หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ส่วนผสมต่างๆสรรพสิ่งคอมพิเตอร์  (อ่าน 590 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
kkthai20009
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 37756


อีเมล์
« เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2021, 17:02:29 »

องค์ประกอบต่างๆของคอมพิเตอร์

(Central Processing Unit : CPU)
หน่วยประมวลผลกลาง (central processing unit) หรือที่นิยมเรียกย่อๆ ว่า ซีพียู (CPU) เป็นส่วนตีประเด็น ด้วยกันประมวลผลตามชุดข้าวของคำสั่งเครื่องจากซอฟแวร์หน่วยประมวลผลเปรียบเสมือนเป็นสดูข้าวของคอมพิวเตอร์ ในการทำงานการตัดสินใจ หรือคำนวณ จากคำสั่งที่ได้รับมา อาทิเช่น การเปรียบเทียบ การกระกระทำเส้นทางคณิตศาสตร์ ฯลฯ โดยมีขั้นตอนพื้นฐานคือ

อ่านชุดคำสั่ง (fetch)
ตีคำอธิบายชุดคำสั่ง (decode)

ประมวลผลชุดคำสั่ง (execute)
อ่านข้อมูลจากหน่วยเนื้อความจำ (memory)

Cpu Fan
พัดลม CPU นับเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ต้องเจาะจงเลือกให้ดีเพราะเพราะว่า CPU มีเนื้อความร้อนสูงการเลือกพัดลมที่ไม่เหมาะสำหรับการ CPU ไม่แน่อาจเกิด หลักสำคัญเสียหายต่อ CPU หรือทำเอาระบบคอมฯไร้หนักแน่นภาพ ได้ ช่วงปัจจุบัน พัดลม CPU ได้ถูกร่างโครงมาเฉพาะกับ CPU ขนาดนั้นละรุ่น ซึ่งจะมีรูปร่าง พร้อมกับวัตถุที่ใช้ทำต่างกัน มีการนำทองแดงมา ใช้เป็นวัตถุ ในการทำแดื้อด้าน อลูมิเนียม เพื่อช่วยเหลือระบายเหตุการณ์ร้อน สวมพัดลมที่มีกำลัง แรงพร้อมกับมีสัดส่วนใหญ่มีการร่างแบบครีบให้ท่วมท้นเพื่อ ช่วยเหลือขับออกข้อความสำคัญ ร้อน

Mainboard
เมนบอร์ดเป็นเครื่องมือที่มีรูปพรรณเป็นแผ่นวงจรหลักเพื่อที่จะจัดตั้งเครื่องมือคอมพิวเตอร์ต่างๆ เกือบทั้งหมด โดยจะมีการทำมาหากินในการประสานงานด้วยกันติดต่อรับส่งข่าวสารโดยพ้นระบบบัส บนเมนบอร์ดก็จะมีอุปกรณ์ที่สำคัญๆ รวมอยู่ด้วย ดั่ง สล็อต,ซ็อกเก็ตเนื่องด้วยเชื่อมต่อกับวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ชิพเซ็ตที่ทำการทำงานเท่าเทียมแม่บ้าน คอยจัดการพร้อมกับประสานงานให้กับเครื่องมือที่นำมาวางบนเมนบอร์ด นอกจากนี้ก็ยังรวมเอาแผงวงจรพร้อมกับชิพสั่งการเครื่องมือต่างๆ ตัวอย่างเช่น ตัวบังคับฮาร์ดดิสก์ (Harddisk Controller) พอร์ตเชื่อมต่ออุปกรณ์ข้างนอก อาทิเช่น พอร์ตขนาน (Parallel Port) พอร์ตอนุกรม (Serial Port) พร้อมกับพอร์ตยูเอสบี (USB Port) ฯลฯ

แรม (RAM – Random Access Memory)
RAM ย่อมาจาก (Random Access Memory) เป็นหน่วยส่วนจำหลักที่จำเป็น หน่วยคำอธิบายจำ จำพวกนี้จะทำได้ประมวลข่าวสารได้ เฉพาะเวลาที่มีกระแสไฟฟ้าหล่อเลี้ยงเท่านั้นเมื่อใดก็ตามที่ปลอดกระแสไฟฟ้า มาเลี้ยง ข่าวสารที่อยู่ภายในหน่วยส่วนจำชนิดจะหายไปฉับพลัน หน่วยเนื้อความจำแรม ทำอาชีวเก็บชุดคำสั่งกับข่าวสารที่ระบบคอมพิวเตอร์กำลังทำงานอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการนำเข้าข้อมูล (Input) หรือ การนำออกข่าวสาร (Output) โดยที่อาณาบริเวณข้าวของเครื่องใช้หน่วยหัวเรื่องจำหลักแบบแรมนี้ถูกแยกออกเป็น 4 ส่วน คือ

  • Input Storage Area เป็นส่วนที่เรียบเรียงข้อมูลนำเหมาะ่ได้รับมาจากหน่วยรับข้อมูลเข้าโดย ข้อมูลนี้จะถูกนำไปใช้ในการประมวลผลต่อไป
  • Working Storage Area เป็นส่วนที่เก็บข้อมูลที่อยู่ในระหว่างการประมวลผล
  • Output Storage Area เป็นส่วนที่เก็บผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผล ตามเปลาะพึงประสงค์สรรพสิ่งผู้ใช้ เพื่อรอที่จะถูกส่งไปแสดงออก ยังหน่วยแสดงผลอื่นที่ผู้ใช้ปรารถนา
  • Program Storage Area เป็นส่วนที่ใช้เก็บชุดคำสั่ง หรือโปรแกรมที่ผู้ใช้พึงประสงค์จะส่งเข้ามา เพื่อใช้คอมพิวเตอร์ปฏิบัติตามคำสั่ง ชุดดังกล่าว หน่วยบังคับจะทำการทำงานดึงคำสั่งจากส่วน นี้ไปที่ละคำสั่งเพื่อก่อแปลนัย ว่าคำสั่งนั้นสั่งให้ทำอะไร ต่อจากนั้นหน่วยสั่งการ จะไปบังคับฮาร์ดแวร์ที่ปรารถนาทำงานดังกล่าวให้ทำงานตามคำสั่งนั้นๆ

Module เครื่องใช้ RAM
RAM ที่เรานำมาใช้งานนั้นจะเป็น chip เป็น ic ตัวเล็กๆ ซึ่งส่วนที่เรานำมาใช้เป็นหน่วยประเด็นจำหลัก จะถูกบัดกรีติดอยู่บนแผงวงจร หรือ Printed Circuit Board เป็น Module ซึ่งมีหลัก ๆ อยู่ 2 Module คือ SIMM กับ DIMM

SIMM หรือ Single In-line Memory Module
โดยที่ Module จำพวกนี้ จะรองรับ data path 32 bit โดยทั้งสองด้านเครื่องใช้ circuit board จะให้สัญญาณ เดียวกัน

DIMM หรือ Dual In-line Memory Module
โดย Module นี้เพิ่งจะกำเนิดมาไม่นานนัก มี data path ถึง 64 บิต โดยทั้งสองด้านสิ่ง circuited board จะให้สัญญาณที่ต่างกัน ตั้งแต่ CPU ตระกูล Pentium เป็นต้นมา ได้มีการออกแบบให้ใช้งานกับ data path ที่โขนักว่า 32 bit โดยเหตุนั้น เราจึงพบว่าเวลาจะสวม SIMM RAM บน slot RAM จะต้องใส่เป็นคู่ สวมใส่โดด ๆ แผง เดียวไม่ได้

Memory Module สมัยนี้มีอยู่ 3 แบบคือ 30-pin, 72-pin, 168-pin ที่นิยมใช้ในเวลานี้คือ 168-pin
จำพวกและบทแตกต่างของใช้ RAM

Dynamic Random Access Memory (DRAM)
DRAM จะทำงานประมวลข้อมูลในตัวเรียบเรียงประจุ (Capacitor) ซึ่งจำต้องมีการ refresh เพื่อ ประมวลข่าวสาร ให้คงอยู่โดยการ refresh นี้ทำให้เกิดการหน่วงเวลาขึ้นในการเข้าถึงข่าวสาร และก็เนื่องด้วยที่มันต้อง refresh ตัวเองอยู่ตลอดเวลานี้เองจึงเป็นเหตุให้ได้ชื่อว่า Dynamic RAM

Static Random Access Memory (SRAM)
จะต่างจาก DRAM ตรงที่ว่า DRAM ต้องกระทำ refresh ข่าวสารอยู่ทุกขณะ อย่างเดียวในขณะที่ SRAM จะประมวลข้อมูล นั้น ๆ ไว้ กับจำไม่ดำเนินงาน refresh โดยอัตโนมัติ ซึ่งมันจะทำงาน refresh ก็ต่อเมื่อ สั่งให้มัน refresh เท่านั้น ซึ่งจุดดีเครื่องใช้มันก็คือกงการไว ซึ่งไวกว่า DRAM ปกติไม่เบา แค่นั้นก็ด้วยราคาที่สูงว่ามหาศาล จึงเป็นข้อเสียของมัน
 
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : อุปกรณ์คอมพิวเตอร์

Tags : อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: