หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หัวเว่ยชูนวัตกรรม 5.5G ในงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส 2566  (อ่าน 452 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
iqpressrelease
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3688


อีเมล์
« เมื่อ: 30 มิถุนายน 2023, 10:39:34 »

หัวเว่ยชูนวัตกรรม 5.5G ในงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส 2566 มุ่งฟื้นฟูเศรษฐกิจดิจิทัลและขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง


หัวเว่ย (Huawei) เตรียมปรากฏตัวอย่างยิ่งใหญ่ภายในงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส (MWC) เซี่ยงไฮ้ ประจำปี 2566 ภายใต้ธีม "แนวทางสู่โลกอัจฉริยะ" (GUIDE to the Intelligent World) โดยกิจกรรมของบริษัทในปีนี้ประกอบด้วยการพาชมเมืองต่าง ๆ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและธุรกิจของบริษัท ตลอดจนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชัน "5กิกะกรีน" (5GigaGreen) เครือข่ายหลักอัจฉริยะ 5G, เครือข่ายอัจฉริยะอ็อปติกส์ (OptiX Networks), สายส่วนบุคคล + ผลิตภัณฑ์ X (private line + X products) และโซลูชันอัจฉริยะอื่น ๆ เพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล

ในระหว่างกิจกรรมเหล่านี้ หัวเว่ยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมโต๊ะกลมและการเสวนาร่วมกับผู้ให้บริการระดับโลก พันธมิตรในอุตสาหกรรม และผู้นำทางความคิด เพื่อสำรวจหัวข้อที่หลากหลาย ครอบคลุมการเร่งการเติบโตของเทคโนโลยี 5G ผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอัจฉริยะ และก้าวสู่ยุค 5.5G เพื่อนำประโยชน์มาสู่ภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม และสังคม โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างคุณค่าใหม่ให้แก่ลูกค้าและฟื้นฟูเศรษฐกิจดิจิทัลด้วยนวัตกรรมที่ยั่งยืน

คุณซาบรินา เมิ่ง (Sabrina Meng) ประธานหมุนเวียนและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของหัวเว่ย ได้ขึ้นกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ "การเปิดรับการเปลี่ยนแปลง 5G" (Embracing 5G transformation) โดยระบุว่า "โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของโลกอัจฉริยะแห่งอนาคตจะถูกรวมเข้ากับทุกแง่มุมของชีวิต อุตสาหกรรม และสังคมของเราอย่างลึกซึ้ง และจะไม่ขึ้นตรงต่อความก้าวหน้าของเทคโนโลยีใดเทคโนโลยีหนึ่ง แต่จะอาศัยระบบที่ยิ่งใหญ่และซับซ้อนอย่างไม่น่าเชื่อ กล่าวคือเป็นการบรรจบกันขององค์ประกอบต่าง ๆ ซึ่งต้องใช้ความคิดและการออกแบบในระดับระบบ เช่นเดียวกับเกมหมากรุกที่ผู้ชมจะเห็นแค่ภาพใหญ่โดยรวม แต่ผู้เล่นจะต้องให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดด้วย ความสามารถในการรวมเทคโนโลยีอย่างเป็นระบบและการจัดการการเปลี่ยนแปลงจึงมีความสำคัญต่อความสำเร็จในอนาคตของ 5G ทั้งนี้ เมื่อพูดถึงการผสานรวมเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เราสามารถบรรลุการผนึกกำลังที่มากขึ้นทั่วทั้งคลาวด์ เครือข่าย เอดจ์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านการออกแบบและนวัตกรรมที่เป็นระบบในโดเมนต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้เมื่อถูกจับคู่กับการเพิ่มประสิทธิภาพทั่วทั้งซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ ชิป และอัลกอริทึม จะทำให้เราสามารถจัดการกับความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโซลูชันที่ซับซ้อนสำหรับสถานการณ์การใช้งานในอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันออกไปอย่างมาก นอกจากนี้ เมื่อกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงด้านการจัดการแล้ว การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอัจฉริยะไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของเทคโนโลยีเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงแนวทางการจัดการมากกว่า เนื่องจากการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลจำเป็นต้องกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน เหตุการณ์ สิ่งของ และทฤษฎี รวมถึงมีการปรับใช้แนวทางการจัดการที่เปิดกว้างและรองรับอนาคตเพื่อรับมือกับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น"

ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน 5G มากกว่า 1.2 พันล้านรายทั่วโลก ส่งผลให้ผู้ให้บริการที่พัฒนาเทคโนโลยี 5G อย่างรวดเร็วสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในช่วงแรกไปได้ สิ่งเหล่านี้เกิดจากข้อกำหนดด้านเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นจากการใช้งานรูปแบบใหม่ในตลาดต่าง ๆ ดังเช่นในตลาดผู้บริโภคที่มีบริการใหม่อย่างนิวคอลลิ่ง (New Calling), โทรศัพท์บนคลาวด์ และนวัตกรรมสามมิติปราศจากแว่นตา ทั้งหมดนี้ต้องการอัตราข้อมูลที่เร็วขึ้นและเวลาแฝงที่ต่ำลง ขณะที่ในตลาดอุตสาหกรรม อีโคซิสเต็มเรดแค็ป (RedCap) ได้เติบโตเต็มที่แล้ว ตลาด IoT แบบพาสซีฟกำลังขยายตัว และยานพาหนะที่สื่อสารกันได้ผ่านอินเทอร์เน็ต (IoV) มีความต้องการความเร็วอัปลิงก์ที่สูงขึ้น การใช้งานรอบด้านเหล่านี้คาดว่าจะส่งผลให้เกิดการเชื่อมต่อมากกว่า 1 แสนล้านครั้ง และจะขับเคลื่อนการยกระดับอุตสาหกรรมรวมถึงสร้างผลประโยชน์ในระยะที่สองเป็นอย่างมาก

ด้านบริการ 5G เชิงพาณิชย์ที่เข้าสู่ตลาดเมื่อ 4 ปีที่แล้วได้ถูกนำไปใช้กับโครงการเครือข่ายส่วนบุคคลมากกว่า 17,000 โครงการทั่วโลก รายได้ทั้งจากเครือข่ายส่วนบุคคล 5G และจำนวนการเชื่อมต่อทางอุตสาหกรรมนั้นเพิ่มขึ้นกว่าสามเท่า นอกจากนี้ ผู้ให้บริการหลายรายได้ใช้ประโยชน์จากรายได้จำนวน 1 หมื่นล้านหยวนที่ได้จากเครือข่ายส่วนบุคคลแบบ 5GtoB ในการผลักดันรายได้จากเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจนแตะที่ระดับ 1 แสนล้านหยวนจากบริการคลาวด์ การจัดเก็บข้อมูล และบริการแพลตฟอร์ม แม้ว่าบริการ 5GtoB จำนวนมากจะมีการนำร่องในประเทศจีน แต่ก็ได้ขยายไปยังส่วนอื่น ๆ ของโลก และถูกนำไปใช้เชิงพาณิชย์ในเอเชียแปซิฟิก ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา บริการเหล่านี้ช่วยให้ลูกค้าในอุตสาหกรรมสามารถลดต้นทุนและปรับปรุงประสิทธิภาพได้ ในขณะเดียวกันยังช่วยให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอัจฉริยะในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การผลิต ท่าเรือ เหมือง แหล่งน้ำมัน และการดูแลสุขภาพ

อ่านข่าวประชาสัมพัน์เพิ่มเติมได้ที่ : https://www.thaipr.net/it/3352945
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: