[img width=400,height=237]https://s.isanook.com/he/0/ud/7/36773/istock-175383361_re.jpg?ip/crop/w728h431/q80/webp[/img] (https://s.isanook.com/he/0/ud/7/36773/istock-175383361_re.jpg?ip/crop/w728h431/q80/webp)[/b]
ผิวไหม้แดด (https://chivabeauty.blogspot.com/2024/07/blog-post_10.html) เกิดจากการที่ผิวหนังสัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลานาน ส่งผลให้เซลล์ผิวหนังถูกทำลาย เกิดอาการแสบแดง คัน บวม หรือมีตุ่มน้ำพอง ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของแสงแดดที่ได้รับ
ระยะเวลาในการหายของผิวไหม้แดด ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรง ดังนี้
- ผิวไหม้แดดระดับ 1 (อาการไม่รุนแรง) : มีอาการแสบแดง คัน ผิวแห้งตึง ใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ในการฟื้นฟู[/*]
- ผิวไหม้แดดระดับ 2 (ปานกลาง) : มีอาการแสบ บวม แดงมากกว่า รู้สึกเจ็บเมื่อสัมผัส ใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ในการฟื้นฟู[/*]
- ผิวไหม้แดดระดับ 3 (รุนแรง) : มีอาการแดง ปวดแสบร้อนอย่างหนัก คัน เกิดตุ่มน้ำพอง อาจต้องใช้เวลา หลายสัปดาห์ ในการฟื้นฟู[/*]
วิธีป้องกันผิวไหม้แดด- ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป 15-20 นาทีก่อนออกแดด และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หรือหลังว่ายน้ำหรือเหงื่อออก[/*]
- สวมเสื้อผ้ามิดชิด หมวก กางร่ม แว่นกันแดด เพื่อป้องกันแสงแดด[/*]
- หลีกเลี่ยงการออกแดดจัดในช่วง 10.00 น. - 16.00 น.[/*]
วิธีดูแลผิวไหม้แดด- ประคบเย็นด้วยผ้าชุบน้ำเย็น หรือถุงเจลเย็น[/*]
- ทายาหรือโลชั่นที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ คาโมมายล์ หรืออะโลเวร่า เพื่อลดอาการแสบร้อนและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว[/*]
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ[/*]
- ทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล หรือไอบูโพรเฟน[/*]
- หลีกเลี่ยงการแกะเกาผิวไหม้แดด เพราะอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็น[/*]
- ไม่ควรทายาที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือสี เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคือง[/*]
หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรไปพบแพทย์- มีไข้สูง[/*]
- ปวดศีรษะรุนแรง[/*]
- คลื่นไส้ อาเจียน[/*]
- อ่อนเพลีย[/*]
- มีตุ่มน้ำพองขนาดใหญ่[/*]
- อาการผิวไหม้แดดไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์[/*]
ผิวไหม้แดด เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน การป้องกันและดูแลผิวอย่างถูกวิธี จะช่วยให้ผิวของคุณกลับมาแข็งแรงและสวยงามดังเดิม
ขอบคุณภาพ istock