หัวข้อ: เมอร์ค ศูนย์ความร่วมมือลูกค้า “M Lab(TM) Collaboration Center” แห่งแรกในยุโรป
เริ่มหัวข้อโดย: iqpressrelease ที่ 21 มีนาคม 2019, 11:55:46
- ศูนย์แห่งใหม่ในโมลไชม์ ประเทศฝรั่งเศส จะสนับสนุนลูกค้าในวงการเภสัชกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพ ตั้งแต่ขั้นตอนพรีคลินิกไปจนถึงการผลิตเต็มรูปแบบในสภาพแวดล้อมแบบ non-GMP
- เปิดโอกาสให้ลูกค้าเข้าถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ชีววิทยาศาสตร์และความเชี่ยวชาญทางเทคนิคของเมอร์คได้โดยตรง
- จำลองสภาพแวดล้อมการผลิต ครอบคลุมทั้งกระบวนการแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบ
เมอร์ค (Merck) บริษัทวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นนำ เปิดศูนย์ความร่วมมือลูกค้า M Lab(TM) Collaboration Center ในเมืองโมลไชม์ ประเทศฝรั่งเศส อย่างเป็นทางการในวันนี้ นับเป็นศูนย์ความร่วมมือลูกค้าแห่งแรกของเมอร์คในยุโรป และเป็นลำดับที่ 9 ทั่วโลก ศูนย์แห่งใหม่ล่าสุดนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตชีวเภสัชภัณฑ์สามารถทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรของเมอร์คอย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาที่ยากที่สุด รวมทั้งเร่งให้เกิดการพัฒนาและผลิตยารักษาโรคใหม่ ๆ
"ลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของเราในการพัฒนากระบวนการเพื่อให้ผลิตยาได้เร็วขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ท่ามกลางการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมชีวเภสัชภัณฑ์ในยุโรป ประกอบกับความต้องการยารักษาโรคใหม่ ๆ ในราคาไม่แพงจากทั่วโลก" อูดิท บาทรา สมาชิกคณะกรรมการบริหารของเมอร์ค และซีอีโอกลุ่มธุรกิจชีววิทยาศาสตร์ (Life Science) กล่าวในโอกาสเปิดศูนย์ที่โมลไชม์ วันนี้ "การลงทุนของเราที่นี่ จะเร่งผลักดันอุตสาหกรรมชีวเภสัชกรรมในภูมิภาค EMEA ให้เติบโตเร็วยิ่งขึ้นในอนาคต"
ศูนย์ M Lab(TM) Collaboration Center ขนาด 4,000 ตารางเมตรแห่งนี้ ถือเป็นการลงทุนครั้งสำคัญของเมอร์คในภูมิภาค ด้วยมูลค่าการลงทุน 10 ล้านยูโร ศูนย์แห่งนี้จะทำให้ลูกค้าในยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา สามารถใช้บริการห้องแล็บขนาดเล็ก (pilot and bench scale lab) ในสภาพแวดล้อมแบบ non-GMP ที่มีเครื่องมือและอุปกรณ์สะดวกครบครัน รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางพบปะที่ลูกค้าสามารถทำงานเคียงข้างกับผู้เชี่ยวชาญของเมอร์ค เพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วนที่ท้าทายการพัฒนาด้านการผลิต โดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสายการผลิตของพวกเขา
ศูนย์ในโมลไชม์นับเป็นศูนย์แห่งล่าสุดในเครือข่าย M Lab(TM) Collaboration Center ของเมอร์คที่ตั้งกระจายอยู่ทั่วโลก ได้แก่ ในสหรัฐอเมริกา บราซิล จีน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และอินเดีย (ซึ่งมีศูนย์อยู่สองแห่ง)
ลูกค้าของเมอร์คทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคของบริษัท เพื่อสำรวจวิธีการใหม่ ๆ ในการเพิ่มผลิตภาพ ปรับปรุงกระบวนการผลิต และลดความเสี่ยง ห้องแล็บขนาดเล็กจำนวนหลายห้องตั้งอยู่ในพื้นที่ที่จำลองสภาพแวดล้อมการผลิตจริงตลอดทั้งกระบวนการ ลูกค้าจะได้ใช้อุปกรณ์จริง ประเมินกระบวนการผลิต ทั้งยังสามารถเข้ารับการฝึกอบรมการปฏิบัติงานจริงในด้านกระบวนการชีวภาพ ซึ่งจะให้ความรู้เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด ตลอดจนแนวทางใหม่ ๆ ในการพัฒนา เพิ่มประสิทธิภาพ และขยายกระบวนการ ตลอดจนทำให้การถ่ายทอดเทคโนโลยีทั่วโลกเป็นเรื่องง่ายขึ้น
ติดตามเมอร์คได้ทาง Twitter @Merckgroup, Facebook @merckgroup และ LinkedIn
ข่าวประชาสัมพันธ์ของเมอร์คทั้งหมดได้รับการเผยแพร่ผ่านทางอีเมลในช่วงเวลาเดียวกับที่มีการเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของเมอร์ค กรุณาเข้าไปที่ www.merckgroup.com/subscribe (http://www.merckgroup.com/subscribe) เพื่อลงทะเบียนออนไลน์ เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกบริการนี้
เกี่ยวกับ เมอร์ค
เมอร์ค คือบริษัทวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นนำ โดยมีการดำเนินงานครอบคลุมด้านการดูแลสุขภาพ ชีววิทยาศาสตร์ และวัสดุสมรรถนะสูง พนักงานประมาณ 52,000 คนของบริษัทต่างทุ่มเทในการสร้างความแตกต่างที่ดีต่อชีวิตของผู้คนหลายล้านคนในทุก ๆ วัน ด้วยการนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตที่มีความสุขและยั่งยืนยิ่งขึ้น เมอร์ค เป็นทั้งผู้พัฒนาเทคโนโลยีตัดต่อยีน ไปจนถึงการเสาะหากลวิธีใหม่ ๆ ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บที่ท้าทายที่สุด ตลอดจนการคิดค้นอุปกรณ์อัจฉริยะ โดยในปี 2561 เมอร์คทำยอดขายได้ 1.48 หมื่นล้านยูโร ใน 66 ประเทศ
การสำรวจในทางวิทยาศาสตร์และการทำธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ คือหัวใจหลักในความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเมอร์ค ทั้งยังเป็นเบื้องหลังความสำเร็จของเมอร์ค นับตั้งแต่ที่ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2211 ปัจจุบันครอบครัวผู้ก่อตั้งยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่มบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เมอร์คครอบครองสิทธิ์ในชื่อและแบรนด์ "เมอร์ค" ทั่วโลก ยกเว้นในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ซึ่งบริษัทดำเนินธุรกิจในชื่อ อีเอ็มดี เซโรโน ในวงการดูแลสุขภาพ, มิลลิพอร์ซิกมา ในวงการชีววิทยาศาสตร์ และอีเอ็มดี เพอร์ฟอร์แมนซ์ แมททีเรียลส์
(https://prnewswire2-a.akamaihd.net/p/1893751/sp/189375100/thumbnail/entry_id/1_bskil225/def_height/400/def_width/400/version/100011/type/1)
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/837208/Merck_M_Lab_Molsheim.jpg (https://mma.prnewswire.com/media/837208/Merck_M_Lab_Molsheim.jpg)
- เปิดโอกาสให้ลูกค้าเข้าถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ชีววิทยาศาสตร์และความเชี่ยวชาญทางเทคนิคของเมอร์คได้โดยตรง
- จำลองสภาพแวดล้อมการผลิต ครอบคลุมทั้งกระบวนการแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบ
เมอร์ค (Merck) บริษัทวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นนำ เปิดศูนย์ความร่วมมือลูกค้า M Lab(TM) Collaboration Center ในเมืองโมลไชม์ ประเทศฝรั่งเศส อย่างเป็นทางการในวันนี้ นับเป็นศูนย์ความร่วมมือลูกค้าแห่งแรกของเมอร์คในยุโรป และเป็นลำดับที่ 9 ทั่วโลก ศูนย์แห่งใหม่ล่าสุดนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตชีวเภสัชภัณฑ์สามารถทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรของเมอร์คอย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาที่ยากที่สุด รวมทั้งเร่งให้เกิดการพัฒนาและผลิตยารักษาโรคใหม่ ๆ
"ลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของเราในการพัฒนากระบวนการเพื่อให้ผลิตยาได้เร็วขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ท่ามกลางการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมชีวเภสัชภัณฑ์ในยุโรป ประกอบกับความต้องการยารักษาโรคใหม่ ๆ ในราคาไม่แพงจากทั่วโลก" อูดิท บาทรา สมาชิกคณะกรรมการบริหารของเมอร์ค และซีอีโอกลุ่มธุรกิจชีววิทยาศาสตร์ (Life Science) กล่าวในโอกาสเปิดศูนย์ที่โมลไชม์ วันนี้ "การลงทุนของเราที่นี่ จะเร่งผลักดันอุตสาหกรรมชีวเภสัชกรรมในภูมิภาค EMEA ให้เติบโตเร็วยิ่งขึ้นในอนาคต"
ศูนย์ M Lab(TM) Collaboration Center ขนาด 4,000 ตารางเมตรแห่งนี้ ถือเป็นการลงทุนครั้งสำคัญของเมอร์คในภูมิภาค ด้วยมูลค่าการลงทุน 10 ล้านยูโร ศูนย์แห่งนี้จะทำให้ลูกค้าในยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา สามารถใช้บริการห้องแล็บขนาดเล็ก (pilot and bench scale lab) ในสภาพแวดล้อมแบบ non-GMP ที่มีเครื่องมือและอุปกรณ์สะดวกครบครัน รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางพบปะที่ลูกค้าสามารถทำงานเคียงข้างกับผู้เชี่ยวชาญของเมอร์ค เพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วนที่ท้าทายการพัฒนาด้านการผลิต โดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสายการผลิตของพวกเขา
ศูนย์ในโมลไชม์นับเป็นศูนย์แห่งล่าสุดในเครือข่าย M Lab(TM) Collaboration Center ของเมอร์คที่ตั้งกระจายอยู่ทั่วโลก ได้แก่ ในสหรัฐอเมริกา บราซิล จีน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และอินเดีย (ซึ่งมีศูนย์อยู่สองแห่ง)
ลูกค้าของเมอร์คทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคของบริษัท เพื่อสำรวจวิธีการใหม่ ๆ ในการเพิ่มผลิตภาพ ปรับปรุงกระบวนการผลิต และลดความเสี่ยง ห้องแล็บขนาดเล็กจำนวนหลายห้องตั้งอยู่ในพื้นที่ที่จำลองสภาพแวดล้อมการผลิตจริงตลอดทั้งกระบวนการ ลูกค้าจะได้ใช้อุปกรณ์จริง ประเมินกระบวนการผลิต ทั้งยังสามารถเข้ารับการฝึกอบรมการปฏิบัติงานจริงในด้านกระบวนการชีวภาพ ซึ่งจะให้ความรู้เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด ตลอดจนแนวทางใหม่ ๆ ในการพัฒนา เพิ่มประสิทธิภาพ และขยายกระบวนการ ตลอดจนทำให้การถ่ายทอดเทคโนโลยีทั่วโลกเป็นเรื่องง่ายขึ้น
ติดตามเมอร์คได้ทาง Twitter @Merckgroup, Facebook @merckgroup และ LinkedIn
ข่าวประชาสัมพันธ์ของเมอร์คทั้งหมดได้รับการเผยแพร่ผ่านทางอีเมลในช่วงเวลาเดียวกับที่มีการเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของเมอร์ค กรุณาเข้าไปที่ www.merckgroup.com/subscribe (http://www.merckgroup.com/subscribe) เพื่อลงทะเบียนออนไลน์ เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกบริการนี้
เกี่ยวกับ เมอร์ค
เมอร์ค คือบริษัทวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นนำ โดยมีการดำเนินงานครอบคลุมด้านการดูแลสุขภาพ ชีววิทยาศาสตร์ และวัสดุสมรรถนะสูง พนักงานประมาณ 52,000 คนของบริษัทต่างทุ่มเทในการสร้างความแตกต่างที่ดีต่อชีวิตของผู้คนหลายล้านคนในทุก ๆ วัน ด้วยการนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตที่มีความสุขและยั่งยืนยิ่งขึ้น เมอร์ค เป็นทั้งผู้พัฒนาเทคโนโลยีตัดต่อยีน ไปจนถึงการเสาะหากลวิธีใหม่ ๆ ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บที่ท้าทายที่สุด ตลอดจนการคิดค้นอุปกรณ์อัจฉริยะ โดยในปี 2561 เมอร์คทำยอดขายได้ 1.48 หมื่นล้านยูโร ใน 66 ประเทศ
การสำรวจในทางวิทยาศาสตร์และการทำธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ คือหัวใจหลักในความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเมอร์ค ทั้งยังเป็นเบื้องหลังความสำเร็จของเมอร์ค นับตั้งแต่ที่ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2211 ปัจจุบันครอบครัวผู้ก่อตั้งยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่มบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เมอร์คครอบครองสิทธิ์ในชื่อและแบรนด์ "เมอร์ค" ทั่วโลก ยกเว้นในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ซึ่งบริษัทดำเนินธุรกิจในชื่อ อีเอ็มดี เซโรโน ในวงการดูแลสุขภาพ, มิลลิพอร์ซิกมา ในวงการชีววิทยาศาสตร์ และอีเอ็มดี เพอร์ฟอร์แมนซ์ แมททีเรียลส์
(https://prnewswire2-a.akamaihd.net/p/1893751/sp/189375100/thumbnail/entry_id/1_bskil225/def_height/400/def_width/400/version/100011/type/1)
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/837208/Merck_M_Lab_Molsheim.jpg (https://mma.prnewswire.com/media/837208/Merck_M_Lab_Molsheim.jpg)