หัวข้อ: หัวเว่ย ร่วมงาน CEBIT 2018 มุ่งโชว์เทคโนโลยีเพื่อการพลิกโฉมธุรกิจสู่ระบบดิจิทัล
เริ่มหัวข้อโดย: iqpressrelease ที่ 13 มิถุนายน 2018, 07:39:49
หัวเว่ยพร้อมยื่นมือช่วยเหลือองค์กรทั้งหลายให้ประสบความสำเร็จในโลกดิจิทัล ตั้งแต่การสร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยี ไปจนถึงการพลิกโฉมธุรกิจสู่ระบบดิจิทัล
หัวเว่ยเข้าร่วมงาน CEBIT 2018 ระหว่างวันที่ 11-15 มิถุนายน เพื่อจัดแสดงนวัตกรรมดิจิทัลภายใต้ธีม "Leading New ICT, The Road to Digital Transformation" โดยบริษัทได้นำเสนอวิสัยทัศน์ใหม่ เทคโนโลยี แพลตฟอร์ม และความก้าวหน้าด้านระบบนิเวศ พร้อมจับมือลูกค้าและพาร์ทเนอร์กว่าร้อยรายเพื่อ "บรรเลงเพลงประสานสู่ยุคดิจิทัล"
การพลิกโฉมธุรกิจสู่ระบบดิจิทัลกลายเป็นสิ่งที่ทุกองค์กรไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และเฉกเช่นเดียวกับการบรรเลงเพลงประสาน เทคโนโลยีต่างๆ ก็จำเป็นต้องประสานกันอย่างกลมกลืนเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเติบโต หัวเว่ยได้ตั้งบูธจัดแสดงบนพื้นที่กว่า 3,000 ตารางเมตรในงาน CEBIT 2018 เพื่อจัดแสดงผลิตภัณฑ์ไอซีทีล่าสุด ครอบคลุมตั้งแต่ IoT, AI, คลาวด์คอมพิวติ้ง, บิ๊กดาต้า ไปจนถึงแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างๆ ตลอดจนโซลูชั่นศูนย์ข้อมูล, เครือข่าย Enterprise Campus, eLTE และเทคโนโลยีการสื่อสารระดับองค์กรที่ล้วนได้รับการอัพเกรดให้ดียิ่งขึ้น โซลูชั่นเหล่านี้รองรับการใช้งานในภาคส่วนต่างๆ ทั้งเมืองอัจฉริยะ สนามบิน ภาคการเงิน พลังงาน และการผลิต นอกจากนี้ หัวเว่ยยังเตรียมนำเสนอแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการพลิกโฉมธุรกิจสู่ระบบดิจิทัล พร้อมสำรวจโลกดิจิทัลในอนาคตร่วมกับแขกทุกท่าน เพื่อช่วยกันบรรเลงเพลงประสานสู่ยุคดิจิทัล
บรรเลงเพลงประสานสู่ยุคดิจิทัลในงาน CEBIT
เหยียน หลี่ต๋า ประธานกลุ่มธุรกิจหัวเว่ย เอ็นเตอร์ไพรส์ กล่าวว่า "เยอรมนีเปรียบเสมือนไข่มุกแห่งวงการดนตรียุโรป และเป็นบ้านเกิดของนักประพันธ์เพลงชั้นครูหลายท่าน การพลิกโฉมธุรกิจสู่ระบบดิจิทัลเปรียบได้กับการบรรเลงเพลงประสาน โดยหัวเว่ยได้ประสานความร่วมมือกับลูกค้าและพาร์ทเนอร์ผ่านความร่วมมือแบบ cloud-pipe-device และไฮไลท์ของหัวเว่ยในงานนี้ก็คือ การบรรเลงเพลงประสานสู่ยุคดิจิทัล หัวเว่ยใช้แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมต่างๆ พร้อมร่วมงานกับลูกค้าและพาร์ทเนอร์ในการโชว์แพลตฟอร์มดิจิทัลของบริษัท แอปพลิเคชันและเทอร์มินัลของพาร์ทเนอร์ รวมถึงประโยชน์ที่ลูกค้าของเราได้รับจากการพลิกโฉมธุรกิจสู่ระบบดิจิทัล เมื่อผนึกกำลังกันแล้ว เราก็สามารถบรรเลงเพลงประสานสู่ยุคดิจิทัล ในอนาคตองค์กรทุกแห่งจะกลายเป็นองค์กรดิจิทัล ไม่ว่าจะสร้างแพลตฟอร์มของตนเองหรือเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์มอื่นก็ตาม ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจหัวเว่ย เอ็นเตอร์ไพรส์ มีความมุ่งมั่นในการสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลแบบเปิดที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรม เพื่อช่วยให้องค์กรทั้งหลายประสบความสำเร็จในการหลอมรวมเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) และเทคโนโลยีเชิงปฏิบัติการ (โอที) เช่นเดียวกับการหลอมรวมเทคโนโลยีกับธุรกิจเข้าด้วยกัน โดยเราหวังที่จะนำเสนอเทคโนโลยีดิจิทัลสู่องค์กรทุกแห่ง เพื่อให้โลกของเราเชื่อมโยงถึงกันได้อย่างเต็มรูปแบบและชาญฉลาดยิ่งขึ้น"
โซน "อุตสาหกรรม & ระบบนิเวศ" และโซน "เทคโนโลยี" ชูศักยภาพแพลตฟอร์มดิจิทัลของหัวเว่ย
สำหรับโซน "อุตสาหกรรม & ระบบนิเวศ" หัวเว่ยได้ประสานความร่วมมือกับพันธมิตรและพาร์ทเนอร์ด้านโซลูชั่นกว่าหนึ่งร้อยราย อาทิ SAP, Honeywell และ Accenture เพื่อนำเสนอโซลูชั่นระดับนวัตกรรมและตัวอย่างความสำเร็จจากการใช้งาน โซลูชั่นและตัวอย่างการใช้งานเหล่านี้ครอบคลุม 6 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ เมืองอัจฉริยะ การเงิน การผลิต พลังงานไฟฟ้า การขนส่ง และการค้าปลีก โดยในงานนี้ หัวเว่ยได้นำเสนอแพลตฟอร์มดิจิทัล Smart City เป็นครั้งแรก ซึ่งมีคุณสมบัติในการประสานทรัพยากรพื้นฐาน 5 ประการ เพื่อรองรับ IoT, บิ๊กดาต้า, แผนที่ระบบ Geographic Information System (GIS), วิดีโอคลาวด์ และการสื่อสารแบบหลอมรวม ศักยภาพเหล่านี้ช่วยให้เมืองต่างๆ สามารถแบ่งปันทรัพยากรพื้นฐานกับพาร์ทเนอร์ด้านระบบนิเวศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อความสะดวกในการพัฒนาและใช้งานแอปพลิเคชัน ทั้งยังช่วยสนับสนุนนวัตกรรมการกำกับดูแลเมืองอีกด้วย ขณะเดียวกัน โซลูชั่น Smart Airport 2.0 ที่ใช้เทคโนโลยีไอซีทีรูปแบบใหม่อย่าง IoT, คลาวด์คอมพิวติ้ง และบิ๊กดาต้า ก็มีการอวดโฉมเป็นครั้งแรกในงานนี้ โซลูชั่นดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อยกระดับการไหลเวียนข้อมูลในสนามบินให้ดียิ่งขึ้น พร้อมสร้างความมั่นใจด้านการรักษาความปลอดภัยในสนามบิน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและยกระดับประสบการณ์ของผู้โดยสารตลอดกระบวนการขึ้นเครื่องบิน
ส่วนในโซน "เทคโนโลยี" หัวเว่ยนำเสนอโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่อิงนวัตกรรม IoT, AI, 5G, คลาวด์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัยอื่นๆ ซึ่งรวมถึงโซลูชั่น Industry-oriented Intent-driven Network (IDN), โซลูชั่นคลาวด์ส่วนตัวแบบครบวงจรสำหรับองกร, โซลูชั่นไฮบริดคลาวด์ Azure Stack, แพลตฟอร์ม IoT ที่ได้รับการปรับปรุง, โซลูชั่น IoT ไร้สายสำหรับองค์กรที่ได้รับการปรับปรุง, โซลูชั่นไฮบริดคลาวด์รุ่นใหม่ ตลอดจนกล้องถ่ายรูปเทคโนโลยี AI ที่เพิ่งเปิดตัวออกมาล่าสุด นอกจากนั้นยังเป็นครั้งแรกที่หัวเว่ยได้อวดโซลูชั่น Cloud Data Center ครบวงจร ครอบคลุมแวดวงพลังงาน ไอที และเครือข่ายต่างๆ โดยประกอบด้วยโซลูชั่นคลาวด์ส่วนตัว, โซลูชั่นเครือข่าย CloudFabric Cloud Data Center, คลังข้อมูล FusionInsight LibrA และอีกมากมาย นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้จัดแสดงโซลูชั่นเครือข่าย Campus ที่ใช้เทคโนโลยี AI และบิ๊กดาต้า ซึ่งสนับสนุนการจัดการคลาวด์แบบครบวงจร นำไปสู่การรักษาความปลอดภัยทั่วเครือข่ายอย่างชาญฉลาดและอัตโนมัติ
หัวเว่ยเข้าร่วมงาน CEBIT 2018 ระหว่างวันที่ 11-15 มิถุนายน เพื่อจัดแสดงนวัตกรรมดิจิทัลภายใต้ธีม "Leading New ICT, The Road to Digital Transformation" โดยบริษัทได้นำเสนอวิสัยทัศน์ใหม่ เทคโนโลยี แพลตฟอร์ม และความก้าวหน้าด้านระบบนิเวศ พร้อมจับมือลูกค้าและพาร์ทเนอร์กว่าร้อยรายเพื่อ "บรรเลงเพลงประสานสู่ยุคดิจิทัล"
การพลิกโฉมธุรกิจสู่ระบบดิจิทัลกลายเป็นสิ่งที่ทุกองค์กรไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และเฉกเช่นเดียวกับการบรรเลงเพลงประสาน เทคโนโลยีต่างๆ ก็จำเป็นต้องประสานกันอย่างกลมกลืนเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเติบโต หัวเว่ยได้ตั้งบูธจัดแสดงบนพื้นที่กว่า 3,000 ตารางเมตรในงาน CEBIT 2018 เพื่อจัดแสดงผลิตภัณฑ์ไอซีทีล่าสุด ครอบคลุมตั้งแต่ IoT, AI, คลาวด์คอมพิวติ้ง, บิ๊กดาต้า ไปจนถึงแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างๆ ตลอดจนโซลูชั่นศูนย์ข้อมูล, เครือข่าย Enterprise Campus, eLTE และเทคโนโลยีการสื่อสารระดับองค์กรที่ล้วนได้รับการอัพเกรดให้ดียิ่งขึ้น โซลูชั่นเหล่านี้รองรับการใช้งานในภาคส่วนต่างๆ ทั้งเมืองอัจฉริยะ สนามบิน ภาคการเงิน พลังงาน และการผลิต นอกจากนี้ หัวเว่ยยังเตรียมนำเสนอแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการพลิกโฉมธุรกิจสู่ระบบดิจิทัล พร้อมสำรวจโลกดิจิทัลในอนาคตร่วมกับแขกทุกท่าน เพื่อช่วยกันบรรเลงเพลงประสานสู่ยุคดิจิทัล
บรรเลงเพลงประสานสู่ยุคดิจิทัลในงาน CEBIT
เหยียน หลี่ต๋า ประธานกลุ่มธุรกิจหัวเว่ย เอ็นเตอร์ไพรส์ กล่าวว่า "เยอรมนีเปรียบเสมือนไข่มุกแห่งวงการดนตรียุโรป และเป็นบ้านเกิดของนักประพันธ์เพลงชั้นครูหลายท่าน การพลิกโฉมธุรกิจสู่ระบบดิจิทัลเปรียบได้กับการบรรเลงเพลงประสาน โดยหัวเว่ยได้ประสานความร่วมมือกับลูกค้าและพาร์ทเนอร์ผ่านความร่วมมือแบบ cloud-pipe-device และไฮไลท์ของหัวเว่ยในงานนี้ก็คือ การบรรเลงเพลงประสานสู่ยุคดิจิทัล หัวเว่ยใช้แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมต่างๆ พร้อมร่วมงานกับลูกค้าและพาร์ทเนอร์ในการโชว์แพลตฟอร์มดิจิทัลของบริษัท แอปพลิเคชันและเทอร์มินัลของพาร์ทเนอร์ รวมถึงประโยชน์ที่ลูกค้าของเราได้รับจากการพลิกโฉมธุรกิจสู่ระบบดิจิทัล เมื่อผนึกกำลังกันแล้ว เราก็สามารถบรรเลงเพลงประสานสู่ยุคดิจิทัล ในอนาคตองค์กรทุกแห่งจะกลายเป็นองค์กรดิจิทัล ไม่ว่าจะสร้างแพลตฟอร์มของตนเองหรือเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์มอื่นก็ตาม ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจหัวเว่ย เอ็นเตอร์ไพรส์ มีความมุ่งมั่นในการสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลแบบเปิดที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรม เพื่อช่วยให้องค์กรทั้งหลายประสบความสำเร็จในการหลอมรวมเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) และเทคโนโลยีเชิงปฏิบัติการ (โอที) เช่นเดียวกับการหลอมรวมเทคโนโลยีกับธุรกิจเข้าด้วยกัน โดยเราหวังที่จะนำเสนอเทคโนโลยีดิจิทัลสู่องค์กรทุกแห่ง เพื่อให้โลกของเราเชื่อมโยงถึงกันได้อย่างเต็มรูปแบบและชาญฉลาดยิ่งขึ้น"
โซน "อุตสาหกรรม & ระบบนิเวศ" และโซน "เทคโนโลยี" ชูศักยภาพแพลตฟอร์มดิจิทัลของหัวเว่ย
สำหรับโซน "อุตสาหกรรม & ระบบนิเวศ" หัวเว่ยได้ประสานความร่วมมือกับพันธมิตรและพาร์ทเนอร์ด้านโซลูชั่นกว่าหนึ่งร้อยราย อาทิ SAP, Honeywell และ Accenture เพื่อนำเสนอโซลูชั่นระดับนวัตกรรมและตัวอย่างความสำเร็จจากการใช้งาน โซลูชั่นและตัวอย่างการใช้งานเหล่านี้ครอบคลุม 6 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ เมืองอัจฉริยะ การเงิน การผลิต พลังงานไฟฟ้า การขนส่ง และการค้าปลีก โดยในงานนี้ หัวเว่ยได้นำเสนอแพลตฟอร์มดิจิทัล Smart City เป็นครั้งแรก ซึ่งมีคุณสมบัติในการประสานทรัพยากรพื้นฐาน 5 ประการ เพื่อรองรับ IoT, บิ๊กดาต้า, แผนที่ระบบ Geographic Information System (GIS), วิดีโอคลาวด์ และการสื่อสารแบบหลอมรวม ศักยภาพเหล่านี้ช่วยให้เมืองต่างๆ สามารถแบ่งปันทรัพยากรพื้นฐานกับพาร์ทเนอร์ด้านระบบนิเวศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อความสะดวกในการพัฒนาและใช้งานแอปพลิเคชัน ทั้งยังช่วยสนับสนุนนวัตกรรมการกำกับดูแลเมืองอีกด้วย ขณะเดียวกัน โซลูชั่น Smart Airport 2.0 ที่ใช้เทคโนโลยีไอซีทีรูปแบบใหม่อย่าง IoT, คลาวด์คอมพิวติ้ง และบิ๊กดาต้า ก็มีการอวดโฉมเป็นครั้งแรกในงานนี้ โซลูชั่นดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อยกระดับการไหลเวียนข้อมูลในสนามบินให้ดียิ่งขึ้น พร้อมสร้างความมั่นใจด้านการรักษาความปลอดภัยในสนามบิน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและยกระดับประสบการณ์ของผู้โดยสารตลอดกระบวนการขึ้นเครื่องบิน
ส่วนในโซน "เทคโนโลยี" หัวเว่ยนำเสนอโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่อิงนวัตกรรม IoT, AI, 5G, คลาวด์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัยอื่นๆ ซึ่งรวมถึงโซลูชั่น Industry-oriented Intent-driven Network (IDN), โซลูชั่นคลาวด์ส่วนตัวแบบครบวงจรสำหรับองกร, โซลูชั่นไฮบริดคลาวด์ Azure Stack, แพลตฟอร์ม IoT ที่ได้รับการปรับปรุง, โซลูชั่น IoT ไร้สายสำหรับองค์กรที่ได้รับการปรับปรุง, โซลูชั่นไฮบริดคลาวด์รุ่นใหม่ ตลอดจนกล้องถ่ายรูปเทคโนโลยี AI ที่เพิ่งเปิดตัวออกมาล่าสุด นอกจากนั้นยังเป็นครั้งแรกที่หัวเว่ยได้อวดโซลูชั่น Cloud Data Center ครบวงจร ครอบคลุมแวดวงพลังงาน ไอที และเครือข่ายต่างๆ โดยประกอบด้วยโซลูชั่นคลาวด์ส่วนตัว, โซลูชั่นเครือข่าย CloudFabric Cloud Data Center, คลังข้อมูล FusionInsight LibrA และอีกมากมาย นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้จัดแสดงโซลูชั่นเครือข่าย Campus ที่ใช้เทคโนโลยี AI และบิ๊กดาต้า ซึ่งสนับสนุนการจัดการคลาวด์แบบครบวงจร นำไปสู่การรักษาความปลอดภัยทั่วเครือข่ายอย่างชาญฉลาดและอัตโนมัติ