หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โทนเนอร์ ขจัดสิ่งตกค้างบนใบหน้า ปรับปรุงปัญหาผิวจริงๆไม่ก็ ?  (อ่าน 343 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
kkthai20009
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 37756


อีเมล์
« เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2021, 13:19:57 »

โทนเนอร์ ขจัดไอเท็มตกค้างบนใบหน้า ปรับปรุงปมปัญหาผิวแน่นอนหรือว่า ?
โทนเนอร์เป็น 1 ในเครื่องสำอางทำความบริสุทธิ์ผิวยอดนิยมที่หลายคนใช้เช็ดขจัดสิ่งของโสโครกที่ตกค้างบนผิวหลังการล้างหน้า เพียงนั้นบางคนอาจจะยังไม่ทราบวิธีการใช้โทนเนอร์อย่างแน่นอน ข้อพึงระวัง รวมไปถึงคุณประโยชน์เรื่องจริงจริงของโทนเนอร์
คนโดยมากล้างหน้าเพื่อคลีนเซอร์ซึ่งมีระดับความเป็นกรด-เบส หรือราคา pH สูงด้วยกันมีผลให้สนนราคา pH บนผิวหน้าล่วงลับสมดุล โทนเนอร์จึงถูกเกิดขึ้นเพื่อจะช่วยเหลือฟื้นฟูระดับ pH ที่ล่วงลับไปด้วยกันขจัดสิ่งของซกมกตกค้างหลังการล้างหน้า โดยส่วนประกอบหลักที่อาจพบในโทนเนอร์ เป็นต้นว่า แอลกอฮอล์ กรดซาลิไซลิก กรด BHA และกรด AHA ยุคปัจจุบันโทนเนอร์ถูกพัฒนามากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะว่าเพิ่มคุณสมบัติในด้านต่าง ๆ นอกเหนือจากการทำความสะอาดผิวหน้า โดยส่วนประกอบต่าง ๆ ที่เพิ่มเข้ามาในโทนเนอร์ไม่แน่อาจแตกต่างกันไปตามเท่านั้นละสินค้า ได้แก่ น้ำมันหอมระเหย สารต้านอนุมูลอิสระ พร้อมทั้งวิตามินประเภทต่าง ๆ ฯลฯ

>> ประโยชน์ของโทนเนอร์มีอะไรบ้าง ? โทนเนอร์มีคุณคุณประโยชน์ต่าง ๆ มากมาย แบบนี้

  • ขจัดฝุ่น เครื่องหอม สารตกค้าง หรือไอเท็มมอมแมมอื่น ๆ บนผิวหน้า
  • ทำความสะอาด ปกป้องการอุดตันของขุมขนบนใบหน้าอุดตัน
  • ช่วยผลัดเซลล์ผิว กับลดปส่วนล่างาตรรูขุมขน
  • ควบคุมความมันบนใบหน้า และช่วยลดการเกิดสิวเสี้ยน
  • ฟื้นฟูระดับความสมดุลมูลค่า pH ของพื้นผิว
  • คุ้มกันผิวหน้าหมองดำคล้ำ
  • เพิ่มความชุ่มชื้นหลังโกนพระมัสสุ

>> โทนเนอร์ จำเป็นต้องเพียงใด พร้อมด้วยเป็นอันยี่ห้อยได้ไม่ก็ ?
แม้ว่าโทนเนอร์จะสนับสนุนฟื้นฟูสมดุลของเนื้อความเป็นกรด-เบสบนผิวอาชีวะไม่แน่อาจหายไปจากการใช้คลีนเซอร์ที่มีราคา pH สูง เฉพาะหากเจาะจงเลือกใช้คลีนเซอร์ที่มีราคา pH เลวแล้ว อาจจะไม่จึงจำเป็นต้องใช้โทนเนอร์อีก เนื่องด้วยโทนเนอร์คงจะไปเพิ่มระดับ pH ของผิวหน้าจนเกินความสมดุล และอาจจะทำลายผิวหน้าได้ ซ้ำร้าย โทนเนอร์บางชนิดอาจมีองค์ประกอบของแอลกอฮอล์ซึ่งคงจะเป็นเหตุให้ผิวหนังระคายเคืองได้ด้วย ดังนั้น เนื่องด้วยเลี่ยงความเสี่ยงเหล่านี้ ควรเลือกสรรใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ปราศจากแอลกอฮอล์ ไม่ใช่หรือใช้คลีนเซอร์ที่มีสนนราคา pH ต่ำแหัวเห็ด รวมทั้งควรตรวจสอบอาการพ่ายกลุ่มผิวหนังในเบื้องต้น โดยลองใช้โทนเนอร์บนผิวเขตแดนหนึ่งหรือทดลองทาที่ท้องแขนทำน โดยเฉพาะเมื่อต้องเปลี่ยนแปลงไปใช้ผลิตภัณฑ์โทนเนอร์ตัวใหม่

ยิ่งไปว่านั้นนี้ กรด BHA ที่เห็นในโทนเนอร์คงจะเป็นอันตรายต่อผู้ที่ตั้งครรภ์ได้ เพราะว่ามีงานวิจัยบางมุมมองพบว่าการรับประทานยาที่มีกรด BHA เป็นส่วนประกอบ อาทิเช่น ยาแอสไพริน คงจะส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้ เพราะฉะนั้น หากต้องการใช้โทนเนอร์ระหว่างตั้งครรภ์ ควรใช้เพียงวันละ 1-2 ครั้ง หรือหลบมุมการใช้โทนเนอร์ไปดำเนินการน เหตุเพราะเมื่อนี้ยังไม่มีผลงานวิจัยใดแค่นได้ว่ากรด BHA จากโทนเนอร์จะพ้นภัยต่อทารกในครรภ์ แม้สารนี้จะแทรกซึมทะลุทะลวงเข้าสู่ผิวหนังได้เพียงปชายาณน้อยบริบูรณ์ก็ตาม

>> กรรมวิธีใช้โทนเนอร์


อาจใช้โทนเนอร์ได้หลังการล้างหน้าทั้งในข้อความเช้ากับสร้างนเข้านอน พร้อมด้วยคงจะใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นได้ เนื่อหยุดยั้ง้วยจุดประสงค์ที่แตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น ใช้โทนเนอร์ควบคู่กับกรดวิตามินเอด้วยกันเบนซิลเปอร์ออกไซด์ ด้วยว่าคุ้มกันสิวเสี้ยน ฯลฯ โดยรีวิวใช้โทนเนอร์ มีเพราะเหตุนี้


  • ล้างน้ำมือให้สะอาดเนรมิต นเสมอ
  • ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าอย่างอ่อนหวาน หรือล้ายกเลิก้วยคลีนเซอร์ที่มีส่วนประกอบเป็นกรด AHA สำหรับขจัดความมันส่วนเกิน
  • นำสำลีก้อนหรือสำลีแผ่นไปชุบโทนเนอร์ หลังจากนั้นเช็ดให้ทั่วผิวหน้า
  • ทิ้งเร็วไว้ให้โทนเนอร์แทรกซึมเข้าผิวโดยไม่ต้องล้างออก


    แม้ว่าโทนเนอร์อาจจะทำความบริสุทธิ์พร้อมด้วยพลิกฟื้นผิวหน้าได้ แต่ผู้ใช้ก็ควรเพ่งแลอนามัยผิวหน้าให้ดีอยู่ราบ หมั่นล้างหน้าจนกระทั่งมีเหงื่อออก ไม่ใช่หรือหลังทำกิจกรรมใด ๆ ที่ต้องเผชิญมลภาวการณ์สายลับอากาศ อย่าง หลังบริหารร่างกาย พร้อมด้วยหลังทำงานกลางแดดที่จงเผชิญฝุ่น ควัน ไม่ใช่หรือแสงแดดครอบครองเวลานาน เพื่อที่จะคุ้มกันไอเท็มเลอะตกค้างบนพื้นผิว

    Tags : toner,โทนเนอร์คือ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: