หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: น้ำมันพืช : ใช้เช่นไรให้เผงกับหนักแน่น  (อ่าน 345 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
kkthai20009
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 37756


อีเมล์
« เมื่อ: 21 มิถุนายน 2020, 14:34:16 »

น้ำมันพืช : ใช้เช่นใดให้เที่ยงและหนักแน่น

น้ำมันสำหรับนำมาใช้หุงหาอาหาร น้ำมันพืชนับเป็นส่วนหนึ่งของสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งจัดอยู่ในประเภทของไขมัน อย่างไรก็ตาม ถึงถ้าว่าน้ำมันหรือว่าไขมันจะเป็นสิ่งของที่มีผลดีต่อสุขภาพ แต่หากกินเกินกว่าที่ร่างกายพึงประสงค์ ก็จัดทำให้เกิดโรคภัยตามมาได้หลายโรค ยิ่งในยุคปัจจุบันที่มีน้ำมันประดิษฐานจำหน่ายหลายหลากหลายประเภทหลายชนิด น้ำมันพืชหากเจาะจงเลือกซื้อหรือใช้อย่างปราศจากความเข้าใจ ก็จะยิ่งทำให้เป็นโรคต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

พรรณของน้ำมันปรุงอาหาร : น้ำมันที่ ใช้ทำอาหารทั่วๆไป มี ๒ พวก ลงความว่า น้ำมันพืชและน้ำมันสัตว์ ขณะ ๓๐ กว่าปีทำน น้ำมันที่ใช้ต่อเรืออาหารในครัวเรือน มีแค่แค่น้ำมันหมูพร้อมทั้งน้ำมันมะพร้าวขนาดนั้น ต่อมาได้มีการผลิตน้ำมันจากถั่วลิสงออกมาเพิ่มอีกชนิดหนึ่ง สมัยนั้นคนที่มีสตางค์หน่อยมักนิยมใช้น้ำมันหมูที่ซื้อมาเจียวเอง ส่วนชาวที่อยู่ทั่วๆ ไปก็คงจะจะซื้อน้ำมันหมูที่เขาเจียวใส่ปี๊บจัดจำหน่ายเป็นกิโลกรัม ไม่ใช่หรือก็ใช้น้ำมันมะพร้าว ซึ่งยุคนั้น แบรนด์การค้าที่รู้จักกันแพร่หลาย รวมความว่า น้ำมันพืชตราดอกบัว คนก็เลยเรียกน้ำมันมะพร้าว ตราดอกบัวกันติดปากว่าน้ำมันบัว ต่อมาเมื่ออุตสาหกรรมการผลิตเจริญก้าวหน้า ก็มีน้ำมันปรุงอาหารจากพืชนานาชนิดทยอยออกมาให้เราได้รู้จักด้วยกันคัดเลือกใช้ หลายหลาก อาทิ น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันงา น้ำมันจากดอกคำฝอย น้ำมันจากเมล็ดฝ้าย น้ำมันจากดอกพร้อมทั้งเมล็ดทานตะวัน และน้ำมันปาล์มโอเลอีน ฯลฯ

น้ำมันพืชพร้อมกับน้ำมันสัตว์ต่างกันเช่นไร : ผู้บริโภค โดยมากจะเข้าใจผิดคิดว่า น้ำมันพืชต่างจากน้ำมันหมูหรือน้ำมันสัตว์ (เช่น เนย) ตรงที่ให้พลังงานน้อยกว่าน้ำมันสัตว์ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด ความจริงแล้วไม่ว่าน้ำมันพืชหรือน้ำมันสัตว์ก็จะให้พลังงานต่อหน่วยความหนักเบา เท่าต่อกัน คือ ๑ กรัม จักให้พลังงานเท่ากับ ๙ แคลอรี ดังนี้ความเชื่อที่ว่ากินน้ำมันพืชแล้วไม่อ้วน จึงไม่เป็นอันที่จริง เนื่องจากไม่ว่าน้ำมันอะไร หากกิน มากเกินก็ทำเอาน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้เปรียบเสกรนกัน

น้ำมันทั้ง ๒ ส่วน มีความแหวกแนวกัน รวมความว่า

>> น้ำมันสัตว์ เหมือน น้ำมันหมูจะมีองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นกรดไขมันอิ่มตัว ซึ่งมีฟีเจอร์เป็นไขได้ง่ายเมื่ออากาศเย็นขึ้น ไขมันสัตว์มีกลิ่นเหม็นหืนได้ง่ายเมื่อทิ้งทันที้ที่อุณหภูมิธรรมดา ไขมันจากสัตว์น้ำมันพืชนอกจากนั้นมีไขมันอิ่มตัวแล้วแล้วก็มีโคเลสเตอรอลด้วยซ้ำ การกินไขมันสัตว์มากอาจจะเป็นเหตุให้ระดับโคเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งเป็นเหตุผลเสี่ยงสำคัญต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด ผู้ที่มีไขมันในเลือดสูงควรหลบเลี่ยงการใช้น้ำมันมะพร้าว เนื่องมาจากมีไขมันอิ่มตัวในเยอะแยะมาก

>> น้ำมันพืช (ยกเว้นน้ำมันมะพร้าว และน้ำมันเมล็ดปาล์ม) มีฟีเจอร์ที่ตรงข้ามกับน้ำมันสัตว์ น้ำมันพืชจำนวนมากจะต่อเรือไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งมีส่วนผสมช้าเคมีที่เป็นคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าน้ำมันสัตว์ ไขมันไม่อิ่มตัวนี้จะไม่ค่อยเป็นไข ถ้าจะอยู่ในที่เย็น เฉก แช่ตู้เย็น เฉพาะน้ำมันพืชจะทำปฏิกิริยากับความร้อนกับออกซิเจนได้ง่าย พร้อมกับค่อนข้างจะทำเอาเกิดกลิ่นเหม็นหืนภายภายหลังจากใช้ประกอบภักษาแล้ว

เช่นใดก็ตามไม่ว่าจะเป็นน้ำมันพืชหรือน้ำมันสัตว์ ต่างก็มีส่วนประกอบของกรดไขมันทั้ง ๒ ชนิด แค่แต่รูปทรงจะมากหรือไม่ก็น้อยต่างกันไป ต่อจากนั้นแต่ชนิดของพืชหรือไม่ก็สัตว์ที่นำมาหมายถึงน้ำมัน

มารู้จักกับไขมันกันสักนิดสักหน่อย ไขมันที่เราได้จากการกินเครื่องกิน แบ่งยังมีชีวิตอยู่ ๓ ชนิด หมายถึงน้ำมันพืช

๑. กรดไขมันอิ่มตัว (satu-rated fatty acid)
๒. กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (polyunsaturated fatty acid)
๓. กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (monounsaturated fatty acid)

มีคำเสนอแนะจากนักโภชนาการว่า อิฉันควรกินไขมันชนิดไม่อิ่ม ตัวเชิงเดี่ยวมากกว่าไขมันชนิดอื่นๆ เพราะกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวมีคุณสมบัติเป็นตัวทำหลอมละลายเพื่อการตรวจสอบดซึมซาบ วิตามินบางชนิด สนับสนุนลดระดับ โคเลสเตอรอลชนิดไม่เท่าท่า (LDL-C) น้ำมันพืชในขณะเดียวกันยังสนับสนุนเพิ่มโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL-C) ได้ด้วย ประเภทกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนนั้น จะช่วยลดทั้งโคเลสเตอรอลชนิดดีพร้อมด้วยเส็งเคร็งพร้อมกัน

สำหรับกรดไขมัน อิ่มตัว สมควรบริโภคในปตีนาณน้อยๆ ลงความว่า ไม่เกิน ๒๐ กรัมใน ๑ วัน น้ำมันพืชการกินไขมันอิ่มตัวทุกครั้งหากเลยความต้องการของร่างกาย จะกระทำให้เกิดภาวการณ์ไตรกลีเซอไรด์พร้อมทั้งโคเลสเตอรอลในเลือดสูง เป็นเหตุให้หตัดผ่านเลือดตีบจนเลือดไหลเวียนไม่ง่าย เป็นเหตุให้เกิดสถานการณ์หทะลุทะลวงเลือดตีบพร้อมด้วยแข็ง ทำให้เกิดภาวะเกศใจขาดเลือดหรือเป็นอัมพาตได้ พร้อมด้วยในบางคนที่มีการไหลเวียนของน้ำมันพืชโคเลสเตอรอลสูงทุกครั้ง จะทำให้เกิดโรคนิ่วในถุงน้ำดีเพราะว่า

Tags : น้ำมันพืช,น้ำมันพืช ราคา
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: