หัวข้อ: ประวัติเรื่องราวของใช้น้ำหอม (Perfume) ที่ประธาน
เริ่มหัวข้อโดย: raraymondas ที่ 27 มีนาคม 2020, 12:13:25
ประวัติภูมิหลังของใช้น้ำหอม (Perfume) ที่เอ้
รู้หรือไม่ตำหนิ น้ำหอมที่เราใช้คืนกันอยู่ปัจจุบันนี้ มีชีวประวัติค้ำฟ้าถึง 4,000 ปี เคลื่อนใบแสดงหลักฐานโอกาสเหตุการณ์ในอดีตในที่คือภาพจิตกรรมฝาผนังที่วิหารสิ่งของพระราชินี Hatshepsut เมือง Thebes ประเทศ Egypt ซึ่งในภาพจะจัดโชว์ให้เห็นว่ารุ่นชาวอียิปกำลังชโลมน้ำหอมลงบนขม่อมของตนเอง นั่นก็สำแดงให้เห็นว่า ได้มีการเริ่มใช้น้ำหอมในยุคนั้น และเราจะขึ้นต้นแจงเรื่องราวของน้ำหอมกันตั้งแต่ภายในกาลสมัยที่หนึ่งกันเลยนะคะ
น้ำหอมในเวลาดั้งเดิม (เวลาเมโสโปเตเมีย)
น้ำหอมผู้หญิงภายในสมัยแรกเริ่มจากที่ระยะเวลาเมโสโปเตเมีย ซึ่งในสมัยปฐมนั้นคนในจักใช้คืนน้ำหอมได้คือฟาร์โร และเหล่าทชีที่จะนำน้ำหอมไปเปลืองในการทำการสักการะขนาดนั้น ซึ่งจะกินการเผาให้กำเนิดกลิ่นไอ เช่น การเผายางไม้ สีผึ้ง หรือกาบต่าง ๆ และคำว่า "Perfume" คำนี้ก็มีรากศัพท์มาจากภาษาละติน ที่แปลว่า "ควัน" จึงเป็นแหล่งเกิดของน้ำหอม นักบวชจะใช้ประโยชน์ในวัฒนธรรมการเทิดทูนต่าง ๆ ที่เป็นแบบอย่างของของพื้นที่ และนอกเหนือจากการใช้ในระเบียบแบบแผน ก็ยังมีการใช้พรหมทาที่สังขาร ที่พักอาศัย นาเวศ ไม่ก็แม้แต่สัตว์เลี้ยง และราชินีแห่งอิยิปต์ที่มีพระนามว่า Hatshepsut ทรงมีค่านิยมน้ำหอมมาก จึงอุ้มชูให้มีการสืบแสวงหาเฌอ บุปผชาติที่มีกลิ่นหอม ด้วยว่านำมาจัดทำครอบครองน้ำหอมกลิ่นอายต่าง ๆ ภายหลังเมื่อพระนาง Hatshepsut สวรรคต ชาวอียิปต์ก็ได้ปลูกสร้างสวนดอกไม้พร้อมทั้งสร้างแผ่นหินจารึกปกรณ์ต่างๆ ไว้เพื่อให้เป็นการสดุดีอีกด้วย และพระนางคลีโอพัตราก็ยังจ่ายทาน้ำหอมที่ใบเรือด้วยกันตัวเรือทั้งหมดก่อนที่จะสัญจรไปรับนักการเมืองชาวโรมัน เป็นเหตุให้เหล่าชาวโรมันที่รอการมาของพระนาง อาจจะได้กลิ่นน้ำหอมไปเรือที่ทรงนั่งมาเพรงที่จะเห็นตัวทูกของพระนางด้วย
น้ำหอมผู้หญิงคราวระหว่างกลาง
ในยุคนี้กระบวนการในการห้ามจะต่างจากสมัยเดิม เพราะว่าชาวอาหรับได้มาทำสร้างเคล็ดลับการกรองนํ้าหอมได้จบสิ้น พร้อมกับมีการใช้คืนแอลกอฮอร์มาเป็นตัวทำละลาย กับน้ำหอมกลิ่นฐานที่ได้ทำการยับยั้งคือกลิ่นไอกุหลาบ และหลังจากนั้น นำ้หอมก็ได้ตระเวนเข้าสู่ศตวรรษที่ 14 โดยการเข้าสู่ทวีปยุโรธ กับคนชาติเบื้องต้นแห่งได้นำน้ำหอมเข้ามายุโรปหมายความว่าชาวฮังกาเรี่ยน ตามคำสั่งของพระราชินี Elizabeth แห่งฮังการี่ จึงเรียกน้ำหอมกลิ่นนี้ว่า น้ำฮังการรี่ ซึ่งเป็นรูปแบบข้าวของน้ำหอมในช่วงเวลาต่อ ๆ มา
น้ำหอมระยะเวลาใหม่ (ล่าสุด)
น้ำหอมได้เข้าสู่วิธีการผลิตแบบอุตสาหกรรมแบบแน่แท้เมื่อศตวรรษที่ 19 และได้นำไปสู่วงการแฟชันอย่างเต็มฝีจักร เมื่อพรรษา คศ. 1920 เพราะว่ามีชาวรัสเซียที่นามาว่า Ernest Beaux ซึ่งหมายถึงนักทำน้ำหอมเคลื่อนมาที่ปารีส ด้วยกันได้ชี้แจงน้ำหอมที่ตนเองทำเอากับ Gabrielle Bonheur Chanel ซึ่งก็กลายเป็นมาเป็นแบรนด์ Chanel ในล่าสุด ด้วยกันได้รับการยินยอมเป็นอย่างยอดเยี่ยม ด้วยกันกลิ่นที่ขายดีพร้อมกับเด่นมุทธา ถือเอาว่า Chanel NO.5 และตั้งแต่นั้นมา อุตสาหกรรมด้านน้ำหอมก็ได้ก้าวหน้าขึ้นอย่างกราก และมีใช้แพร่สะพัด ในคนทุกชั้น ชั้นจนมาถึงปัจจุบันนี้
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : น้ำหอมผู้ชาย (http://www.kasetnews.com/webboard/index.php?topic=381583.new#new)
เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.kasetnews.com/webboard/index.php?topic=381583.new#new (http://www.kasetnews.com/webboard/index.php?topic=381583.new#new)
Tags : น้ำหอมผู้ชาย
รู้หรือไม่ตำหนิ น้ำหอมที่เราใช้คืนกันอยู่ปัจจุบันนี้ มีชีวประวัติค้ำฟ้าถึง 4,000 ปี เคลื่อนใบแสดงหลักฐานโอกาสเหตุการณ์ในอดีตในที่คือภาพจิตกรรมฝาผนังที่วิหารสิ่งของพระราชินี Hatshepsut เมือง Thebes ประเทศ Egypt ซึ่งในภาพจะจัดโชว์ให้เห็นว่ารุ่นชาวอียิปกำลังชโลมน้ำหอมลงบนขม่อมของตนเอง นั่นก็สำแดงให้เห็นว่า ได้มีการเริ่มใช้น้ำหอมในยุคนั้น และเราจะขึ้นต้นแจงเรื่องราวของน้ำหอมกันตั้งแต่ภายในกาลสมัยที่หนึ่งกันเลยนะคะ
น้ำหอมในเวลาดั้งเดิม (เวลาเมโสโปเตเมีย)
น้ำหอมผู้หญิงภายในสมัยแรกเริ่มจากที่ระยะเวลาเมโสโปเตเมีย ซึ่งในสมัยปฐมนั้นคนในจักใช้คืนน้ำหอมได้คือฟาร์โร และเหล่าทชีที่จะนำน้ำหอมไปเปลืองในการทำการสักการะขนาดนั้น ซึ่งจะกินการเผาให้กำเนิดกลิ่นไอ เช่น การเผายางไม้ สีผึ้ง หรือกาบต่าง ๆ และคำว่า "Perfume" คำนี้ก็มีรากศัพท์มาจากภาษาละติน ที่แปลว่า "ควัน" จึงเป็นแหล่งเกิดของน้ำหอม นักบวชจะใช้ประโยชน์ในวัฒนธรรมการเทิดทูนต่าง ๆ ที่เป็นแบบอย่างของของพื้นที่ และนอกเหนือจากการใช้ในระเบียบแบบแผน ก็ยังมีการใช้พรหมทาที่สังขาร ที่พักอาศัย นาเวศ ไม่ก็แม้แต่สัตว์เลี้ยง และราชินีแห่งอิยิปต์ที่มีพระนามว่า Hatshepsut ทรงมีค่านิยมน้ำหอมมาก จึงอุ้มชูให้มีการสืบแสวงหาเฌอ บุปผชาติที่มีกลิ่นหอม ด้วยว่านำมาจัดทำครอบครองน้ำหอมกลิ่นอายต่าง ๆ ภายหลังเมื่อพระนาง Hatshepsut สวรรคต ชาวอียิปต์ก็ได้ปลูกสร้างสวนดอกไม้พร้อมทั้งสร้างแผ่นหินจารึกปกรณ์ต่างๆ ไว้เพื่อให้เป็นการสดุดีอีกด้วย และพระนางคลีโอพัตราก็ยังจ่ายทาน้ำหอมที่ใบเรือด้วยกันตัวเรือทั้งหมดก่อนที่จะสัญจรไปรับนักการเมืองชาวโรมัน เป็นเหตุให้เหล่าชาวโรมันที่รอการมาของพระนาง อาจจะได้กลิ่นน้ำหอมไปเรือที่ทรงนั่งมาเพรงที่จะเห็นตัวทูกของพระนางด้วย
น้ำหอมผู้หญิงคราวระหว่างกลาง
ในยุคนี้กระบวนการในการห้ามจะต่างจากสมัยเดิม เพราะว่าชาวอาหรับได้มาทำสร้างเคล็ดลับการกรองนํ้าหอมได้จบสิ้น พร้อมกับมีการใช้คืนแอลกอฮอร์มาเป็นตัวทำละลาย กับน้ำหอมกลิ่นฐานที่ได้ทำการยับยั้งคือกลิ่นไอกุหลาบ และหลังจากนั้น นำ้หอมก็ได้ตระเวนเข้าสู่ศตวรรษที่ 14 โดยการเข้าสู่ทวีปยุโรธ กับคนชาติเบื้องต้นแห่งได้นำน้ำหอมเข้ามายุโรปหมายความว่าชาวฮังกาเรี่ยน ตามคำสั่งของพระราชินี Elizabeth แห่งฮังการี่ จึงเรียกน้ำหอมกลิ่นนี้ว่า น้ำฮังการรี่ ซึ่งเป็นรูปแบบข้าวของน้ำหอมในช่วงเวลาต่อ ๆ มา
น้ำหอมระยะเวลาใหม่ (ล่าสุด)
น้ำหอมได้เข้าสู่วิธีการผลิตแบบอุตสาหกรรมแบบแน่แท้เมื่อศตวรรษที่ 19 และได้นำไปสู่วงการแฟชันอย่างเต็มฝีจักร เมื่อพรรษา คศ. 1920 เพราะว่ามีชาวรัสเซียที่นามาว่า Ernest Beaux ซึ่งหมายถึงนักทำน้ำหอมเคลื่อนมาที่ปารีส ด้วยกันได้ชี้แจงน้ำหอมที่ตนเองทำเอากับ Gabrielle Bonheur Chanel ซึ่งก็กลายเป็นมาเป็นแบรนด์ Chanel ในล่าสุด ด้วยกันได้รับการยินยอมเป็นอย่างยอดเยี่ยม ด้วยกันกลิ่นที่ขายดีพร้อมกับเด่นมุทธา ถือเอาว่า Chanel NO.5 และตั้งแต่นั้นมา อุตสาหกรรมด้านน้ำหอมก็ได้ก้าวหน้าขึ้นอย่างกราก และมีใช้แพร่สะพัด ในคนทุกชั้น ชั้นจนมาถึงปัจจุบันนี้
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : น้ำหอมผู้ชาย (http://www.kasetnews.com/webboard/index.php?topic=381583.new#new)
เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.kasetnews.com/webboard/index.php?topic=381583.new#new (http://www.kasetnews.com/webboard/index.php?topic=381583.new#new)
Tags : น้ำหอมผู้ชาย