หัวข้อ: PhishMe(R) ขายกิจการพร้อมรีแบรนด์เป็น Cofense(TM)
เริ่มหัวข้อโดย: iqpressrelease ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2018, 11:28:38
การขายกิจการด้วยมูลค่าสูงถึง 400 ล้านดอลลาร์ สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ นวัตกรรม และการดำเนินงานอันโดดเด่นของบริษัท
PhishMe(R) ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นป้องกันการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต (ฟิชชิ่ง) ที่ออกแบบให้คนเป็นศูนย์กลาง ประกาศว่า ทางบริษัทได้ถูกกลุ่มไพรเวทอิควิตี้กลุ่มหนึ่งเข้าซื้อกิจการด้วยมูลค่า 400 ล้านดอลลาร์ และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Cofense(TM)
Rohyt Belani ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Cofense กล่าวว่า "PhishMe ก่อตั้งขึ้นเพื่อท้าทายความเชื่อที่ว่า "คน" เป็นจุดอ่อนที่สุดในด้านความปลอดภัย โดยลูกค้าในตลาดระดับกลางและลูกค้าองค์กรกว่า 1,700 รายยืนยันว่า พนักงานขององค์กรไม่เพียงรับมือกับการโจมตีทางไซเบอร์ได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นผู้ให้ข้อมูลเชิงลึกได้อย่างทันท่วงทีด้วย โซลูชั่นของ Cofense ช่วยให้พนักงานสามารถให้ข้อมูลการโจมตีทางไซเบอร์ภายในองค์กรซึ่งสอดคล้องกับเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เพื่อทลายห่วงโซ่การโจมตีทางไซเบอร์ให้ได้ในทันที Cofense นำเสนอโซลูชั่นครบวงจรทั้งการตรวจจับการโจมตีภายในองค์กร การตอบสนอง และการดำเนินการอย่างเหมาะสม"
ปัจจุบัน Cofense ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทไพรเวทอิควิตี้อีกหลายแห่ง เพื่อต่อยอดนวัตกรรมแห่งอนาคตผ่านการเติบโตทั้งแบบ Organic Growth และ Inorganic Growth ทั้งนี้ Cofense มีลูกค้าองค์กรหลายร้อยรายในกว่า 50 ประเทศ และ 23 อุตสาหกรรมแนวดิ่ง และจะเดินหน้าส่งมอบโซลูชั่นป้องกันฟิชชิ่งที่ผสานรวมความชาญฉลาดของมนุษย์เข้ากับเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำต่อไป"
Rohyt Belani กล่าวเสริมว่า "การเทคโอเวอร์ครั้งนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมผู้บริหาร พนักงาน และนักลงทุน ขณะที่เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัท ปัจจุบัน ความปลอดภัยทางไซเบอร์ถือเป็นสิ่งที่บริษัทต่างๆให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ เราจึงเดินหน้านำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความสร้างสรรค์สู่ตลาดโลก เพื่อช่วยหยุดการโจมตีทางไซเบอร์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้"
ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทางบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีที่ผ่านมา โดยประสบความสำเร็จในหลายๆด้าน ดังนี้
- อัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) ของรายได้ อยู่ที่ 80% ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา
- PhishMe Reporter(R) ถูกนำไปใช้โดยลูกค้ากว่า 10 ล้านราย
- เปิดตัวเครื่องมือจำลองแบบฟรีเป็นครั้งแรกของวงการในชื่อ PhishMe Free(TM) โดยมุ่งเน้นไปที่ตลาด SMB
- รุกขยายธุรกิจในระดับสากลด้วยการเปิดสำนักงานแห่งใหม่ในออสเตรเลีย สิงคโปร์ ดูไบ และซาอุดิอาระเบีย
- ขยายความร่วมมือผ่านทางโครงการ Technology Alliance Program (TAP) โดยจับมือเป็นพันธมิตรกับบริษัทความปลอดภัยชั้นนำระดับโลกเพิ่มอีก 14 แห่ง เพื่อช่วยให้ลูกค้าเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนให้ได้มากที่สุด
แนวทางอันเป็นเอกลักษณ์และทีมผู้บริหารฝีมือโดดเด่นได้ส่งให้ Cofense ได้รับรางวัลและการยกย่องระดับอุตสาหกรรมหลายรายการในปี 2017 ประกอบด้วย
- ครองตำแหน่งผู้นำในรายงาน 2017 Gartner Magic Quadrant for Security Awareness Computer-Based Training
- ติดทำเนียบ Deloitte Fast 500 ติดต่อกันเป็นปีที่ 3
- ได้รับการยกย่องในฐานะบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดในปี 2017 และสถานที่ทำงานยอดเยี่ยมจากการจัดอันดับของ Washington Business Journal
- Rohyt Belani ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง PhishMe ได้รับรางวัล EY Entrepreneur of The Year(R) สาขาความปลอดภัยประจำภูมิภาคแอตแลนติกกลาง และติดทำเนียบ 40 under 40 ประจำปี 2017 โดย Washington Business Journal รวมถึงทำเนียบ 2017 Tech Titan โดยนิตยสารWashingtonian Magazine
- Aaron Higbee ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและผู้ร่วมก่อตั้ง PhishMe ติดทำเนียบ 40 under 40 ประจำปี 2017 โดย Loudoun Business Journal และทำเนียบ 2017 Tech Titan โดยนิตยสาร Washingtonian Magazine
ทั้งนี้ Cooley LLP รับบทเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายให้แก่ Cofense ขณะที่ Boston Meridian เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการซื้อขายกิจการครั้งนี้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ phishme.com
PhishMe(R) ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นป้องกันการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต (ฟิชชิ่ง) ที่ออกแบบให้คนเป็นศูนย์กลาง ประกาศว่า ทางบริษัทได้ถูกกลุ่มไพรเวทอิควิตี้กลุ่มหนึ่งเข้าซื้อกิจการด้วยมูลค่า 400 ล้านดอลลาร์ และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Cofense(TM)
Rohyt Belani ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Cofense กล่าวว่า "PhishMe ก่อตั้งขึ้นเพื่อท้าทายความเชื่อที่ว่า "คน" เป็นจุดอ่อนที่สุดในด้านความปลอดภัย โดยลูกค้าในตลาดระดับกลางและลูกค้าองค์กรกว่า 1,700 รายยืนยันว่า พนักงานขององค์กรไม่เพียงรับมือกับการโจมตีทางไซเบอร์ได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นผู้ให้ข้อมูลเชิงลึกได้อย่างทันท่วงทีด้วย โซลูชั่นของ Cofense ช่วยให้พนักงานสามารถให้ข้อมูลการโจมตีทางไซเบอร์ภายในองค์กรซึ่งสอดคล้องกับเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เพื่อทลายห่วงโซ่การโจมตีทางไซเบอร์ให้ได้ในทันที Cofense นำเสนอโซลูชั่นครบวงจรทั้งการตรวจจับการโจมตีภายในองค์กร การตอบสนอง และการดำเนินการอย่างเหมาะสม"
ปัจจุบัน Cofense ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทไพรเวทอิควิตี้อีกหลายแห่ง เพื่อต่อยอดนวัตกรรมแห่งอนาคตผ่านการเติบโตทั้งแบบ Organic Growth และ Inorganic Growth ทั้งนี้ Cofense มีลูกค้าองค์กรหลายร้อยรายในกว่า 50 ประเทศ และ 23 อุตสาหกรรมแนวดิ่ง และจะเดินหน้าส่งมอบโซลูชั่นป้องกันฟิชชิ่งที่ผสานรวมความชาญฉลาดของมนุษย์เข้ากับเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำต่อไป"
Rohyt Belani กล่าวเสริมว่า "การเทคโอเวอร์ครั้งนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมผู้บริหาร พนักงาน และนักลงทุน ขณะที่เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัท ปัจจุบัน ความปลอดภัยทางไซเบอร์ถือเป็นสิ่งที่บริษัทต่างๆให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ เราจึงเดินหน้านำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความสร้างสรรค์สู่ตลาดโลก เพื่อช่วยหยุดการโจมตีทางไซเบอร์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้"
ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทางบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีที่ผ่านมา โดยประสบความสำเร็จในหลายๆด้าน ดังนี้
- อัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) ของรายได้ อยู่ที่ 80% ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา
- PhishMe Reporter(R) ถูกนำไปใช้โดยลูกค้ากว่า 10 ล้านราย
- เปิดตัวเครื่องมือจำลองแบบฟรีเป็นครั้งแรกของวงการในชื่อ PhishMe Free(TM) โดยมุ่งเน้นไปที่ตลาด SMB
- รุกขยายธุรกิจในระดับสากลด้วยการเปิดสำนักงานแห่งใหม่ในออสเตรเลีย สิงคโปร์ ดูไบ และซาอุดิอาระเบีย
- ขยายความร่วมมือผ่านทางโครงการ Technology Alliance Program (TAP) โดยจับมือเป็นพันธมิตรกับบริษัทความปลอดภัยชั้นนำระดับโลกเพิ่มอีก 14 แห่ง เพื่อช่วยให้ลูกค้าเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนให้ได้มากที่สุด
แนวทางอันเป็นเอกลักษณ์และทีมผู้บริหารฝีมือโดดเด่นได้ส่งให้ Cofense ได้รับรางวัลและการยกย่องระดับอุตสาหกรรมหลายรายการในปี 2017 ประกอบด้วย
- ครองตำแหน่งผู้นำในรายงาน 2017 Gartner Magic Quadrant for Security Awareness Computer-Based Training
- ติดทำเนียบ Deloitte Fast 500 ติดต่อกันเป็นปีที่ 3
- ได้รับการยกย่องในฐานะบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดในปี 2017 และสถานที่ทำงานยอดเยี่ยมจากการจัดอันดับของ Washington Business Journal
- Rohyt Belani ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง PhishMe ได้รับรางวัล EY Entrepreneur of The Year(R) สาขาความปลอดภัยประจำภูมิภาคแอตแลนติกกลาง และติดทำเนียบ 40 under 40 ประจำปี 2017 โดย Washington Business Journal รวมถึงทำเนียบ 2017 Tech Titan โดยนิตยสารWashingtonian Magazine
- Aaron Higbee ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและผู้ร่วมก่อตั้ง PhishMe ติดทำเนียบ 40 under 40 ประจำปี 2017 โดย Loudoun Business Journal และทำเนียบ 2017 Tech Titan โดยนิตยสาร Washingtonian Magazine
ทั้งนี้ Cooley LLP รับบทเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายให้แก่ Cofense ขณะที่ Boston Meridian เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการซื้อขายกิจการครั้งนี้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ phishme.com
(https://prnewswire2-a.akamaihd.net/p/1893751/sp/189375100/thumbnail/entry_id/1_eqv9ntit/def_height/400/def_width/400/version/100011/type/1)
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/592290/PhishMe_Logo.jpg (https://prnewswire2-a.akamaihd.net/p/1893751/sp/189375100/thumbnail/entry_id/0_7nwnqln7/def_height/400/def_width/400/version/100012/type/1)
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/645799/Cofense_Logo.jpg