หัวข้อ: HTC VIVE เปิดตัวโครงการ “VR For Impact”
เริ่มหัวข้อโดย: iqpressrelease ที่ 20 มกราคม 2017, 09:50:12
ดาวอส, สวิตเซอร์แลนด์--19 ม.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
โครงการมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์นี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยี VR สามารถช่วยให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติได้อย่างไร
HTC VIVE(TM) ผู้นำเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) แบบ Room Scale ประกาศเปิดตัวโครงการ "VR For Impact" มูลค่า 10 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการผลักดันการใช้คอนเทนต์และเทคโนโลยี VR เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติภายในปี 2573 เนื่องจากเทคโนโลยี VR หยิบยื่นโอกาสมหาศาลในการพัฒนาและแลกเปลี่ยนความคิดที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง โดย HTC VIVE(TM) จะมอบเงินทุนผ่านทางโครงการ VR For Impact เพื่อสนับสนุนคอนเทนต์และเทคโนโลยีที่สามารถสร้างประสบการณ์อันทรงพลังที่สุดในการพลิกโฉมโลกของเรา
(http://www.uppic.org/image-8705_588170A5.jpg)
http://mma.prnewswire.com/media/454105/HTC_VIVE_Logo.jpg
เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ เป็นการเรียกร้องให้ทั่วโลกร่วมกันขจัดปัญหาความยากจน ปกป้องโลก รวมถึงสร้างหลักประกันว่าทุกคนจะอยู่เย็นเป็นสุขและมีชีวิตที่ดีขึ้น ในขณะที่เทคโนโลยี VR สามารถทำให้ผู้ชมเข้าถึงอารมณ์ได้อย่างลึกซึ้ง จึงมีศักยภาพในการกระตุ้นให้ทั่วโลกเกิดความตื่นตัวและลงมือแก้ปัญหาต่างๆที่มนุษยชาติกำลังเผชิญอยู่ โดยทาง HTC VIVE(TM) จะมอบเงิน 10 ล้านดอลลาร์ผ่านโครงการ VR For Impact เพื่อสนับสนุนพันธมิตรในอุตสาหกรรมและนักพัฒนาคอนเทนต์ ในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่จะช่วยยกระดับความตื่นตัว การเรียนรู้ และนำไปสู่การลงมือปฏิบัติในที่สุด
Cher Wang ประธานและซีอีโอของ HTC กล่าวว่า "VR มีศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดในการช่วยให้เราเรียนรู้ เข้าใจ และเปลี่ยนแปลงโลก โครงการ VR For Impact ถือเป็นความท้าทายของชุมชนนักพัฒนา VR ทั่วโลก ในการสร้างความตื่นตัวและแก้ไขปัญหาความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ โดย HTC VIVE จะมอบเงินสนับสนุนให้แก่แนวคิดที่ดีที่สุดในการใช้ VR เพื่อสร้างความตื่นตัวและการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในโลกของเรา เราขอเชิญชวนให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการ เพราะเราจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างแท้จริงก็ต่อเมื่อเราร่วมมือกัน"
Gabo Arora ผู้ริเริ่มโครงการ VR Initiative ขององค์การสหประชาชาติ และที่ปรึกษาฝ่ายครีเอทีฟของโครงการอาหารโลก กล่าวว่า "HTC เป็นองค์กรแรกๆที่ตระหนักถึงความทุ่มเทขององค์การสหประชาชาติ ในการสนับสนุนเทคโนโลยี VR เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เทคโนโลยี VR แบบ Room Scale ของ Vive จะเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการบอกเล่าเรื่องราว การให้ความรู้ และการฝึกอบรม ซึ่งจะช่วยให้ผู้คนมากขึ้นหันมามีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงโลก เป็นกระบอกเสียงให้กับผู้ด้อยโอกาส และสร้างโอกาสให้แก่กลุ่มคนที่ถูกหลงลืม"
Corinne Woods ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสารของโครงการอาหารโลก กล่าวว่า "ในทุกวิกฤตการณ์ มีเรื่องราวนับล้านที่ไม่ได้ถูกเปิดเผย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่พวกเราลงไปปฏิบัติงาน การที่ HTC สนับสนุนให้เกิดช่องทางใหม่ๆในการบอกเล่าเรื่องราวที่มีความสำคัญ และสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ ถือเป็นการสานต่องานของเราด้วยการนำเสนอในรูปแบบใหม่ๆที่น่าตื่นตาตื่นใจ"
โครงการ VR For Impact จะเปิดรับแนวคิดต่างๆผ่านทางเว็บไซต์ https://www.vr4impact.com (https://www.vr4impact.com) ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยจะมีการประกาศรายชื่อโครงการที่ชนะใน "วันคุ้มครองโลก" ซึ่งตรงกับวันที่ 22 เมษายน 2560
นอกจากนี้ ในวันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม Vive จะทำการสาธิตเทคโนโลยี VR ที่เต็นท์ของโครงการอาหารโลก เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสความรู้สึกของผู้ที่กำลังเผชิญกับปัญหาที่ท้าทายที่สุดของมนุษยชาติ พร้อมกับสร้างแรงบันดาลใจให้เห็นว่า การบอกเล่าเรื่องราว การให้ความรู้ และความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ สามารถนำมาถ่ายทอดในรูปแบบใหม่ได้
เกี่ยวกับ VIVE
HTC VIVE(TM) เป็นผลิตภัณฑ์ VR ใหม่ล่าสุดที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่อุตสาหกรรม โดย HTC ได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์อย่าง Valve(R) เพื่อส่งมอบสุดยอดระบบ VR ที่สมบูรณ์แบบที่สุดผ่าน Vive ซึ่งเป็นระบบ VR สำหรับผู้บริโภคหนึ่งเดียวในตลาดที่ผู้ใช้งานสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระด้วยระบบติดตามที่แม่นยำ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสัมผัสกับประสบการณ์เสมือนจริงผ่านประสาทสัมผัสทางตา หู และกาย ทั้งนี้ นับตั้งแต่ที่มีการเปิดตัว Vive ทาง HTC และ Valve ได้ทำงานร่วมกับนักพัฒนาและพาร์ทเนอร์หลายพันราย เพื่อสร้างคอนเทนต์ VR ให้ครอบคลุมในทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่เกม ความบันเทิง สุขภาพ ยานยนต์ การค้าปลีก ไปจนถึงการศึกษา โดยบรรดาพาร์ทเนอร์ของ Vive ได้สาธิตการใช้งาน VR ทั่วโลก เพื่อแสดงถึงศักยภาพของโลกที่มีจินตนาการไร้ขีดจำกัด สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.vive.com (http://www.vive.com)
โครงการมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์นี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยี VR สามารถช่วยให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติได้อย่างไร
HTC VIVE(TM) ผู้นำเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) แบบ Room Scale ประกาศเปิดตัวโครงการ "VR For Impact" มูลค่า 10 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการผลักดันการใช้คอนเทนต์และเทคโนโลยี VR เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติภายในปี 2573 เนื่องจากเทคโนโลยี VR หยิบยื่นโอกาสมหาศาลในการพัฒนาและแลกเปลี่ยนความคิดที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง โดย HTC VIVE(TM) จะมอบเงินทุนผ่านทางโครงการ VR For Impact เพื่อสนับสนุนคอนเทนต์และเทคโนโลยีที่สามารถสร้างประสบการณ์อันทรงพลังที่สุดในการพลิกโฉมโลกของเรา
(http://www.uppic.org/image-8705_588170A5.jpg)
http://mma.prnewswire.com/media/454105/HTC_VIVE_Logo.jpg
เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ เป็นการเรียกร้องให้ทั่วโลกร่วมกันขจัดปัญหาความยากจน ปกป้องโลก รวมถึงสร้างหลักประกันว่าทุกคนจะอยู่เย็นเป็นสุขและมีชีวิตที่ดีขึ้น ในขณะที่เทคโนโลยี VR สามารถทำให้ผู้ชมเข้าถึงอารมณ์ได้อย่างลึกซึ้ง จึงมีศักยภาพในการกระตุ้นให้ทั่วโลกเกิดความตื่นตัวและลงมือแก้ปัญหาต่างๆที่มนุษยชาติกำลังเผชิญอยู่ โดยทาง HTC VIVE(TM) จะมอบเงิน 10 ล้านดอลลาร์ผ่านโครงการ VR For Impact เพื่อสนับสนุนพันธมิตรในอุตสาหกรรมและนักพัฒนาคอนเทนต์ ในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่จะช่วยยกระดับความตื่นตัว การเรียนรู้ และนำไปสู่การลงมือปฏิบัติในที่สุด
Cher Wang ประธานและซีอีโอของ HTC กล่าวว่า "VR มีศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดในการช่วยให้เราเรียนรู้ เข้าใจ และเปลี่ยนแปลงโลก โครงการ VR For Impact ถือเป็นความท้าทายของชุมชนนักพัฒนา VR ทั่วโลก ในการสร้างความตื่นตัวและแก้ไขปัญหาความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ โดย HTC VIVE จะมอบเงินสนับสนุนให้แก่แนวคิดที่ดีที่สุดในการใช้ VR เพื่อสร้างความตื่นตัวและการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในโลกของเรา เราขอเชิญชวนให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการ เพราะเราจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างแท้จริงก็ต่อเมื่อเราร่วมมือกัน"
Gabo Arora ผู้ริเริ่มโครงการ VR Initiative ขององค์การสหประชาชาติ และที่ปรึกษาฝ่ายครีเอทีฟของโครงการอาหารโลก กล่าวว่า "HTC เป็นองค์กรแรกๆที่ตระหนักถึงความทุ่มเทขององค์การสหประชาชาติ ในการสนับสนุนเทคโนโลยี VR เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เทคโนโลยี VR แบบ Room Scale ของ Vive จะเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการบอกเล่าเรื่องราว การให้ความรู้ และการฝึกอบรม ซึ่งจะช่วยให้ผู้คนมากขึ้นหันมามีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงโลก เป็นกระบอกเสียงให้กับผู้ด้อยโอกาส และสร้างโอกาสให้แก่กลุ่มคนที่ถูกหลงลืม"
Corinne Woods ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสารของโครงการอาหารโลก กล่าวว่า "ในทุกวิกฤตการณ์ มีเรื่องราวนับล้านที่ไม่ได้ถูกเปิดเผย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่พวกเราลงไปปฏิบัติงาน การที่ HTC สนับสนุนให้เกิดช่องทางใหม่ๆในการบอกเล่าเรื่องราวที่มีความสำคัญ และสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ ถือเป็นการสานต่องานของเราด้วยการนำเสนอในรูปแบบใหม่ๆที่น่าตื่นตาตื่นใจ"
โครงการ VR For Impact จะเปิดรับแนวคิดต่างๆผ่านทางเว็บไซต์ https://www.vr4impact.com (https://www.vr4impact.com) ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยจะมีการประกาศรายชื่อโครงการที่ชนะใน "วันคุ้มครองโลก" ซึ่งตรงกับวันที่ 22 เมษายน 2560
นอกจากนี้ ในวันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม Vive จะทำการสาธิตเทคโนโลยี VR ที่เต็นท์ของโครงการอาหารโลก เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสความรู้สึกของผู้ที่กำลังเผชิญกับปัญหาที่ท้าทายที่สุดของมนุษยชาติ พร้อมกับสร้างแรงบันดาลใจให้เห็นว่า การบอกเล่าเรื่องราว การให้ความรู้ และความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ สามารถนำมาถ่ายทอดในรูปแบบใหม่ได้
เกี่ยวกับ VIVE
HTC VIVE(TM) เป็นผลิตภัณฑ์ VR ใหม่ล่าสุดที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่อุตสาหกรรม โดย HTC ได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์อย่าง Valve(R) เพื่อส่งมอบสุดยอดระบบ VR ที่สมบูรณ์แบบที่สุดผ่าน Vive ซึ่งเป็นระบบ VR สำหรับผู้บริโภคหนึ่งเดียวในตลาดที่ผู้ใช้งานสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระด้วยระบบติดตามที่แม่นยำ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสัมผัสกับประสบการณ์เสมือนจริงผ่านประสาทสัมผัสทางตา หู และกาย ทั้งนี้ นับตั้งแต่ที่มีการเปิดตัว Vive ทาง HTC และ Valve ได้ทำงานร่วมกับนักพัฒนาและพาร์ทเนอร์หลายพันราย เพื่อสร้างคอนเทนต์ VR ให้ครอบคลุมในทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่เกม ความบันเทิง สุขภาพ ยานยนต์ การค้าปลีก ไปจนถึงการศึกษา โดยบรรดาพาร์ทเนอร์ของ Vive ได้สาธิตการใช้งาน VR ทั่วโลก เพื่อแสดงถึงศักยภาพของโลกที่มีจินตนาการไร้ขีดจำกัด สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.vive.com (http://www.vive.com)