Vmodtech.com

กระดานสาระบันเทิงแห่ง Vmodtech => เรื่องทั่วๆไป => ข้อความที่เริ่มโดย: Cybernetic ที่ 04 มกราคม 2010, 08:59:06



หัวข้อ: ปีใหม่แล้ว ทำงานอย่างไรให้มีความสุข
เริ่มหัวข้อโดย: Cybernetic ที่ 04 มกราคม 2010, 08:59:06
ผมได้เจอบทความนี้มาจากเวบไทยรัฐ คัดมาเฉพาะที่น่าสนใจ ท่านใดอยากอ่านเต็ม ๆ เดี๋ยวกดที่ลิงค์ด้านล่างได้เลยครับ

ถ้าไม่ได้ทำงานที่เรารักจะมีความสุขหรือเปล่า

ตอบได้อย่างนี้ ถ้าไม่ได้ทำงานที่เรารัก วิธีคิดที่ดีคือการมองเชิงบวก เวลาเจองานหนักก็ให้บอกตัวเองว่านี้คือการฝึกตัวเอง เวลาเจอปัญหาซับซ้อนก็บอกตัวเองว่ายิ่งปัญหาซับซ้อนเราก็ยิ่งได้เรียนรู้มากขึ้น เวลาเจอเจ้านายที่ละเมียดละไมเหลือเกินก็ให้บอกตัวเองว่า นายที่รอบคอบแบบนี้จะฝึกเราให้สมบูรณ์แบบ

ฉะนั้นถ้าเรามองเชิงบวกให้เป็นถึงแม้เราจะไม่ได้ทำงานที่เรารักแต่เราก็จะมีความสุขเสมอ ในเมื่อไม่มีสิ่งที่เราชอบ เราก็ควรชอบสิ่งที่เรามี เพราะในโลกนี้ไม่มีใครได้อะไรอย่างใจหวัง และจะไม่มีใครพลาดหวังทุกอย่างไปทุกสิ่งทุกอย่างที่เราจะทำมีแง่ดีแง่งามอยู่เสมอขอให้เรามองให้เห็น ถ้ามองเห็นเราก็จะเป็นสุขกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

ทำงานที่ชอบแต่เงินเดือนน้อยมองอย่างไรให้เป็นสุข

ถ้าเงินเดือนน้อยก็ต้องลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นของเราทิ้งไป แทนที่จะไปเรียกร้องเงินเดือนให้สูงขึ้นกว่าจะได้ก็ช้ามาก ก็ใช้วิธีปรับวิธีในการบริโภคของเราลง ที่จะบริโภคต่างความอยาก ซึ่งเติมอย่างไรก็ไม่เต็มมาบริโภคตามความจำเป็น ดีกว่ามุ่งประโยชน์ใช้สอยอย่างมุ่งประโยชน์ใช้สวย

ถ้าเราจับจ่ายใช้สอยในการถือหลักประโยชน์ใช้สวยมีเท่าไหร่ก็ไม่พอ แต่ถ้าเราถือหลักจับจ่ายใช้สอย คือจำเป็นแค่ไหนก็จับจ่ายใช้สอยแค่นั้น พอกินพอใช้ ถึงแม้ไม่รวยแต่ก็ไม่ถึงขั้นตกต่ำย่ำแย่ แทนที่เราจะเรียกร้องเงินเยอะๆ ทำไมเราไม่ลดหรือเปลี่ยนวิธีในการบริโภคของเราแทน บริโภคต่างตัณหาทำให้เรามีเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอใช้ แต่บริโภคตามปัญญาถึงเงินไม่มากมายอะไรแต่เราก็มีความสุขตามสมควร...

วิธีการแก้ปัญหาในที่ทำงาน ทั้งโดนนินทา โดนกลั่นแกล้ง...?

ให้ถือซะว่ามารไม่มีบารมีไม่เกิด เวลาที่เราทำงานต้องมีอยู่แล้วคนแกล้งคนไม่พอใจคนอิจฉาตาร้อนให้เราถือหลักว่า 1)มารไม่มีบารมีไม่เกิด 2) สิ่งใดเกิดขึ้นแล้วสิ่งนั้นกำไรเสมอ

3) อยู่ใต้ฟ้าอย่ากลัวฝน เกิดเป็นคนอย่ากลัวคำนินทา 4) ถูกชมก็เข้าท่าถูกด่าก็ไม่เลว เหล่านี้เป็นคติที่พระอาจารย์ใช้ทำงานอยู่เสมอ จึงสามารถรับมือได้ทุกกระบวนท่า

กรณีสำหรับคนที่ตกงานมีวิธีคิดอย่างไรไม่ให้เครียด

1.ต้องหางานทำ 2.หาแล้วไม่ได้ต้องสร้างงานขึ้นมา ตกงานได้แต่อย่างให้ใจตก เพราะถ้าใจตกชีวิตจะตกต่ำทันที ดังนั้นไม่ต้องเสียใจ คนที่ รวยที่สุดในโลกตอนนี้ สตีฟ จอบส์ ก็เคยตกงาน แต่ว่าเขาตกงานแล้วไม่ตกใจจึงลุกขึ้นมาสร้างบริษัทใหม่ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จได้

ฉะนั้นเราตกงานได้แต่ไม่ได้หมายความว่าความรู้ความสามารถของเราตกไปด้วย มันยังอยู่กับตัวเรา ก็เอาความรู้ความสามารถที่อยู่ในเนื้อในตัวเราลุกขึ้นมาสร้างงานใหม่ ทำอย่างนี้แล้วเราจะประสบความสำเร็จได้ โอกาสยังคงมีเสมอสำหรับผู้ที่ไม่ปิดกั้นตัวเอง ต้องหาความรู้เพิ่มเติมให้ถือหลักพึ่งตนเองอย่ารอพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในบรรยากาศที่บ้านเมืองอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติการพึ่งตนเองสำคัญที่สุดเลย

น้อยใจทำงานมานานแล้วไม่มีโบนัส มีวิธีคิดอย่างไร...?

ถ้าโบนัสไม่มาเอาเท่าที่มีก่อนก็ได้ มีคนอีกมากที่ตกงานแต่เรายังมีงานทำ มองเป็นก็จะเห็นธรรม แต่ถ้ามองไม่เป็นก็จะมาน้อยใจ เวลาที่เรารู้สึกแย่มองคนที่แย่กว่าเรา แล้วเราจะรู้สึกว่าเรายังได้เปรียบอยู่

อยากให้พระอาจารย์แนะนำวิธีผ่อนคลายในการทำงานของพวกมนุษย์เงินเดือน

ถ้าเราทำงานแล้วคุณภาพชีวิตไม่ดีแสดงว่าเรากำลังเดินผิดทางมันกำลังสุดโต่ง ฉะนั้นเวลาทำงาน อย่ามัวแต่ทำงานให้สังเกตคุณภาพชีวิตของตัวเองด้วย

เมื่อเราทำงาน มีเวลากินข้าวกับครอบครัวไหม เรามีเวลาพักผ่อนวันเสาร์วันอาทิตย์ไหม เรามีเวลาอยู่กับลูกและภรรยาไหม เรามีเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดบ้างหรือเปล่า ถ้าสิ่งเหล่านี้ได้หายไปในชีวิตแสดงว่าคุณได้เสียสมดุลย์ชีวิตไปแล้ว ถ้าไม่ปรับมาสู่ทางสายกลางแสดงว่าอนาคตอันใกล้คุณกำลังป่วย เอาเงินที่หามาทั้งชีวิตมาใช้ในโรงพยาบาล

นี่เป็น "โรคอารยธรรม" ที่กำลังเกิดขึ้นกับมนุษย์ในยุคทุนนิยมทั่วโลก ที่อเมริกา ที่ญี่ปุ่นป่วยด้วยโรค Workaholic เป็นอันดับต้นๆของโลก ประเทศไทยอันดับต้นๆของเอเชีย เพราะเราเครียดจากการเมือง เครียดจากเศรษฐกิจ เครียดจากแข่งขันในระบบทุนนิยมด้วย ดังนั้นใครที่เป็นโรคบ้างานจะต้องระมัดระวังถามตัวเองด้วยว่า เรามีภาวะสมดุลย์งานสมดุลย์ชีวิตแล้วหรือยัง อย่าทำงานจนป่วยตาย อย่าหลงเสน่ห์อบายมุข อย่ามีความสุขจนลืมศีลธรรม

งานที่ดีที่สุดคืออะไร...?

งานที่จะทำให้เราอยู่ได้ในทางเศรษฐกิจและมีชีวิตที่มีความรื่มเย็นในจิตใจ คืองานในอุดมคติที่มนุษย์ทุกคนพึ่งสร้างสรรค์พัฒนาขึ้นมาให้ได้

ย้ำอีกครั้งหนึ่งคือ สามารถอยู่ได้ในทางเศรษฐกิจ มีชีวิตที่ร่มเย็นในจิตใจ เรียกว่าในทางกายภาพก็อยู่ได้ในทางใจก็เป็นสุข

**************************************************************
เป็นอย่างไรกันบ้างครับอ่านแล้วสบายใจขึ้นมาบ้างไหม ทั้งหมดนี้เป็นคำสอนจากท่าน ว.วชิรเมธีครับ ท่านใดอยากอ่านทั้งหมดก็สามารถติดตามได้ที่ลิงค์ครับ

ที่มา : Thairath Online (http://www.thairath.co.th/content/region/56218)






หัวข้อ: Re: ปีใหม่แล้ว ทำงานอย่างไรให้มีความสุข
เริ่มหัวข้อโดย: MrHelix ที่ 04 มกราคม 2010, 10:24:08
 :great: ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆครับท่านรอง


หัวข้อ: Re: ปีใหม่แล้ว ทำงานอย่างไรให้มีความสุข
เริ่มหัวข้อโดย: dazeb ที่ 04 มกราคม 2010, 10:26:43
ผมทำเหมือนเดิมครับ เช้าชาม เย็นชาม :lol:


หัวข้อ: Re: ปีใหม่แล้ว ทำงานอย่างไรให้มีความสุข
เริ่มหัวข้อโดย: Chris ที่ 04 มกราคม 2010, 11:36:53
ผมทำเหมือนเดิมครับ เช้าชาม เย็นชาม :lol:
ดีนะ ผมมีกลางวันชามด้วย อิอิ :mdr:


หัวข้อ: Re: ปีใหม่แล้ว ทำงานอย่างไรให้มีความสุข
เริ่มหัวข้อโดย: yuki_kaze ที่ 04 มกราคม 2010, 13:07:04
ขอบคุณครับ



หัวข้อ: Re: ปีใหม่แล้ว ทำงานอย่างไรให้มีความสุข
เริ่มหัวข้อโดย: Cybernetic ที่ 04 มกราคม 2010, 15:18:03
ผมทำเหมือนเดิมครับ เช้าชาม เย็นชาม :lol:
ดีนะ ผมมีกลางวันชามด้วย อิอิ :mdr:
ตามสูตรราชการเป๊ะ  :intello:



Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF