Vmodtech.com

กระดานสาระบันเทิงแห่ง Vmodtech => เรื่องทั่วๆไป => ข้อความที่เริ่มโดย: Venom-Crusher ที่ 12 พฤศจิกายน 2009, 14:47:24



หัวข้อ: บรรยากาศงาน "กัมพูชากับโลกหลังวิกฤติทางการเงิน"
เริ่มหัวข้อโดย: Venom-Crusher ที่ 12 พฤศจิกายน 2009, 14:47:24
(http://pics.manager.co.th/Images/552000014762001.JPEG)

ภาพ เอเอฟพีวันที่ 12 พ.ย.2552 นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร เข้าร่วมการประชุมสัมมนาที่กระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชา ในหัวข้อ "กัมพูชากับโลกหลังวิกฤติทางการเงิน" และ เริ่มปราศรัยต่อผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจราว 300 คน ด้วยการก่นบ้านเกิด กล่าวหาว่าประเทศไทยกำลัง "หันเข้าหาลัทธิชาตินิยมแบบผิดๆ" นั่งด้วยกันในภาพคือ นายเกียต ชน (Keat Chhon) รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงที่ดูด้อยค่าลงไปถนัด
       
เอเอฟพี (พนมเปญ) - นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร กล่าวหาประเทศของตัวเองว่า “ปลุกลัทธิชาตินิยมผิดๆ” ทันทีที่เริ่มการเลกเชอร์ แสดงบทบาทใหม่ในฐานะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของกัมพูชาในวันพฤหัสบดี (12 พ.ย.) นี้
       
       เศรษฐีพันล้านที่ถูกขับลงจากอำนาจในการรัฐประหารปี 2549 ซึ่งหลบหนีไปอาศัยในต่างประเทศด้วยความผิดกระทำการทุจริต ไปปราศรัยต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลกับบรรดานักธุรกิจราว 300 คน ที่กระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชา ท่ามกลางความตึงเครียดหลังจากที่รัฐบาลพนมเปญปฏิเสธที่จะส่งตัวเขาเป็น ผู้ร้ายข้ามแดน
       
       “ผมได้เห็นความประสานกลมกลืนกันอย่างมากมาย ระหว่างประเทศของคุณกับประเทศของผม สิ่งไหนที่ดีต่อประเทศของคุณก็ดีกับประเทศของผมด้วย แน่นอนไม่ใช่ว่าเพื่อนร่วมชาติทุกคนจะมองเห็นไปในทางเดียวกันขณะนี้” ทักษิณกล่าว
       
       “ผมไม่เชื่อว่าพวกที่ไม่เห็นด้วยกับวิสัยทัศน์ของเราขณะนี้เป็นพวก สายตาสั้น พลังขับดันทางการเมืองภายในของพวกเขา ทำให้พวกเขาหันเข้าหาลัทธิชาตินิยมอย่างผิดๆ ขอให้ช่วยกันสวดมนต์อ้อนวอนให้พวกเขา หวังว่าสักวันหนึ่งจะทราบซึ้งในการเป็นหุ้นส่วนเพื่อสิ่งที่ดีที่สุด” ทักษิณกล่าวต่อ
       
       เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้พากันดันบรรดาผู้สื่อข่าวออกจากห้อง ประชุม ก่อนหน้าที่การเลกเชอร์ของทักษิณในหัวข้อ “กัมพูชากับโลกหลังวิกฤตทางการเงิน” (Cambodia and the World after the Financial Crisis)
       
       วันพุธที่ผ่านมา กัมพูชาได้ทำให้ไทยไม่สบอารมณ์โดยปฏิเสธการขอให้ส่งตัวทักษิณ (เป็นผู้ร้ายข้ามแดน) โดยกล่าวว่า ข้อหาที่ทำให้ทักษิณถูกตัดสินลงโทษจำคุก 2 ปีขณะอยู่ในต่างประเทศนั้น เกิดจากแรงจูงใจทางการเมือง
       
       นายเกียตชน (Keat Chhon) รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชา ได้กล่าวยกย่องทักษิณ ในการกำจัดความยากจนในเขตชนบท และ นำระบบบริการสาธารณสุขแบบรอบด้านเข้าใช้ ในประเทศไทยซึ่งเป็น "นโยบายที่ต้องตาและทำให้เขาแตกต่างไปจากบรรดาผู้นำก่อนหน้านั้น"

(http://pics.manager.co.th/Images/552000014762002.JPEG)

ภาพ แฟ้มเอเอฟพีวันที่ 12 พ.ย.2552 สมค่าสมราคาในฐานะที่ปรึกษาเศรษฐกิจรัฐบาล และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฮุนเซน นักโทษที่หลบหนีคดีอาญา เล่นบทถนัดด้วยการก่นด่าประเทศไทย กล่าวหาว่าปลุกลัทธิชาตินิยมอย่างผิดๆ ขึ้นมา อันเป็นสำเนียงที่ผู้คนทั่วไปต่างคุ้นเคยดี
       หลังการปราศรัย ทักษิณมีแผนการที่จะไปเที่ยวชมปราสาทนครวัด และ อาจจะเล่นกอล์ฟกับฮุนเซน นายฟายสีฟาน (Phay SIphan) โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
       
       ทักษิณได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากฮุนเซนซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ ชิด ถึงแม้เจ้าหน้าที่กัมพูชาจะกล่าวว่า เขาจะพำนักในประเทศนี้เพียง 2-3 วัน ปและ ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะอาศัยอยู่ที่นี่
       
       เมื่อนักการทูตของไทยเข้ายื่นหนังสือขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนในวันพุธ ฝ่ายกัมพูชาได้ยื่นหนังตอบปฏิเสธอย่างเป็นทางการในทันควัน
       
       ในกรุงเทพฯ มีผู้ประท้วงราว 120 คนกับคนจขับแท็กซี่อีก 30 คน นำเอารถไปชุมนุมประท้วงที่ด้านนอกสถานทูตกัมพูชา แ ละ อ่านแถลงการณ์ขอให้ฮุนเซนยุติการแทรกแซงระบบยุติธรรมของไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายสิบคนถูกส่งเข้าไปรักษาการที่สถานทูต
       
       สัปดาห์ที่แล้ว ไทยกับกัมพูชาได้ผัดกันเรียกทูตกลับประเทศ ขณะที่การพิพาทระหว่างกันเริ่มขยายวง ฝ่ายไทยยังได้หยุดการเจรจราทุกอย่างและยุติโครงการช่วยเหลือทุกทาง รวมทั้งยกเลิกบันทึกช่วยความจำเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับการสำรวจก๊าซ ที่เซ็นกันในสมัยที่ทักษิณอยู่ในอำนาจ
       
       เมื่อวันพุธนายกรัฐมนตีไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้กล่าวประณามกัมพูชาที่ปฏิเสธส่งทักษิณกลับประเทศ และกล่าวว่าได้สั่งให้หยุดโครงการความช่วยเหลือต่างๆ สำหรับประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ ซึ่งยังเป็นประเทศที่ยากจนอย่างมาก หลังจากสงครามที่กินเวลาหลายทศวรรษ

ที่มา : http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9520000136380 (http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9520000136380)


หัวข้อ: Re: บรรยากาศงาน "กัมพูชากับโลกหลังวิกฤติทางการเงิน"
เริ่มหัวข้อโดย: cicimaru ที่ 12 พฤศจิกายน 2009, 15:06:51
 :lol: ครับหุ้นส่วน โดยการแลกพื้นที่แถวเขาพระวิหาร กับสัปทานน้ำมันในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ไทย-กัมพูชา คงยังจำกันได้ ศาลต้องสั่งระงับไว้
 :great: เยี่ยมแผ่นดินของบรรพบุรุษชาติไทย แลกเงินเข้ากระเป๋าตัว

 :jap: แหมอยากยกตัวอย่าง อิสราเอลบุกเลบานอน หรือ รัสเซียบุกจอร์เจีย เพื่อปราบอหังกาจริงๆ


หัวข้อ: Re: บรรยากาศงาน "กัมพูชากับโลกหลังวิกฤติทางการเงิน"
เริ่มหัวข้อโดย: yoshiki ที่ 12 พฤศจิกายน 2009, 15:12:38
 :slap: :slap:


หัวข้อ: Re: บรรยากาศงาน "กัมพูชากับโลกหลังวิกฤติทางการเงิน"
เริ่มหัวข้อโดย: yuki_kaze ที่ 12 พฤศจิกายน 2009, 15:42:25
:lol: ครับหุ้นส่วน โดยการแลกพื้นที่แถวเขาพระวิหาร กับสัปทานน้ำมันในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ไทย-กัมพูชา คงยังจำกันได้ ศาลต้องสั่งระงับไว้
 :great: เยี่ยมแผ่นดินของบรรพบุรุษชาติไทย แลกเงินเข้ากระเป๋าตัว

 :jap: แหมอยากยกตัวอย่าง อิสราเอลบุกเลบานอน หรือ รัสเซียบุกจอร์เจีย เพื่อปราบอหังกาจริงๆ

ผลประโยชน์นักการเมือง+ทหารบ้านเรา มันเยอะครับ

ทำแบบนั้นมิได้หรอก การค้าเขาเสีย 5 5 5


หัวข้อ: Re: บรรยากาศงาน "กัมพูชากับโลกหลังวิกฤติทางการเงิน"
เริ่มหัวข้อโดย: beerking ที่ 12 พฤศจิกายน 2009, 15:49:09
หล่อสุดๆ อิอิ


หัวข้อ: Re: บรรยากาศงาน "กัมพูชากับโลกหลังวิกฤติทางการเงิน"
เริ่มหัวข้อโดย: leim ที่ 12 พฤศจิกายน 2009, 15:54:50
ว่าแต่ประชุมเสร็จ  มาออกรอบก๊วนกอล์ฟหลุม 19 กันแน่ๆเลยดอกนี้


เหนื่อยอีกแล้ว น้องๆ  อิอิกำ


หัวข้อ: Re: บรรยากาศงาน "กัมพูชากับโลกหลังวิกฤติทางการเงิน"
เริ่มหัวข้อโดย: cicimaru ที่ 12 พฤศจิกายน 2009, 17:04:33
ว่าแต่ประชุมเสร็จ  มาออกรอบก๊วนกอล์ฟหลุม 19 กันแน่ๆเลยดอกนี้


เหนื่อยอีกแล้ว น้องๆ  อิอิกำ
:lol: มะเร็งไข่  กำเริบ


หัวข้อ: Re: บรรยากาศงาน "กัมพูชากับโลกหลังวิกฤติทางการเงิน"
เริ่มหัวข้อโดย: kim ที่ 13 พฤศจิกายน 2009, 00:05:11
 :slap:


หัวข้อ: Re: บรรยากาศงาน "กัมพูชากับโลกหลังวิกฤติทางการเงิน"
เริ่มหัวข้อโดย: สบาย-สบาย ที่ 13 พฤศจิกายน 2009, 01:04:46
ขอให้ไปสู่สุขสติด้วยเทอญ


หัวข้อ: Re: บรรยากาศงาน "กัมพูชากับโลกหลังวิกฤติทางการเงิน"
เริ่มหัวข้อโดย: dazeb ที่ 13 พฤศจิกายน 2009, 07:23:26
ไม่นานเดี๋ยวมันก็ตายเอง :yes:


หัวข้อ: Re: บรรยากาศงาน "กัมพูชากับโลกหลังวิกฤติทางการเงิน"
เริ่มหัวข้อโดย: tccx ที่ 13 พฤศจิกายน 2009, 07:52:30
ไม่นานเดี๋ยวมันก็ตายเอง :yes:


อยากให้มันตายเร็วๆหน่อยนะ  โลกจะได้สงบสุข


หัวข้อ: Re: บรรยากาศงาน "กัมพูชากับโลกหลังวิกฤติทางการเงิน"
เริ่มหัวข้อโดย: kim ที่ 13 พฤศจิกายน 2009, 09:59:14
ไม่นานเดี๋ยวมันก็ตายเอง :yes:

มะเร็งลงไข่เหรอ :go:


หัวข้อ: Re: บรรยากาศงาน "กัมพูชากับโลกหลังวิกฤติทางการเงิน"
เริ่มหัวข้อโดย: Venom-Crusher ที่ 13 พฤศจิกายน 2009, 10:11:15
หล่อสุดๆ อิอิ

เป็นธรรมดาที่อยู่ในวงศ์เดียวกัน ย่อมเห็นซึ่งกันและกันหล่อ อิอิกำ :drunk:


หัวข้อ: Re: บรรยากาศงาน "กัมพูชากับโลกหลังวิกฤติทางการเงิน"
เริ่มหัวข้อโดย: HuGnOi ที่ 13 พฤศจิกายน 2009, 11:35:31
ผมว่ามันเควี้ยจริงๆครับ


หัวข้อ: Re: บรรยากาศงาน "กัมพูชากับโลกหลังวิกฤติทางการเงิน"
เริ่มหัวข้อโดย: HuGnOi ที่ 13 พฤศจิกายน 2009, 11:43:52
คอลั่มนี้อ่านมาหลายวันแล้วครับ อ่านแล้วสมเพช ทักษินจริงๆ ไปเป็นขี้ข้านก2หัวนี้  :slap:

อ้างถึง
ประวัติศาสตร์ไทย-เขมร

ผมไม่อยู่สองสามวัน กลับมาอุณหภูมิไทยเขมรเดือดปุด หลังจาก "บิ๊กจิ๋ว" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีไทย บินไปจู๋จี๋กับ สมเด็จฮุน เซน นายกฯกัมพูชา กันสองต่อสองประสาคนมีปัญหาด้วยกัน หลังจากนั้น สมเด็จฮุน เซน ก็เหมือนม้าศึกโด๊ปยา ลุกขึ้นมาท้ารบไทยเหย็งๆอย่างไม่เกรงกลัวบิ๊กจิ๋ว ไปบอกความลับอะไรกับ สมเด็จฮุน เซน ไม่มีใครรู้ คุยกันสองคน

แต่วันพรุ่งนี้ สมเด็จฮุน เซน บอกนักข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทยอีกคน จะบินเข้ากัมพูชาในฐานะ "ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและการคลัง" ของ สมเด็จฮุน เซน เพื่อไปบรรยายให้ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจเขมร 300 คนฟัง โดยไม่สนใจเสียงคัดค้านของไทยเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน แถมยังประกาศด้วยว่า ไทยจะปิดชายแดนก็ปิดไป เขมรก็จะปิดชายแดนด้วย

ก็ ต้องคอยดูกันต่อไป อดีตนายกฯทักษิณ จะไปให้คำปรึกษาอะไรบ้างกับ สมเด็จฮุน เซน จะเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองมากกว่า หรือจะเห็นประโยชน์ของกัมพูชามากกว่า

มีคนถามว่า เคยมีอดีตนายกรัฐมนตีประเทศไหนบ้าง ที่ไปเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้นำของประเทศที่มีเรื่องขัดแย้งกับประเทศตัวเอง ซึ่งมีทั้งความขัดแย้งเรื่องชายแดน ความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนที่มีมูลค่ามหาศาล ล้วนเป็น ความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ระหว่างประเทศ ที่ ล่อแหลมต่อความมั่นคงของชาติ อย่างนี้บ้าง

คำตอบก็คือ ไม่ทราบ และ ไม่คิดว่าจะมี

เท่า ที่เห็นอย่างเช่น นายจิมมี่ คาร์เตอร์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ไปทำเรื่องการกุศลระหว่างประเทศ ช่วยเหลือคนยากจนที่ไร้ที่อยู่อาศัย หรือ นายโทนี แบลร์ อดีตนายกฯอังกฤษ ก็กำลังไปสมัครชิงตำแหน่ง ประธานสภายุโรป เป็นเรื่องส่วนรวม แต่อดีตผู้นำที่ไปเป็นที่ปรึกษาให้ประเทศคู่แข่ง หรือประเทศคู่ขัดแย้งอย่างนี้ ผมขอเรียนตามตรงว่ายังไม่เคยเห็น

ถูกต้องหรือไม่ ก็อยู่ที่จิตสำนึกของแต่ละคน

ผม ก็ได้แต่หวังว่า อดีตนายกฯทักษิณ จะไม่ให้คำปรึกษาที่เป็นผลลบแก่ประเทศไทย มิฉะนั้น ประวัติศาสตร์หน้านี้จะบันทึกไปถึงชั่วลูกชั่วหลาน

ช่วงนี้ ท่านผู้อ่านคงได้ยินคำว่า "พระยาละแวก" กันบ่อยครั้ง หลายท่านอาจยังสงสัยที่มาที่ไป ชื่อนี้ในพงศาวดารไทยเขาใช้เรียก กษัตริย์เขมร ในช่วงที่ตั้งเมืองหลวงอยู่ที่ เมืองละแวก ในสมัย สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ และ สมเด็จพระนเรศวร

สมัยนั้น ประเทศไทยอ่อนแอทีไร หรือถูกพม่ายกมาตี พระยาละแวก (เจ้าเมืองละแวก) ก็จะยกทัพมาตีเมืองไทย ปล้นเมือง กวาดต้อนผู้คนไปหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่ง สมเด็จพระนเรศวร ขึ้นครองราชย์จึงทรงร่วมกับ สมเด็จพระเอกาทศรถ ยกกองทัพไปปราบเขมรเพื่อให้เข็ดหลาบเสียที

สมเด็จพระนเรศวร ต้องยกทัพไปปราบถึง 2 ครั้ง จึงตีเมืองละแวกสำเร็จและจับตัว พระยาละแวก ประหารชีวิต แต่ในพงศาวดารเขมรกลับเขียนว่ากษัตริย์ไทยใช้หมอผีไปทำคุณไสย ทำให้พระยาละแวกสติผันแปร เสวยแต่น้ำจัณฑ์ แล้วส่งข่าวให้ทางกรุงศรีอยุธยายกทัพไปตี

ในอดีตเขมรเป็นประเทศราชมา ตลอด เพราะเป็นประเทศกันชนระหว่าง ไทย กับ ญวน ซึ่งเป็นมหาอำนาจในแหลมมาลายู เขมรจะแปรพักตร์ไปมา ขึ้นอยู่กับว่า ช่วงไหนไทยกับญวนจะเข้มแข็งกว่ากัน ว่ากันว่า ถ้าเขมรตั้งเมืองหลวงอยู่ที่เมือง "อุดงมีชัย" หรือ "บันทายเพชร" ก็มักจะมาขึ้นกับ "ไทย" แต่ถ้าไปตั้งเมืองหลวงที่ "พนมเปญ" ก็มักจะไปขึ้นกับ "ญวน" ฟังดูแล้วก็ท่าจะจริง

ก็เหมือนในยุคนี้ เมื่อประเทศไทยอ่อนแอ บ้านเมืองแตกแยก คนไทยแตกแยก แย่งชิงผลประโยชน์กันเอง เขมรก็กล้าลุกขึ้นมาสำแดงฤทธิ์เดชกับไทยอย่างไม่ยำเกรง ทั้งๆที่ในประวัติศาสตร์ ตอนที่เขมรเป็นประเทศราช ไทยก็ไม่เคยกดขี่ข่มเหงเขมรเลย ยังช่วยราชวงศ์เขมรกอบกู้ราชบัลลังก์ด้วยซ้ำ.

"ลม เปลี่ยนทิศ"

[url]http://www.thairath.co.th/column/pol/thai_remark/45765[/url] ([url]http://www.thairath.co.th/column/pol/thai_remark/45765[/url])


หัวข้อ: Re: บรรยากาศงาน "กัมพูชากับโลกหลังวิกฤติทางการเงิน"
เริ่มหัวข้อโดย: INUGAMI21 ที่ 13 พฤศจิกายน 2009, 18:09:10
เค้ามาปรับปรุงเศรษฐ์กิจของกัมพูชา  กัมพูชาส่วนมากทำการค้าขายกับไทย แล้วเค้าจะเข้ามาปรับปรุงอะไรหว่า


ผมไม่ผิดครับผมไม่ผิด ผมไม่เข้ามาต่อสู้หรอกครับ ผมวนเวียนเป็นผีนอกศาลกินของตามสี่แยกแทน


หัวข้อ: Re: บรรยากาศงาน "กัมพูชากับโลกหลังวิกฤติทางการเงิน"
เริ่มหัวข้อโดย: H2oplus ที่ 14 พฤศจิกายน 2009, 00:05:57
แค่เสียดายข้าวที่ปลูกให้คนกินครับ ควายที่เราด่ามันโง่หนักหนา แต่มันยังไถ่นาให้คนกิน :whip: :whip:


หัวข้อ: Re: บรรยากาศงาน "กัมพูชากับโลกหลังวิกฤติทางการเงิน"
เริ่มหัวข้อโดย: dazeb ที่ 14 พฤศจิกายน 2009, 02:41:41
คอลั่มนี้อ่านมาหลายวันแล้วครับ อ่านแล้วสมเพช ทักษินจริงๆ ไปเป็นขี้ข้านก2หัวนี้  :slap:

อ้างถึง
ประวัติศาสตร์ไทย-เขมร

ผมไม่อยู่สองสามวัน กลับมาอุณหภูมิไทยเขมรเดือดปุด หลังจาก "บิ๊กจิ๋ว" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีไทย บินไปจู๋จี๋กับ สมเด็จฮุน เซน นายกฯกัมพูชา กันสองต่อสองประสาคนมีปัญหาด้วยกัน หลังจากนั้น สมเด็จฮุน เซน ก็เหมือนม้าศึกโด๊ปยา ลุกขึ้นมาท้ารบไทยเหย็งๆอย่างไม่เกรงกลัวบิ๊กจิ๋ว ไปบอกความลับอะไรกับ สมเด็จฮุน เซน ไม่มีใครรู้ คุยกันสองคน

แต่วันพรุ่งนี้ สมเด็จฮุน เซน บอกนักข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทยอีกคน จะบินเข้ากัมพูชาในฐานะ "ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและการคลัง" ของ สมเด็จฮุน เซน เพื่อไปบรรยายให้ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจเขมร 300 คนฟัง โดยไม่สนใจเสียงคัดค้านของไทยเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน แถมยังประกาศด้วยว่า ไทยจะปิดชายแดนก็ปิดไป เขมรก็จะปิดชายแดนด้วย

ก็ ต้องคอยดูกันต่อไป อดีตนายกฯทักษิณ จะไปให้คำปรึกษาอะไรบ้างกับ สมเด็จฮุน เซน จะเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองมากกว่า หรือจะเห็นประโยชน์ของกัมพูชามากกว่า

มีคนถามว่า เคยมีอดีตนายกรัฐมนตีประเทศไหนบ้าง ที่ไปเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้นำของประเทศที่มีเรื่องขัดแย้งกับประเทศตัวเอง ซึ่งมีทั้งความขัดแย้งเรื่องชายแดน ความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนที่มีมูลค่ามหาศาล ล้วนเป็น ความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ระหว่างประเทศ ที่ ล่อแหลมต่อความมั่นคงของชาติ อย่างนี้บ้าง

คำตอบก็คือ ไม่ทราบ และ ไม่คิดว่าจะมี

เท่า ที่เห็นอย่างเช่น นายจิมมี่ คาร์เตอร์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ไปทำเรื่องการกุศลระหว่างประเทศ ช่วยเหลือคนยากจนที่ไร้ที่อยู่อาศัย หรือ นายโทนี แบลร์ อดีตนายกฯอังกฤษ ก็กำลังไปสมัครชิงตำแหน่ง ประธานสภายุโรป เป็นเรื่องส่วนรวม แต่อดีตผู้นำที่ไปเป็นที่ปรึกษาให้ประเทศคู่แข่ง หรือประเทศคู่ขัดแย้งอย่างนี้ ผมขอเรียนตามตรงว่ายังไม่เคยเห็น

ถูกต้องหรือไม่ ก็อยู่ที่จิตสำนึกของแต่ละคน

ผม ก็ได้แต่หวังว่า อดีตนายกฯทักษิณ จะไม่ให้คำปรึกษาที่เป็นผลลบแก่ประเทศไทย มิฉะนั้น ประวัติศาสตร์หน้านี้จะบันทึกไปถึงชั่วลูกชั่วหลาน

ช่วงนี้ ท่านผู้อ่านคงได้ยินคำว่า "พระยาละแวก" กันบ่อยครั้ง หลายท่านอาจยังสงสัยที่มาที่ไป ชื่อนี้ในพงศาวดารไทยเขาใช้เรียก กษัตริย์เขมร ในช่วงที่ตั้งเมืองหลวงอยู่ที่ เมืองละแวก ในสมัย สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ และ สมเด็จพระนเรศวร

สมัยนั้น ประเทศไทยอ่อนแอทีไร หรือถูกพม่ายกมาตี พระยาละแวก (เจ้าเมืองละแวก) ก็จะยกทัพมาตีเมืองไทย ปล้นเมือง กวาดต้อนผู้คนไปหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่ง สมเด็จพระนเรศวร ขึ้นครองราชย์จึงทรงร่วมกับ สมเด็จพระเอกาทศรถ ยกกองทัพไปปราบเขมรเพื่อให้เข็ดหลาบเสียที

สมเด็จพระนเรศวร ต้องยกทัพไปปราบถึง 2 ครั้ง จึงตีเมืองละแวกสำเร็จและจับตัว พระยาละแวก ประหารชีวิต แต่ในพงศาวดารเขมรกลับเขียนว่ากษัตริย์ไทยใช้หมอผีไปทำคุณไสย ทำให้พระยาละแวกสติผันแปร เสวยแต่น้ำจัณฑ์ แล้วส่งข่าวให้ทางกรุงศรีอยุธยายกทัพไปตี

ในอดีตเขมรเป็นประเทศราชมา ตลอด เพราะเป็นประเทศกันชนระหว่าง ไทย กับ ญวน ซึ่งเป็นมหาอำนาจในแหลมมาลายู เขมรจะแปรพักตร์ไปมา ขึ้นอยู่กับว่า ช่วงไหนไทยกับญวนจะเข้มแข็งกว่ากัน ว่ากันว่า ถ้าเขมรตั้งเมืองหลวงอยู่ที่เมือง "อุดงมีชัย" หรือ "บันทายเพชร" ก็มักจะมาขึ้นกับ "ไทย" แต่ถ้าไปตั้งเมืองหลวงที่ "พนมเปญ" ก็มักจะไปขึ้นกับ "ญวน" ฟังดูแล้วก็ท่าจะจริง

ก็เหมือนในยุคนี้ เมื่อประเทศไทยอ่อนแอ บ้านเมืองแตกแยก คนไทยแตกแยก แย่งชิงผลประโยชน์กันเอง เขมรก็กล้าลุกขึ้นมาสำแดงฤทธิ์เดชกับไทยอย่างไม่ยำเกรง ทั้งๆที่ในประวัติศาสตร์ ตอนที่เขมรเป็นประเทศราช ไทยก็ไม่เคยกดขี่ข่มเหงเขมรเลย ยังช่วยราชวงศ์เขมรกอบกู้ราชบัลลังก์ด้วยซ้ำ.

"ลม เปลี่ยนทิศ"

[url]http://www.thairath.co.th/column/pol/thai_remark/45765[/url] ([url]http://www.thairath.co.th/column/pol/thai_remark/45765[/url])



รอดูประวัติศาสตร์ของใหม่ไปพร้อมๆกันดีกว่าครับ อิอิ



Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF