ZTE Corporation ( 0763.HK / 000063.SZ ) ผู้ให้บริการรายใหญ่ของโลกในด้านโซลูชั่นโทรคมนาคม โซลูชั่นระดับองค์กร และเทคโนโลยีผู้บริโภค สำหรับแวดวงอินเทอร์เน็ตมือถือ เผยรายได้ตลอดทั้งปี 2559 ปรับตัวขึ้นแตะ 1.012 แสนล้านหยวน โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของธุรกิจเครือข่ายโทรคมนาคมและธุรกิจคอนซูเมอร์
รายงานผลประกอบการประจำปีของZTE ระบุว่า กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นแตะ 1.17 พันล้านหยวน ขณะที่ยอดขาดทุนสุทธิที่เป็นของผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียน อยู่ที่ 2.36 พันล้านหยวน ประกอบด้วยประมาณการหนี้สินประมาณ 892 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการระงับคดีความในสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ หากไม่รวมค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ZTE จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3.83 พันล้านหยวน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 19.2%
รายได้จากธุรกิจเครือข่ายโทรคมนาคมเพิ่มขึ้นแตะ 5.89 หมื่นล้านหยวนในปี 2559 เนื่องจากมีผู้ให้บริการโทรคมนาคมจากทั่วโลกหันมาติดตั้งใช้งานโซลูชั่นเครือข่ายที่เป็นนวัตกรรมของZTE กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Pre5G, Big Video, Network Virtualization และ Cloudification สำหรับโซลูชั่นระดับรางวัลอย่าง Pre5G ซึ่งรวมถึง Massive Memo นั้น มีการติดตั้งใช้งานบนเครือข่ายมากกว่า 40 เครือข่ายในกว่า 30 ประเทศ โดยโซลูชั่นนี้ช่วยให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมสามารถนำเทคโนโลยีเครือข่าย 5G แห่งอนาคตไปปรับใช้กับโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 4G LTE ที่มีอยู่ในปัจจุบันได้
ขณะที่โซลูชั่นSDN (software-defined networking) และ NFV (network function virtualization) ระดับแนวหน้าอุตสาหกรรมของ ZTE ถูกนำไปติดตั้งใช้งานในเครือข่ายต่างๆ มากกว่า 180 เครือข่ายทั่วโลก หลังจากที่บริษัทได้เพิ่มโครงการใหม่ๆ กว่า 40 โครงการในปี 2559
รายได้จากธุรกิจคอนซูเมอร์ปรับตัวขึ้นแตะ 3.35 หมื่นล้านหยวน เนื่องจากสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ของZTE มีตำแหน่งทางการตลาดสูงขึ้น ทั้งในสหรัฐฯ ยุโรป และออสเตรเลีย ด้วยความมุ่งมั่นใส่ใจในคุณภาพและการนำเสนอประสบการณ์ผู้ใช้ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทำให้ ZTE ติดหนึ่งใน 4 ผู้จำหน่ายสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ และก้าวขึ้นสู่อันดับ 5 ในยุโรป ส่วนในออสเตรเลียนั้น ZTE ขึ้นแท่นผู้จำหน่ายสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับ 3
ในส่วนธุรกิจภาครัฐและองค์กรของZTE มีรายได้ 8.9 พันล้านหยวนในปี 2559
ด้วยความมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้งในการสร้างสรรค์นวัตกรรมสำหรับเครือข่ายแห่งอนาคต ตลอดจนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ไม่ว่าจะเป็นเครือข่าย 5G คลาวด์คอมพิวติ้ง บิ๊กดาต้า เซมิคอนดักเตอร์ และอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (IoT) ส่งผลให้ ZTE ขึ้นแท่นอันดับ 1 ในรายชื่อผู้ขอจดสิทธิบัตรประจำปีล่าสุดขององค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) โดย ZTE ได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรภายใต้สนธิสัญญาความร่วมมือด้านสิทธิบัตร (PCT) ทั้งสิ้น 4,123 รายการในปี 2559 ซึ่งมากกว่าทุกบริษัท
ขณะเดียวกันZTE ยังคงเดินหน้าสานต่อความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเครือข่าย 5G ด้วยการยื่นขอจดสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องมากกว่า 1,500 รายการ และผ่านการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ด้านการวิจัยเครือข่าย 5G ร่วมกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมระดับแนวหน้า ได้แก่ Deutsche Telekom, Telefonica, SoftBank, China Mobile, KT Group, China Unicom และ China Telecom นอกจากนี้ ZTE ยังได้เปิดตัวสถานีฐาน 5G คลื่นความถี่ต่ำและสูงในงาน Mobile World Congress 2017 ขณะบริษัทมีแผนที่จะเริ่มติดตั้งเครือข่าย 5G ในไตรมาส 3 ของปี 2561 ก่อนเปิดตัวเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบต่อไป
สำหรับเครือข่ายWireline นั้น ZTE ได้มุ่งเน้นไปที่โครงการบรอดแบนด์ระดับประเทศทั่วโลก รวมไปถึงเครือข่ายออปติคอลที่มีขีดความสามารถในการรองรับการใช้งานสูง ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของวิดีโอบนมือถือและศูนย์ข้อมูลแบบเสมือนจริง โดยในเดือนที่แล้ว ZTE ได้เปิดตัวโซลูชั่น 5G Flexhaul สุดล้ำสมัย ซึ่งผสานเครือข่ายออปติคอลและเทคโนโลยี IP สำหรับเครือข่ายส่งข้อมูลทั้ง backhaul และ fronthaul พร้อมกันนี้ ZTE ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อก้าวเป็นผู้นำด้าน IP Video ด้วยโซลูชั่น Big Video รูปแบบใหม่สำหรับวิดีโอความคมชัดระดับ 4K+ และเทคโนโลยีความจริงเสมือน (VR) อย่างเต็มรูปแบบ
นอกจากนี้ZTE ยังมุ่งมั่นต่อการเป็นผู้นำการพัฒนาโซลูชั่น IoT ผ่านการสร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ ในด้าน Narrowband IoT (NB-IoT) และ LoRa อีกด้วย
เกี่ยวกับZTE
ZTE เป็นผู้ให้บริการด้านระบบโทรคมนาคมขั้นสูง รวมถึงอุปกรณ์เคลื่อนที่ และโซลูชั่นเทคโนโลยีองค์กร เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค ผู้ให้บริการเครือข่าย ภาคธุรกิจ และหน่วยงานภาครัฐ กลยุทธ์ M-ICT ของ ZTE มีเป้าหมายเพื่อนำเสนอนวัตกรรมแบบครบวงจรที่ทำงานแบบบูรณาการให้กับลูกค้า เพื่อมอบความเป็นเลิศและคุณประโยชน์ต่างๆ ในยุคที่เทคโนโลยีโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว โดย ZTE ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและเซินเจิ้น (รหัสหุ้นในตลาดฮ่องกง: 0763.HK / รหัสหุ้นในตลาดเซินเจิ้น: 000063.SZ ) ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการให้กับกลุ่มผู้ให้บริการกว่า 500 รายในกว่า 160 ประเทศ ในแต่ละปี ZTE จัดสรรเงินรายได้ 10% ให้กับการวิจัยและพัฒนา และมีบทบาทผู้นำในองค์กรผู้กำหนดมาตรฐานในระดับโลก ทั้งนี้ ZTE มุ่งมั่นเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม และยังเป็นสมาชิกของข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Global Compact) ด้วย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถรับชมได้ที่
www.zte.com.cn สื่อมวลชนติดต่อ:
Margrete Ma
ZTE Corporation
โทร. +86 755 26775207
อีเมล:
[email protected] Daniel Beattie
AxiCom
โทร. +44 (0)20 8392 8071
อีเมล:
[email protected]