Apple Watch 6 นาฬิกาอัจฉริยะเรือนนี้เจ๋งแค่ไหน มีอะไรใหม่บ้าง

[kkthai20009]

Apple Watch 6 สมาร์ทวอทช์ในเจเนอเรชันที่ 6 จาก Apple คู่กับความทำได้การวัดระดับออกซิเจนในเลือด, Always on Display ที่สว่างกว่าเดิม และคุณลักษณะใหม่ๆ ใน watchOS 7 เช่น ติดตามพฤติกรรมการนอน อีกความแปลงแปลงคือการที่ Apple เลือกใช้วัสดุสายสืบนาฬิกาของ Apple Watch ในรุ่นซิลิโคนเปลี่ยนแปลงเป็นแบบ Solo Loop สวมเข้าไปให้แนบรัดกับข้อมือ แทนที่จะเป็นการกลัดเข็มเสมอเหมือนในรุ่นก่อนๆ หมู่เหตุตัวของผู้เขียนมอง Apple Watch เป็นนาฬิกาผู้ช่วยเหลืออัจฉริยะที่สนับสนุนให้ไลฟ์สไตล์ของผู้สวมใส่สะดวกสบายขึ้นรอบด้าน แต่หากคุณกำลังมองหานาฬิกาที่เก่งในด้านใดด้านหนึ่งแบบไปสุดเป็นหลัก เช่น เดินป่า, การดำน้ำ ไม่แน่อาจจะต้องหันไปัญหาองตัวเลือกอื่นๆ แทน
“ต่างจากสมาร์ทวอทช์แบรนด์อื่นๆ เช่นไร?”
เหล่านี้เป็นแค่ข้อสงสัยบางเปลาะเท่านั้นที่เราได้รับจากคนรอบตัวที่เกิดทั้งความสงสัยและสนใจอยากจะรู้จักเจ้า Apple Watch Series 6 ให้มากขึ้น ก่อนจะตกลงใจจ่ายค่าตัวหลักหมื่นพาเจ้านาฬิกาอัจฉริยะเรือนนี้ขึ้นมาประดับสวมใส่อยู่บนข้อมือของตัวเอง และนี่คือหมู่องค์ความรู้เห็นที่เรามีต่อ Apple Watch 6 จากการใช้งานจริงนานกว่า 2 เดือนเต็ม ว่ากล่าวสรุปแล้วเจ้านาฬิกาอัจฉริยะจาก Apple เรือนนี้มีความเด่นเช่นไร เข้ารูปกับผู้ใช้งานที่มีไลฟ์แบบแบบไหน แล้วอะไรคือไอเท็มที่คุณจะได้รับจากมัน?

ตัวเรือนยังดูดีเช่นเคย เพิ่มเติมคือ ‘สีใหม่’ มีให้เลือกเยอะขึ้น และความทนทานคงทนถาวร
เริ่มต้นกันที่ออกแบบก่อน เพื่อ Apple Watch 6 ที่เราใช้งานนั้นเป็นตัวเรือนแบบสเตนเลส สัดส่วนหน้าปัด 44 มม. สีดำกราไฟต์ (ในโมเดลสเตนเลสยังมีสีทองและสตางค์ให้เลือกอีก 2 สี) กลุ่มแบบ Milanese Loop สีเดียวกับตัวเรือน เข้าคู่กันลงตัวพอดีเป๊ะ สนนสนนราคาอยู่ที่ 25,900 บาท ซึ่งร่างโครงตัวเรือนโดยรวมจะหนักเกินผิดแผกแตกต่างหรือเปลี่ยนแปลงแปลงไปจากรุ่นที่แล้วอย่าง Watch 5 มากนัก คำอธิบายในรุ่นอะลูมิเนียมจะมีสีให้เลือกเพิ่มขึ้นหลายหลากจาก Watch 5 อยู่พอประมาณคือ สตางค์, ฟ้า, เทาสเปซเกรย์, สีทอง และสีแดง (PRODUCT)RED และรุ่นไทเทเนียมมีสีให้เลือก 2 สีคือ ดำธรรมชาติและดำสเปซแบล็ก

เปิดกล่อง Apple Watch
แวบแรกที่เปิดกล่อง หยิบเอาตัวเรือนออกมาจากกล่อง ความรู้สึกที่มีต่อ Watch 6 คือ เราพบว่าตัวเรือนสวยงามหรูหราสมค่าการเป็น Apple Watch มากๆ (แม้จะไม่ได้เปลี่ยนไปจาก Watch 5 ก็ตาม) ด้วยความที่วัตถุเป็นแบบสเตนเลส มันจึงเงางามและรีเฟลกซ์แสงที่ตกกระทบมาบริเวณตัวเรือนได้เป็นอย่างดี แต่ในเวลาเดียวกัน จุดดูของการที่ตัวเรือนเป็นแบบสเตนเลสคือหากคุณไม่หมั่นเช็ดถูทำความบริสุทธิ์อยู่บ่อยๆ กรอบตัวเรือนซึ่งจะต้องสัมผัสกับนิ้วอยู่บ่อยๆ ก็จะเป็นรอยนิ้วมือคราบมันได้ง่ายเช่นกัน

• ขณะที่บริเวณกระจกหน้าปัดเรือน ในรุ่นสเตนเลสและไทเทเนียมจะใช้จอแบบ ‘ผลึกแซฟไฟร์’ และรุ่นอะลูมิเนียมจะใช้จอภาพกระจก Ion‑X ซึ่งในมุมของผู้ใช้งาน เรามองว่าวัสดุกระจกแบบแซฟไฟร์ทนและคงทนมากๆ ไม่ค่อยเป็นรอยง่ายๆ ซึ่งครั้งหนึ่งเราเคย Drop Test ด้วยความไม่ตั้งใจ (พลาดทำตกตอนกำลังจะสวมในข้อมือ) แต่ตัวหน้าปัดกลับไม่ปรากฏรอยบิ่นหรือรอยขีดข่วนใดๆ เลยแม้แต่น้อย (ขอเตือนว่าคุณไม่ควรไป Drop Test ด้วยตัวเองเด็ดขาด ด้วยเหตุว่าคงจะจะไม่โชคดีเหมือนกับกับเรา)
• ต่างจากโมเดลแบบอะลูมิเนียมที่ใช้กระจกหน้าปัดแบบ Ion‑X ซึ่งเราเคยมีประสบการณ์ใช้งานในรุ่น Watch 4 แล้วพบว่ามันเป็นรอยง่ายมากๆ เพราะว่าแค่เผลอทำหน้าปัดกระแทก เฉี่ยวขอบโต๊ะ มันก็พร้อมจะเป็นรอยขีดข่วนก่อกวนได้แล้ว ครั้นแล้วถ้าต้องเลือกจริงๆ เราขอชูป้ายไฟเชียร์ให้คุณพิจารณาตัวเครื่องที่ใช้วัตถุแบบสเตนเลสขึ้นไปน่าจะเป็นทางเลือกที่คุ้มและคงทนมากกว่า
• อีกจุดความแปรเปลี่ยนแปลงคือการที่ Apple เปลี่ยนแปลงมาใช้วัตถุแนวนาฬิกาแบบรัดแนบสนิทไปกับข้อมือ เช่น ไส้ศึกซิลิโคนแบบ Solo Loop Band ที่ไม่มีเข็มมาให้กลัดแล้ว แต่จะใช้วิธีการสวมเข้าไปให้แนบกับข้อมือเลย (ต้องวัดขนาดข้อมือก่อนเลือกซื้อช้า) ซึ่งจุดดูคือเมื่อใช้งานไปเรื่อยๆ ตัวแถวไม่แน่อาจจะขยายใหญ่และหลวมได้ หรือแนวแบบ Braided Solo Loop ซึ่งใช้วัสดุแบบผ้าถักรีไซเคิลผสมเข้ากับด้ายซิลิโคน

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : apple watch

Tags : apple watch,apple watch