หัวข้อ: ข้อควรรู้ จอคอม แต่ละชนิดต่างกันอย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: kkthai20009 ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2021, 13:52:20
เทคโนโลยีของโปรแกรม ภาพยนตร์. และเกม ถูกพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ จอคอม (https://portal.weloveshopping.com/%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C-87" target="_blank)จึงถูกเพิ่มพูนตามกันไปเพื่อรองรับการแสดงภาพที่ชัด สมจริงมากขึ้น ทำให้ในท้องตลาดมีจอคอม ออกมามากมายแบบให้เลือก หลายคนจะยังไม่เข้าใจชนิดใดจึงจะเหมาะกับการใช้งานมาก วันนี้เราจึงเอาจอคอม แต่ละแบบมาให้เรียนรู้กัน เพื่อจะได้เลือกซื้อได้อย่างถูก
1. จอ LCD (Liquid Crystal Display)
จอคอมพิวเตอร์ ที่ได้รับการปรับปรุงขึ้นมาจากจอ CRT ใช้การแสดงผลแบบดิจิทัล มีลักษณะแบน บาง และยังมีออกแบบที่เป็นระเบียบ โมเดิร์นทันสมัย และหรูหรา อีกทั้งยังราคาไม่แพง ทำให้ได้รับความนิยมมากๆ ในปัจจุบันนี้ ข้อดีของหน้าจอคอมชนิดนี้คือ ถนอมพลังงานเยอะแยะ แต่มีข้อด้อยตรงที่ไม่สามารถมองจอภาพได้จากทั่วทุกทิศทุกทาง แง่คิดการสังเกตเห็นภาพนั้นจะค่อนข้างแคบ เข้ากันกับการใช้งานทุกแบบ
2. จอ LED (Light Emitting Diode)
จอ LED หรือที่หลายคนเรียกกันว่า จอ OLED (Organic Light Emitting Devices) เป็นจอมอนิเตอร์ (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kim-peeranat&month=08-2019&date=16&group=1&gblog=34)รุ่นล่าสุดที่ถูกเพิ่มขึ้นให้เกิดภาพและสีที่คมและชัดเจนกว่าจอคอมพิวเตอร์แบบอื่นๆ และมีตำแหน่งการสนองของภาพรวดเร็วกว่าจอคอมแบบอื่นๆ และยังไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของมุมมองและอัตราการสนองของภาพยังรวดเร็วกว่าจอ LCD และยังช่วยออมพลังงานได้ดีกว่าด้วย แต่ข้อด้อย คือ ยังมีราคาที่แพงอยู่หากเทียบกับจอ LCD
3. จอ IPS (In-Plane Switching)
เชื่อว่าหลายคนเมื่อไปซื้อคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กค่อนข้างเห็นคำนี้อยู่ด้วย ก็เพราะว่ากำลังแพร่สะพัดและได้รับความชื่นชมอย่างเต็มที่ จอประเภทนี้ใช้เทคโนโลยีในการผลิตมอนิเตอร์แบบ LED แต่แท้จริงแล้วคือ มอนิเตอร์ LCD แต่ใช้ black light เป็น LED นั่นเอง ซึ่งจอ IPS จะมุ่งเน้นในหัวข้อความเที่ยงของสีเป็นพิเศษจึงพอเหมาะกับการทำงานที่ให้ความสลักสำคัญกับในเรื่องของภาพ เช่น การทำงานกราฟฟิก ตัดต่อ เป็นต้น
จุดแข็งของจอ IPS คือ อดออมไฟ ให้ White balance ที่เป็นธรรมชาติ ให้สีสัน ความถูกต้องของสีที่สูงและสมจริงกว่าจอประเภทอื่นๆ ไม่ค่อยมีข้อจำกัดในเรื่องของมุมมอง และยังมีการตอบสนองที่ทันทีทันใด ให้ความละเอียดภาพที่สูง ซึ่งแม้สมัยก่อนจะมีราคาที่สูง แต่สมัยนี้ได้ถูกปรับน้อยลงมา ทำให้ผู้คนเข้าถึงได้เยอะขึ้น
ยิ่งไปกว่านี้ ผู้ผลิตจอคอมในช่วงปัจจุบันยังให้ความสำคัญกับผู้ใช้งาน จึงใส่เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา อย่างเช่น เทคโนโลยีตัดแสงสีฟ้า (Low Blue Light) เพื่อถนอมสายตาของผู้ใช้งานให้ใช้งานได้สบายตาขึ้น ลดอาการอ่อนล้าของสายตาที่เกิดจากสเปคตรัมแสงสีฟ้า แต่ข้อเสียของมันคือ ภาพที่เห็นจะออกเป็นโทรเหลืองกว่าปกติ
นอกเหนือจากการตัดแสงสีฟ้าแล้ว อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ช่วยในการถนอมสายตาได้ก็คือการปรับระดับแสงและอุณหภูมิสีอัตโนมัติให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ เพื่อลดอาการล้าของสายตาเมื่อต้องใช้งานเป็นที่ว่างเวลานาน ๆ เพื่อให้สายตาไม่รับหน้าที่หนักจนเกินไป
ที่มา : https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kim-peeranat&month=08-2019&date=16&group=1&gblog=34 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kim-peeranat&month=08-2019&date=16&group=1&gblog=34)
Tags : จอคอม,จอคอมพิวเตอร์,จอมอนิเตอร์
1. จอ LCD (Liquid Crystal Display)
จอคอมพิวเตอร์ ที่ได้รับการปรับปรุงขึ้นมาจากจอ CRT ใช้การแสดงผลแบบดิจิทัล มีลักษณะแบน บาง และยังมีออกแบบที่เป็นระเบียบ โมเดิร์นทันสมัย และหรูหรา อีกทั้งยังราคาไม่แพง ทำให้ได้รับความนิยมมากๆ ในปัจจุบันนี้ ข้อดีของหน้าจอคอมชนิดนี้คือ ถนอมพลังงานเยอะแยะ แต่มีข้อด้อยตรงที่ไม่สามารถมองจอภาพได้จากทั่วทุกทิศทุกทาง แง่คิดการสังเกตเห็นภาพนั้นจะค่อนข้างแคบ เข้ากันกับการใช้งานทุกแบบ
2. จอ LED (Light Emitting Diode)
จอ LED หรือที่หลายคนเรียกกันว่า จอ OLED (Organic Light Emitting Devices) เป็นจอมอนิเตอร์ (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kim-peeranat&month=08-2019&date=16&group=1&gblog=34)รุ่นล่าสุดที่ถูกเพิ่มขึ้นให้เกิดภาพและสีที่คมและชัดเจนกว่าจอคอมพิวเตอร์แบบอื่นๆ และมีตำแหน่งการสนองของภาพรวดเร็วกว่าจอคอมแบบอื่นๆ และยังไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของมุมมองและอัตราการสนองของภาพยังรวดเร็วกว่าจอ LCD และยังช่วยออมพลังงานได้ดีกว่าด้วย แต่ข้อด้อย คือ ยังมีราคาที่แพงอยู่หากเทียบกับจอ LCD
3. จอ IPS (In-Plane Switching)
เชื่อว่าหลายคนเมื่อไปซื้อคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กค่อนข้างเห็นคำนี้อยู่ด้วย ก็เพราะว่ากำลังแพร่สะพัดและได้รับความชื่นชมอย่างเต็มที่ จอประเภทนี้ใช้เทคโนโลยีในการผลิตมอนิเตอร์แบบ LED แต่แท้จริงแล้วคือ มอนิเตอร์ LCD แต่ใช้ black light เป็น LED นั่นเอง ซึ่งจอ IPS จะมุ่งเน้นในหัวข้อความเที่ยงของสีเป็นพิเศษจึงพอเหมาะกับการทำงานที่ให้ความสลักสำคัญกับในเรื่องของภาพ เช่น การทำงานกราฟฟิก ตัดต่อ เป็นต้น
จุดแข็งของจอ IPS คือ อดออมไฟ ให้ White balance ที่เป็นธรรมชาติ ให้สีสัน ความถูกต้องของสีที่สูงและสมจริงกว่าจอประเภทอื่นๆ ไม่ค่อยมีข้อจำกัดในเรื่องของมุมมอง และยังมีการตอบสนองที่ทันทีทันใด ให้ความละเอียดภาพที่สูง ซึ่งแม้สมัยก่อนจะมีราคาที่สูง แต่สมัยนี้ได้ถูกปรับน้อยลงมา ทำให้ผู้คนเข้าถึงได้เยอะขึ้น
ยิ่งไปกว่านี้ ผู้ผลิตจอคอมในช่วงปัจจุบันยังให้ความสำคัญกับผู้ใช้งาน จึงใส่เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา อย่างเช่น เทคโนโลยีตัดแสงสีฟ้า (Low Blue Light) เพื่อถนอมสายตาของผู้ใช้งานให้ใช้งานได้สบายตาขึ้น ลดอาการอ่อนล้าของสายตาที่เกิดจากสเปคตรัมแสงสีฟ้า แต่ข้อเสียของมันคือ ภาพที่เห็นจะออกเป็นโทรเหลืองกว่าปกติ
นอกเหนือจากการตัดแสงสีฟ้าแล้ว อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ช่วยในการถนอมสายตาได้ก็คือการปรับระดับแสงและอุณหภูมิสีอัตโนมัติให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ เพื่อลดอาการล้าของสายตาเมื่อต้องใช้งานเป็นที่ว่างเวลานาน ๆ เพื่อให้สายตาไม่รับหน้าที่หนักจนเกินไป
ที่มา : https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kim-peeranat&month=08-2019&date=16&group=1&gblog=34 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kim-peeranat&month=08-2019&date=16&group=1&gblog=34)
Tags : จอคอม,จอคอมพิวเตอร์,จอมอนิเตอร์