พาไปเดินชิลล์ ดำรงชีวิตสโลไลฟ์ ท่องเที่ยวหลวงพระบาง เมืองมรดกโลกของประเทศลาว สะกดรอยคุณกฤตย์กับนัทธมน ในละครด้วยแรงอธิษฐาน มั่นใจว่าถ้าเกิดคนใดได้มองเห็นบรรยากาศงามๆอีกทั้งทิวทัศน์เมือง เทือกเขา น้ำตก ดูศิลปวัฒนธรรม วัด ต้องหลงใหลเมืองนี้ จนกระทั่งต้องการเก็บกระเป๋าท่องเที่ยวเลียนแบบแน่ๆ
หลวงพระบาง เมืองเล็กๆแม้กระนั้นเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ล้นเหลือ ตั้งอยู่ท่ามกลางซอกเขา ทางภาคเหนือของประเทศลาว ปิดล้อมด้วยแม่น้ำสำคัญ 2 สาย เป็น แม่น้ำคานและก็แม่น้ำโขง มีบรรยากาศสงบเงียบ ผู้คนดำรงชีวิตเรียบง่าย มีวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมเป็นเอกลักษณ์ เยอะแยะด้วยวัดอาราราม บ้านเรือนโบราณที่ผสมระหว่างศิลป์แบบล้านช้างและก็สไตล์วัวโลเนียล ทั้งปวงทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ทำให้หลวงพระบางได้้รับการขึ้นบัญชีเป็น มรดกโลก จากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ เมื่อปี พุทธศักราช 2540
วัดโบราณกลางเมืองที่งดงามด้วยศิลป์แบบล้านช้าง “หลังคาปีกนก” 3 ชั้น ผลิตขึ้นในยุคพระผู้เป็นเจ้าไชยเชษฐาธิราช ด้านในโบสถ์มีงานจิตรกรรมด้านข้างฝาผนังเรื่องราวในพระชาดกรวมทั้งนิทานพื้นบ้านงาม
นอกจากข้างในเขตวัดยังมี เพียงพอพระม่านซึ่งเป็นที่ตั้ง “พระม่าน” 1 ใน 3 พุทธรูปคู่เมืองของหลวงพระบาง, หอพักพระพุทธนอนหลับ ที่มีงานประดับประดากระจกสีเป็นลายเรื่องราวพื้นเมืองของชาวลาว และก็ยังเป็นที่ติดตั้งพุทธรูปปางนอนหลับอายุกว่า 400 ปี
“น้ำตกตาดกวางสี” หรือ น้ำตกกวางสี น้ำตกที่งามที่สุดพระเจ้าแผ่นดินพระบาง เป็นน้ำตกหินปูน มีความสูงถึง 70 เมตร โดยสายน้ำจะทิ้งตัวจากผาสูงลงสู่แอ่งน้ำกว้างระดับล่าง ภาวะป่าร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่รวมทั้งดอกไม้ป่าสีสันแจ่มใส ด้านในรอบๆน้ำตกมีสะพานรวมทั้งทางดูความสวยบริเวณกลางทางนั้นมีสายธารซึ่งสามารถลงไปเล่นน้ำได้
นอกเหนือจากการที่จะชื่นชอบความสวยของน้ำตกแล้ว ที่ดินเข้าน้ำตกยังมีร้านขายของของที่ระลึก ซึ่งเป็นของพื้นบ้านที่ทำมาจากไม่ไผ่เป็นของใช้หลากหลายประเภท แล้วก็มีห้องอาหารตามสั่งให้บริการอยู่หลายร้านค้า
น้ำตกตาดกวางสี อยู่ห่างจากเมืองหลวงพระบางไปทางด้านทิศใต้ราว 30 กิโล เปิดให้เข้าชม ตั้งแต่เวลา 06.00 – 17.30 น. เสียค่าเข้าชมคนละ 10,000 กีบ (ราว 40 บาท)
พระบรมธาตุพูสี สร้างอยู่บนเขาสูงราว 150 เมตร ตั้งอยู่แกนกลางเมืองหลวงพระบาง นักเดินทางที่ต้องการขึ้นไปดูความสวยของพระบรมสารีริกธาตุต้องเดินขึ้นบันไดที่คดไปคดมาไปๆมาๆตามไหล่เขาปริมาณ 328 ขั้น ถึงแม้บางครั้งก็อาจจะหอบกันบ้าง แต่ว่าเชื่อเถอะว่าขึ้นมาถึงแล้วคุ้มจริงๆด้วยเหตุว่าจุดนี้สามารถเห็นเมืองทั่วทั้งเมือง แม่น้ำคาน แล้วก็แม่น้ำโขงได้แบบ 360 องศา เลยล่ะจ้ะ
ชี้แนะให้ขึ้นมาสักการะบูชาพระบรมธาตุข้างหลังสี่นาฬิกาเย็นไปแล้ว ด้วยเหตุว่าแดดจะส่องกระทบองค์พระบรมธาตุมองเห็นเป็นสีทองคำงาม แล้วก็ยังได้ยืนมองพระอาทิตย์ลับฟ้า ซึ่งเป็นบรรยากาศที่พลาดมิได้เมื่อมาท่องเที่ยวหลวงพระบาง
พระบรมสารีริกธาตุภูเขาสี เปิดทุกเมื่อเชื่อวัน เวลา 08.00 น. – 17.30 น. (สุดแท้แต่ฤดู) ค่าเข้าชม คนละ 20,000 กีบ (อายุต่ำลงยิ่งกว่า 7 ปี เข้าชมฟรี)
ภายหลังจากดูพระอาทิตย์ลับฟ้าที่พระบรมสารีริกธาตุพูสีกันเสร็จแล้ว เมื่อเดินลงเขามามองดูไปยังข้างล่างจะมองเห็นแสงสว่างสีส้มส่องสว่างระยิบ ซึ่งมันก็คือ ตลาดมืด หรือ ถนนหนทางคนเดินหลวงพระบาง ตั้งอยู่รอบๆหน้าราชสำนักเก่า บนถนนหนทางศรีสว่างสกุล ฟังจากชื่อตลาดหลายๆคนบางทีอาจจะรู้ผิดรู้สึกว่าค้าของหนีภาษี แต่ว่าจริงๆผลิตภัณฑ์ที่ขายกันจำนวนมากนั้นจะย้ำเป็นงานหัตถกรรมของชาวหลวงพระบาง ตัวอย่างเช่น เครื่องเงิน เครื่องนุ่งห่มของคนดอยเผ่าม้ง กระเป๋าสำหรับถือ ร่มกระดาษ ประทีป เครื่องใช้ต่างๆและก็ของฝาก รวมถึงเครื่องเพชรพลอย อีกทั้งเงิน ทองคำเพชรนิลจินดา เสื้อผ้าท้องถิ่น อื่นๆอีกมากมาย บางสิ่งก็ผลิตเองขายเอง บางสิ่งก็รับถัดมาขายอีกทอดหนึ่ง สามารถต่อราคากันได้ตามที่ใจต้องการ ยิ่งไปกว่านี้ตลาดมืดยังมีของกินพื้นบ้านและก็เครื่องดื่มที่ลือชื่อของตรงนี้ ได้แก่ ขนมครกลาว น้ำปั่น ข้าวย่างผ้าปาเต๊ะ เบียร์สดลาว รวมทั้ง เมี่ยงคำลาว เป็นของกินจานพิเศษที่นำใบผักต่างๆมาใส่ไส้ถั่วหวานที่ผัดกับมะเขือ ผสมกับเส้นขนมจีน ทานคู่กับน้ำพริกแห้งและก็ถั่วดินคั่ว รสกลมกล่อมละมุนละไม อร่อยสุดๆตลาดมืด เปิดบริการวันแล้ววันเล่า เวลา 17.00 – 22.00 น.
ต้องการสัมผัสกับวิถีชีวิตชาวลาวแท้ๆจำเป็นต้องไปเดินสำรวจตลาดรุ่งเช้ามองวันใดวันหนึ่ง โดยราษฎรจะเริ่มตั้งแผงขายตั้งแต่ห้านาฬิกาครึ่ง เรียกว่าฟ้าแทบสว่างก็ตั้งของขายกันเสร็จหมดแล้ว ผลิตภัณฑ์ที่ขายมีอีกทั้งผลิตภัณฑ์ที่พวกเรารู้จักดี เป็นต้นว่า ผัก ผลไม้สดจากสวน หมู เห็ด เป็ด ไก่ ไปจนกระทั่งผลิตภัณฑ์แปลกๆอย่าง กบ เขียด อุ้งตีนหมี ปลาแม่น้ำโขงตัวใหญ่ ของหวานชื่อดอกทอง สาหร่ายแม่น้ำโขง รวมทั้งร้านค้าขายอาหารมื้อเช้าแบบง่ายๆอย่างขนมปาท่องโก๋ โจ๊ก ข้าวต้ม กาแฟ โอวันว่ากล่าวน ฯลฯ
ยอมตื่นรุ่งเช้าสักนิดสักหน่อย เพื่อร่วมจารีตประเพณีที่สวยงามรวมทั้งเป็นเสน่ห์วิถีชีวิตเริ่มแรกของชาวลาวที่ตกทอดกันมาเป็นเวลายาวนาน การใส่บาตรข้าวเหนียวจะเริ่มเวลา ราว 05.00 – 07.00 น. ของทุกๆวัน ภิกษุแล้วก็เณรจากวัดต่างๆจะรับแทนบิณฑบาตต่อคิวยาวหลายร้อยรูป โดยจุดที่คนนิยมมานั่งคอยตักบาตร เป็น พื้นที่ตลอดถนนหนทางสักรินท์ ซึ่งควรจะแต่งตัวสุภาพอ่อนโยน เพศชายใส่กางเกงที่มีขายาว ส่วนหญิงควรจะใส่เสื้อแบบอ่อนน้อมถ่อมตน ผ้าถุง และก็ผ้าคาดบ่า ซึ่งบ้านพักโดยมากจะเตรียมผ้าคาดบ่าไว้ให้นักเดินทางด้วย
ที่มา : ทัวร์ลาว