขยับรุกตลาดโฮมยูส หลังกวาดส่วนแบ่งตลาดลูกค้าองค์กร และสถาบันการศึกษา ล่าสุดเตรียมจัดโครงการประกวดหนังสั้น รณรงค์วัยรุ่นเลิกใช้แท็งค์เถื่อน
มร.เออิจิ คาโตะ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตั้งแต่เอปสันเปิดตัวพรินเตอร์แอลซีรี่ส์ในเดือนพฤษภาคม 2554 เน้นบุกตลาดลูกค้าองค์กร ทั้งบริษัทเอกชน และหน่วยงานราชการ ไปจนถึงสถาบันการศึกษา ซึ่งจะมียอดซื้อเครื่องและน้ำหมึกจำนวนมาก และเพิ่มขึ้นตลอดเวลา โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี โซโห พรินเตอร์แอลซีรี่ส์ของเอปสันกลายเป็นที่นิยมอย่างมาก
“ในวันนี้ เอปสันจะขยายขอบเขตการทำตลาดแอลซีรี่ส์ ให้ครอบคลุมตลาดโฮมยูสมากขึ้น หลังจากที่เราประสบความสำเร็จในตลาดองค์กร และสถาบันการศึกษา โดยจะยังเน้นจุดเด่นในเรื่องความคุ้มค่าในการพิมพ์ ด้วยต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นที่ถูก เพียง 6 สตางค์ สำหรับงานพิมพ์ขาวดำ และ 12 สตางค์สำหรับงานพิมพ์สี น้ำหมึกราคาถูก ช่วยประหยัดค่าไฟ ทั้งยังมีคุณสมบัติพิเศษมากมายช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับการทำงานของลูกค้า และที่สำคัญ คือลูกค้าจะได้รับการรับประกันจากเอปสัน”
“สำหรับตลาดโฮมยูส คู่แข่งหลักของเอปสันไม่ใช่พรินเตอร์แบรนด์คู่แข่ง แต่เป็นเครื่องอิงค์แท็งค์ประกอบเอง หรือเครื่องแท็งค์เถื่อน เราจึงต้องหากลยุทธ์ที่เหมาะสมกับลูกค้ากลุ่มนี้ เพื่อให้ความรู้และเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ ซึ่งเอปสันมั่นใจว่าแอลซีรี่ส์จะได้รับการตอบรับเพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าว่าจะสามารถทำยอดขายในตลาดโฮมยูสเพิ่มขึ้น 50% ภายในปีนี้” มร.คาโตะ กล่าว
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงตลาดพรินเตอร์อิงค์แท็งค์ในปัจจุบันว่ามีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อ ก่อน โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าองค์กรที่เริ่มเข้าใจในปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมา เมื่อเลือกใช้เครื่องแท็งค์เถื่อน ทั้งความเลอะเทอะเมื่อเปลี่ยนหมึก อายุการใช้งานของหัวพิมพ์ที่สั้นกว่าที่ควรจะเป็น ภาระค่าซ่อมแซมที่ลูกค้าต้องแบกรับเอง เนื่องจากสินค้าจะไม่มีประกันคุ้มครอง คุณภาพของงานพิมพ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ในขณะที่ลูกค้าโฮมยูส ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ใช้จะเป็นนักเรียน นักศึกษาที่ต้องใช้พิมพ์รายงาน ก็เริ่มมีบางส่วนที่เลือกใช้เครื่องอิงค์แท็งค์แท้ เพราะไม่แน่ใจในคุณภาพของเครื่องแท็งค์เถื่อน”
“เอปสันเตรียมทุ่มงบการตลาดราว 20 ล้านบาท เพื่อโปรโมทแอลซีรี่ส์ และให้ความรู้ลูกค้าเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ จากเครื่องแท็งค์เถื่อน ผ่านกิจกรรมการตลาด และสื่อโฆษณาต่างๆ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังจัดโครงการประกวดหนังสั้น ภายใต้ชื่อ ‘เอปสัน ท้าชน ทุกแก๊งค์ แท็งค์เถื่อน’ ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 2 แสนบาท และยังได้เชิญสองผู้กำกับชื่อดังของเมืองไทย คุณปรัชญา ปิ่นแก้ว และคุณคมกฤษ ตรีวิมล มาร่วมเป็นกรรมการตัดสินการประกวด”
โครงการดังกล่าวเป็นการประกวดหนังสั้นความยาว 10 นาที ระดับนักศึกษา ประเภททีม ทีมละ 2 – 5 คน โดยนักศึกษาที่สนใจสมัครสามารถดูรายละเอียดและดาวน์โหลดใบสมัครได้ทาง
www.epson.co.th หรือ
www.facebook.com/EpsonThailand ส่งใบสมัคร พร้อมสตอรี่บอร์ดไอเดียของหนังภายใต้หัวข้อ “ข้อเสียของการใช้แท็งค์เถื่อน” ภายใน 31 มีนาคม เพื่อคัดเลือกเหลือ 20 ทีมสุดท้าย ใน 3 เมษายน และประกาศรางวัลผู้ชนะเลิศใน 10 พฤษภาคม ทีมชนะเลิศจะได้รับทุนการศึกษา 100,000 บาท พร้อมโล่ห์และใบประกาศเกียรติคุณ รองชนะเลิศอันดับหนึ่งรับ 50,000 บาท พร้อมโล่ห์และใบประกาศเกียรติคุณ รองชนะเลิศอันดับสองรับ 30,000 บาท พร้อมโล่ห์และใบประกาศเกียรติคุณ และรางวัลผลโหวตยอดนิยม รับ 20,000 บาท พร้อมโล่ห์และใบประกาศเกียรติคุณ
สำหรับสินค้าใหม่ที่เอปสันเปิดตัวในครั้งนี้ มีด้วยกัน 2 รุ่น ได้แก่ L355 และ L550 เป็นเครื่องรุ่นมัลติฟังก์ชั่น ที่รวมการพิมพ์ สแกน และถ่ายเอกสารไว้ด้วยกัน L355 มีจุดเด่นตรงที่การเชื่อมต่อแบบไร้สาย ในขณะที่ L550 จะเพิ่มฟังก์ชั่นแฟกซ์ และการเชื่อมต่อผ่าน LAN ทั้งสองรุ่นมีขนาดกะทัดรัด สามารถพิมพ์ขาวดำได้เร็ว 9 ipm และพิมพ์สี อยู่ที่ 4.5 ipm รองรับการเชื่อมต่อผ่านแอพพลิเคชั่น Epson iPrint ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ แอนดรอย เปิดตัวพร้อมประกัน 1 ปี หรือ 30,000 หน้า (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) และโปรโมชั่น แถมหมึกพิมพ์สีดำ 2 ขวด
“ภายในปีหน้า เอปสันยังคงมั่นใจในสินค้ากลุ่มแอลซีรี่ส์ ว่าจะยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งมีแผนที่จะทำการตลาดมากขึ้น เพื่อครอบคลุมกลุ่มผู้ใช้งานพรินเตอร์ให้มากขึ้น ด้วยความโดดเด่นในเรื่องของความประหยัด รวมไปถึงคุณภาพงานพิมพ์ที่ดีเยี่ยม ที่เครื่องพิมพ์แท็งค์เถื่อนไม่สามารถเทียบได้ ซึ่งในที่สุดแล้ว เชื่อว่าผู้บริโภคจะรับรู้ถึงความคุ้มค่าสูงสุดจากแอลซีรี่ส์ และไม่พบความจำเป็นที่จะต้องเลือกใช้เครื่องแท็งค์เถื่อนอีกต่อไป” นายยรรยง กล่าวสรุป
คลิกเพื่ออ่านฉบับเต็ม!