Vmodtech.com

ข่าวออกมาอย่างเป็นทางการแล้วว่า Intel Take Over กิจการ McAfee ไปแล้ว ซึ้งทาง Intel มีแนวคิดที่จะนำเอาเทคโนโลยี Anti Virus มาไว้บน CPU ของตัวเอง :sarcastic:  ข่าวจากสื่อต่างๆ ลองเข้าไปอ่านดูคราบ

แต่ที่ผมติดใจคือ :arf:  การตลาดของ Intel คราบ ลองคิดดูสิครับ ถ้าหาก CPU ของ Intel ตัวนั้น มีคุณสมบัติป้องกัน Anti Virus ได้ในตัวมันเอง ทั้ง ไวรัสเก่าและใหม่  ราคา CPU ตัวนั้นจะเป็นอย่างไร(แพงขึ้นเท่าไหร่) แล้วใครจะโดนผลกระทบจากแนวคิดนี้มากที่สุด(เหล่ายี่ห้อ Anti Virus ทั้งหลายแหล่)  :frown:  ของเขาก็แพงอยู่แล้ว ยิ่งทำให้มันแพงเข้าไปอีก โอ้วววว ชั่งเหมาะกับคนมีตังค์เสียนิกะไร  :clown:

ส่วนตัวผมใช้ AMD คงไม่มีปัญหา  :mdr: :mdr: :out:

ถ้ามันยัดเยียดเรามาก็คงต้องซื้อครับ ใครไม่พอใจก็ไปเล่น AMD ไปตามเรื่องตามราว แต่ที่แน่ ๆ ผมใช้แต่ฟรีแวร์ แล้วก็ไม่เคยโดนไวรัสสักทีครับ

มันก็ไม่แน่ครับ ถึงตอนนั้นถ้า AMD แรงพอกับอินเทล ผมว่ามีคนย้ายค่ายเยอะครับ

เง้อ เอางันกันเลย

ทำมาเถอะครับ      แพงก็ไม่ซื้อครับแค่นั้น อิอิกำ :drunk:

ถูกต้องครับ :mdr:

แต่ผมว่านะ ยังไงอินเทล มันต้องทำออกมาให้เลือกหลายรุ่นเป็นแน่ รุ่นที่มีกับไม่มีแอนตี้ไวรัส ราคาต่างกัน น่าจะอย่างนั้นครับ

เก็บเงินไปตีหม้อดีกว่า  :drunk: :drunk:

กันไม่อยู่หรอกครับ น่าจะสร้างความรำคาญให้คนใช้มากกว่า เหมือนบ้านที่ทำกุญแจหลายดอกหลายชั้น

ขโมยมาแปร๊บเดียวสะเดาะเกลี้ยง แต่เจ้าของบ้านกว่าจะเข้าไปใช้ห้องต่างๆต้องถือกุญแจกันเป็นพวงใหญ่

คนเฝ้าโจมตียังไงก็ได้เปรียบคนเฝ้าระวังหลายขุมครับ

เห็นเหมือนพวก อุปกรณ์ล๊อครถเหมือนกันนะครับ    ตัวเจ้าของเอง กว่าจะใส่ล๊อคเบรค ล๊อคคันเร่ง  อะไรได้เสร็จ   ปวดหลัง เสียเวลาด้วย  พอโจรจะเอา   แตะๆก็หลุด  เง้อ  เป็นงั้นไป   


ทางที่ดีที่สุด ไม่ต้องลงแอนตี้ไว้รัส และ ไม่ต้องต่อเน็ตครับ ปลอดภัย 1000000000000000% อิอิกำ :drunk:

ใส่เข้าไปแล้วมันจะแวนเทจไหมสาดแรงเหมือนเดิมหรือเปล่าครับ อิอิ กำ

ดูแล้วบริษัทยักษ์ ๆ อย่าง Symantec, PANDA เค้าก็ไม่หวั่นกันนะครับ สงสัยมองทะลุ :mdr:

 
(http://www.uppicweb.com/x/i/to/3535_untitled.jpg) (http://www.uppicweb.com/show.php?id=47168c9a0824f5dc3d35f27e3d7760f1)
Thanks: ฝากรูป (http://www.uppicweb.com) ฝากรูปฟรี (http://www.myuppic.com)

บริษัทอินเทล (Intel)  ได้ทำสัญญาข้อตกลงกับบริษัทซอฟแวร์ผู้ผลิตแอนตี้ไวรัสยักษใหญ่อย่าง McAfee  โดยอินเทล จะทำการซื้อด้วยหุ้นมูลค่ากว่า 7 พันล้านเหรียญ$ เพื่อความสามารถในการป้องกันไวรัสเข้าไปในตัว CPU นับว่าเป็นการพัฒนาอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ควบคู่ผสมผสานไปกับซอฟแวร์ เพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้นของคอมพิวเตอร์ของผู้บริโภค  อินเทลได้กล่าวว่า บริษัทต้องการที่จะพัฒนาอุปกรณ์ของตนเองให้มีความสามารถที่ฝังอยู่ในตัวซึ่งมันสามารถเพิ่มสมรรถนะการทำงาน  ให้คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากขึ้น    และข่าวล่าสุดบริษัททั้งสองได้ตกลงอนุมัติสัญญากันแล้ว เหลือเพียงแต่บางขั้นตอนที่ต้องตัดสินใจร่วมกันอีกครั้งนึงในตอนท้าย

 



 

        เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นจุดที่น่าจับตามองครั้งใหญ่และมีผลกระทบในวงกว้างของวงการแอนตี้ไวรัส  โดยเฉพาะบริษัท Symantec ที่เป็นเจ้าธุรกิจแอนตี้ไวรัส บนระบบปฏิบัติการวินโดว์ (Windows)ซึ่งถูกทาง McAfee ได้เปรียบในด้านใช้พลังงานและประสิทธิภาพในการประมวลผลจาก CPU Intel น้อยกว่าและตรวจจับแสกนไวรัสได้ดีกว่า
 
 
        แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ต้องดูท่าทีของทั้งสองบริษัทนี้ต่อไป ว่าผลิตภัณฑ์ค่ายยักษ์ใหญ่ สองค่าย มาผสมผสานรวมกันแล้ว จะมีประสิทธิภาพขั้นเทพ แค่ไหน  สามารถกำจัดไวรัสได้อย่างเยี่ยมยอดกว่าซอฟแวร์แอนตี้ไวรัส หรือไม่ ต้องคอยติดตามผลงานของทั้งสองบริษัทนี้ครับ
 
ที่มา  :  CNET

 :great: :drunk: :drunk:

 8)  แบบนี้แหละที่ว่า คน Intrend Technology  ท่าน   Cybernetic       :neutral:หลายคนยังไม่วิตกกังวล เพราะเป็นผู้บริโภค เลยไม่คิดมาก มีตังค์ก็ซื้อ ไม่มีตังค์ก็มองตัวที่ถูกกว่าประมาณนั้น  แต่นักวิเคราะห์ทางการตลาดระบุว่า ถ้าผู้บริโภคคล้อยตามกับ Technology Intel แบบไม่ลืมหูลืมตา ว่าอะไรที่เหมาะสมกับความจำเป็นจริงๆ บริษัท ที่จะได้ส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้นก็น่าจะเป็น AMD เพราะนักวิเคราะห์ระบุว่า Technology ยิ่งสูง ราคาก็ยิ่งแพงขึ้นตามขั้นของมัน ซึ้ง Intel ก็มี CPU ที่มีราคาแพงกว่า AMD ในรุ้นที่ใกล้เคียงกันอยู่หลายตัว  เป็นไปได้ว่าผู้บริโภคจะหันมาใช้ Technology ที่ใกล้เคียงกับ Intel ซึ้งก็คือ AMD แต่การตลาดนี้จะได้ผลกับกลุ่มลูกค้าขนาดกลางที่มีความสามารถในการซื้อที่ไม่ต้องการ Technology ที่สูงมาก แต่ต้องการการทำงานที่เทียบเท่ากันได้ในเบื้องต้น แต่อย่าลืมว่ารายได้อันมหาสารจากการขายทั้งสองบริษัท ก็มาจากกลุ่มลูกค้าขนาดกลางทั้งนั้นครับ   :smile:  วิชาการนิดนึง แก่แล้วก็อย่างนี้แหละ :mdr:

ที่มาของข้อมูล Tom Hardware

อย่างไรก็ตามครับ มันก็เป็นอีกเทคโนโลยีที่น่าสนใจศึกษาว่าถ้าอินเทลทำออกมาจริง ๆ มันจะทำงานได้อย่างไร อันนี้น่าสนใจครับ และผมก็เริ่มตั้งคำถามตั้งแต่ได้อ่านข่าวนี้

สอยเค้ามาสองแสนกว่าล้านบาทไทย ผมว่าอินเทลต้องทำอะไรมากกว่านี้แน่ ๆ ครับ

 :great:  อืมมมม ใช้ๆๆๆๆ ผมก็กำลังคิดอยู่เหมือนกัน

คิดเล่นๆจะอัพเวอร์ชั้นทีก็เปลี่ยน cpu ไปเลยง่ายดี อิอิ

ผมยังใช้ McAfee อยู่เลยครับ  :drunk: :drunk: :drunk:

ไม่แน่ AMDอาจซื้อNOD32ก็ได้ :^^:

 :gasp:  AMD ชื้อ NOD32  โอ้ววว :oh:   เอาเงินไปพัฒนา CPU กับ VGA ดีกว่ามั๊ยเนี๊ย  :lol:

  สาวกอย่างผมจะได้ใช้ของที่แรงๆ แต่จ่ายตังค์น้อยๆ  :intello:

เง้อ


เหมือนว่าจะใช้ nOD 32 นะครับ แต่ว่า หลังจากที่ใช้ไปแล้วมันอัพโหลดวีดีโออะไรไม่ได้เลย (แบบว่าไม่รู้ปรับยังไงครับ อิอิกำ)   ก็เลยไม่ลงมันเลยดีกว่าครับ เง้อ :tuxout:

ผมคิดว่าตอนนี้ AMD น่าจะกำลังพัฒนา VGA ที่รวมเอา แอนติไวรัสรวมไว้ในตัวชิพก็เป็นไปได้นะครับ  :great: :drunk:


ใช้ AMD หล่อจริงๆๆครับ  ฟันเฟริม   :great: :glasses:

ผมว่าเค้าน่าจะเอาเงินไปพัฒนาฟิสิกส์มาใส่การ์ดจอเค้าดีกว่าครับ รับรองมันส์แน่ ๆ

อ้าวเหรอครับ ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลยครับ อิอิกำ :drunk:

แต่ขอเดา ๆ ว่า nvidia เป็นสปอนเซอร์ให้หลาย ๆ เกมส์เลยครับดังที่เราเห็นโลโก้ตอนเปิดเกมส์ขึ้นมา ผู้พัฒนาเลยต้องเอาใจสปอนเซอร์ซะหน่อย มันคงมีผลประโชน์ร่วมกันอยู่หลาย ๆ ครับ

ถ้าอนาคตเนี่ยมันเป็นเหมือน DX ก็คงจะมีไม่น้อยอีกเหมือนกันครับเพราะมันจะแข่งกันเองทั้งเรื่องประสิทธิภาพและราคา ส่วน end user ก็สบายครับ  :whistle:

ผมว่าเค้าน่าจะเอาเงินไปพัฒนาฟิสิกส์มาใส่การ์ดจอเค้าดีกว่าครับ รับรองมันส์แน่ ๆ
[/quote]
ไม่รู้ผมเข้าใจผิดหรือเปล่าตอนนี้ว่าทางATIก็ประมวณผลฟิสิกส์ได้ผ่านเทคโนโลยีของตนเองที่เรียก ATi Stream
แต่ไม่มีผู้ผลิตเกมไปประยุกต์ใช้กับเกมของตน(หรือPhyxมันง่ายกว่าหรือเป็นผลประโยชน์ระหว่างค่ายเกมกับNvidia)
...ไม่ก็หวังให้ทางMicrosoftหรือบริษัทที่มีอิทธิพลออกเทคโนโลยีฟิสิกส์ที่เป็นมาตรฐานกลางที่การ์ดของ
ATI Nvidia ต้องสนับสนุนแทน เหมือนอย่างพวกDirectX Opengl...ถึงตอนนั้นคงแข่งกันที่ประสิทธิถาพต่อราคากันอย่างเดียว...
ตอบใด้ตรงใจครับ 8) ที่ผมบอกว่าเอาไปพัฒนานั้น หมายถึง การพัฒนาในแบบการตลาดครับ เพราะถ้า Nvidia ผูกขาดเกมหรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทที่พัฒนาเกมอยู่ฝ่ายเดียวแล้ว ATi จะเสียดุลการค้าและจะหมดความนิยมไปในที่สุด 
  :clown:  แต่ ATi ก็มีส่วนสนับสนุนค้ายเกมอยู่บ้างนะครับ แต่เป็นบ้างค้ายเท่านั้น  แต่อย่าลืมว่า 2 ค้ายนี้ เขาก็มีจุดยืนเป็นของตัวเองอยู่แล้วครับพี่น้อง  แต่จะมีอะไรที่มีความสำคัญมากไปกว่า Marketing  8) 

ที่ผ่านมาหลัง ๆ ATi นี่ผมว่าได้เปรียบในด้านสงครามราคากับความแรงที่อยากบอกว่าจัดจ้านไม่ใช่น้อยเหมือนกันนะครับ และ nvidia เปิดตัว Fermi ก็ไม่ได้ตูมตามเหมือนครั้งเปิดตัว G80

Fermi GTX470, 480 เป็นการที่กินไฟมากและร้อนพอสมควรเมื่อ full load ต่างจาก ati ซีรีส์ 58xx นี่เย็นเอาเรื่องและลากได้ไกลโข ขนาดอัด vgpu ยังเย็นสบายไร้กังวลบนซิงค์เดิม ผมเลยอยากเห็น Ati มีฟิสิกส์ที่เทียบเคียง nvidia กับเค้าบ้างครับ ต้องมันส์แน่ ๆ

แต่ tessellation + dx11 ของเค้าแจ่มจริงครับสำหรับ Fermi  :-*