หัวข้อ: ข้อแนะนำ จอคอม แต่ละอย่างต่างกันอย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: kkthai20009 ที่ 04 พฤศจิกายน 2020, 03:58:03
เทคโนโลยีของโปรแกรม หนัง. และเกม ถูกพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ จอคอม (https://portal.weloveshopping.com/%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C-87" target="_blank)จึงถูกปรับปรุงตามกันไปเพื่อรับการแสดงภาพที่คมชัด สมจริงมากขึ้น ทำให้ในท้องตลาดมีจอคอม ออกมาหลากหลายแบบให้เลือก คนส่วนใหญ่จะยังไม่เข้าใจประเภทไหนจึงจะพอเหมาะพอควรกับการใช้งานมากที่สุด วันนี้เราจึงนำจอคอม แต่ละแบบมาให้ทำความเข้าใจกัน เพื่อจะได้เลือกซื้อได้อย่างถูก
1. จอ LCD (Liquid Crystal Display)
จอคอมพิวเตอร์ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาจากจอ CRT ใช้การแสดงผลแบบดิจิทัล มีลักษณะแบน บาง และยังมีดีไซน์ที่เป็นระเบียบ โมเดิร์นทันสมัย และหรูหรา อีกทั้งยังราคาไม่แพง ทำให้ได้รับความนิยมมากๆ ในช่วงปัจจุบัน จุดแข็งของหน้าจอคอมชนิดนี้คือ ประหยัดพลังงานเยอะแยะ แต่มีข้อด้อยตรงที่ไม่สามารถมองจอภาพได้จากรอบทิศ มุมมองการเห็นภาพนั้นจะค่อนข้างแคบ เข้ากันกับการใช้งานทุกชนิด
2. จอ LED (Light Emitting Diode)
จอ LED หรือที่คนส่วนมากเรียกกันว่า จอ OLED (Organic Light Emitting Devices) เป็นจอมอนิเตอร์รุ่นล่าสุดที่ถูกพัฒนาให้เกิดภาพและสีที่คมและเด่นกว่าจอคอมพิวเตอร์ (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kim-peeranat&month=08-2019&date=16&group=1&gblog=34)แบบอื่นๆ และมีตำแหน่งการสนองของภาพเร็วกว่าจอคอมแบบอื่นๆ และยังไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของมุมมองและอัตราการสนองของภาพยังไวกว่าจอ LCD และยังช่วยออมพลังงานได้ดีกว่าด้วย แต่ข้อบกพร่อง คือ ยังมีราคาที่แพงอยู่หากเทียบกับจอ LCD
3. จอ IPS (In-Plane Switching)
เชื่อว่าหลายคนเมื่อไปซื้อคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กโดยมากเห็นคำนี้อยู่ด้วย เพราะว่ากำลังแพร่สะพัดและได้รับความนิยมอย่างเต็มที่ จอลักษณะนี้ใช้เทคโนโลยีในการผลิตมอนิเตอร์แบบ LED แต่แท้จริงแล้วคือ จอ LCD แต่ใช้ black light เป็น LED นั่นเอง ซึ่งจอ IPS จะเน้นในเรื่องความเที่ยงของสีเป็นพิเศษจึงเหมาะสมกับการทำงานที่ให้ความสำคัญกับในเรื่องของภาพ เช่น การทำงานกราฟฟิก ตัดต่อ เป็นต้น
จุดเด่นของจอ IPS คือ ประหยัดไฟ ให้ White balance ที่เป็นธรรมชาติ ให้สีสัน ความเที่ยงตรงของสีที่สูงและสมจริงกว่าจอแบบอื่นๆ ไม่ค่อยมีข้อจำกัดในเรื่องของการเห็น และยังมีการตอบสนองที่โดยทันที ให้ความละเอียดภาพที่สูง ซึ่งแม้สมัยก่อนจะมีราคาที่สูง แต่ปัจจุบันได้ถูกปรับลดน้อยลงมา ทำให้ผู้คนเข้าถึงได้มากขึ้น
ยิ่งไปกว่านี้ ผู้ผลิตจอคอมในล่าสุดยังให้ความสำคัญกับผู้ใช้งาน จึงใส่เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา อย่างเช่น เทคโนโลยีตัดแสงสีฟ้า (Low Blue Light) เพื่อบำรุงสายตาของผู้ใช้งานให้ใช้งานได้สบายตาขึ้น ลดอาการล้าของสายตาที่เกิดจากสเปคตรัมแสงสีฟ้า แต่ข้อด้อยของมันคือ ภาพที่เห็นจะออกเป็นโทรเหลืองกว่าปกติ
นอกเหนือจากการตัดแสงสีฟ้าแล้ว อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ช่วยในการถนอมสายตาได้ก็คือการปรับระดับแสงและอุณหภูมิสีอัตโนมัติให้เหมาะเจาะกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ เพื่อลดอาการล้าของสายตาเมื่อต้องใช้งานเป็นที่ว่างเวลานาน ๆ เพื่อให้สายตาไม่รับกิจธุระหนักจนเกินไป
เครดิต : https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kim-peeranat&month=08-2019&date=16&group=1&gblog=34 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kim-peeranat&month=08-2019&date=16&group=1&gblog=34)
Tags : จอคอม,จอคอมพิวเตอร์,จอมอนิเตอร์
1. จอ LCD (Liquid Crystal Display)
จอคอมพิวเตอร์ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาจากจอ CRT ใช้การแสดงผลแบบดิจิทัล มีลักษณะแบน บาง และยังมีดีไซน์ที่เป็นระเบียบ โมเดิร์นทันสมัย และหรูหรา อีกทั้งยังราคาไม่แพง ทำให้ได้รับความนิยมมากๆ ในช่วงปัจจุบัน จุดแข็งของหน้าจอคอมชนิดนี้คือ ประหยัดพลังงานเยอะแยะ แต่มีข้อด้อยตรงที่ไม่สามารถมองจอภาพได้จากรอบทิศ มุมมองการเห็นภาพนั้นจะค่อนข้างแคบ เข้ากันกับการใช้งานทุกชนิด
2. จอ LED (Light Emitting Diode)
จอ LED หรือที่คนส่วนมากเรียกกันว่า จอ OLED (Organic Light Emitting Devices) เป็นจอมอนิเตอร์รุ่นล่าสุดที่ถูกพัฒนาให้เกิดภาพและสีที่คมและเด่นกว่าจอคอมพิวเตอร์ (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kim-peeranat&month=08-2019&date=16&group=1&gblog=34)แบบอื่นๆ และมีตำแหน่งการสนองของภาพเร็วกว่าจอคอมแบบอื่นๆ และยังไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของมุมมองและอัตราการสนองของภาพยังไวกว่าจอ LCD และยังช่วยออมพลังงานได้ดีกว่าด้วย แต่ข้อบกพร่อง คือ ยังมีราคาที่แพงอยู่หากเทียบกับจอ LCD
3. จอ IPS (In-Plane Switching)
เชื่อว่าหลายคนเมื่อไปซื้อคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กโดยมากเห็นคำนี้อยู่ด้วย เพราะว่ากำลังแพร่สะพัดและได้รับความนิยมอย่างเต็มที่ จอลักษณะนี้ใช้เทคโนโลยีในการผลิตมอนิเตอร์แบบ LED แต่แท้จริงแล้วคือ จอ LCD แต่ใช้ black light เป็น LED นั่นเอง ซึ่งจอ IPS จะเน้นในเรื่องความเที่ยงของสีเป็นพิเศษจึงเหมาะสมกับการทำงานที่ให้ความสำคัญกับในเรื่องของภาพ เช่น การทำงานกราฟฟิก ตัดต่อ เป็นต้น
จุดเด่นของจอ IPS คือ ประหยัดไฟ ให้ White balance ที่เป็นธรรมชาติ ให้สีสัน ความเที่ยงตรงของสีที่สูงและสมจริงกว่าจอแบบอื่นๆ ไม่ค่อยมีข้อจำกัดในเรื่องของการเห็น และยังมีการตอบสนองที่โดยทันที ให้ความละเอียดภาพที่สูง ซึ่งแม้สมัยก่อนจะมีราคาที่สูง แต่ปัจจุบันได้ถูกปรับลดน้อยลงมา ทำให้ผู้คนเข้าถึงได้มากขึ้น
ยิ่งไปกว่านี้ ผู้ผลิตจอคอมในล่าสุดยังให้ความสำคัญกับผู้ใช้งาน จึงใส่เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา อย่างเช่น เทคโนโลยีตัดแสงสีฟ้า (Low Blue Light) เพื่อบำรุงสายตาของผู้ใช้งานให้ใช้งานได้สบายตาขึ้น ลดอาการล้าของสายตาที่เกิดจากสเปคตรัมแสงสีฟ้า แต่ข้อด้อยของมันคือ ภาพที่เห็นจะออกเป็นโทรเหลืองกว่าปกติ
นอกเหนือจากการตัดแสงสีฟ้าแล้ว อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ช่วยในการถนอมสายตาได้ก็คือการปรับระดับแสงและอุณหภูมิสีอัตโนมัติให้เหมาะเจาะกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ เพื่อลดอาการล้าของสายตาเมื่อต้องใช้งานเป็นที่ว่างเวลานาน ๆ เพื่อให้สายตาไม่รับกิจธุระหนักจนเกินไป
เครดิต : https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kim-peeranat&month=08-2019&date=16&group=1&gblog=34 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kim-peeranat&month=08-2019&date=16&group=1&gblog=34)
Tags : จอคอม,จอคอมพิวเตอร์,จอมอนิเตอร์