หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: การประชุมมองโกเลีย อีโคโนมิก ฟอรัม จัดขึ้นที่กรุงอูลานบาตอร์  (อ่าน 1201 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
iqpressrelease
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3688


อีเมล์
« เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2023, 14:24:43 »

การประชุมมองโกเลีย อีโคโนมิก ฟอรัม ครั้งที่ 10 จัดขึ้นที่กรุงอูลานบาตอร์ ประกาศสร้างความร่วมมือครั้งใหม่-ปฏิรูปการลงทุน


การประชุมมองโกเลีย อีโคโนมิก ฟอรัม (Mongolia Economic Forum หรือ MEF) ครั้งที่ 10 จัดขึ้นที่กรุงอูลานบาตอร์ เมืองหลวงของมองโกเลีย ในโอกาสนี้ รัฐบาลมองโกเลียได้ประกาศจัดตั้งสองหน่วยงานใหม่เพื่อสนับสนุนการลงทุนในประเทศ รวมทั้งประกาศสร้างความร่วมมือครั้งใหม่กับบริษัทสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ของนายอีลอน มัสก์ และบริษัทวอตทรีเวิร์ดส์ (What3Words) ซึ่งเป็นผู้นำด้านการระบุตำแหน่งเชิงภูมิศาสตร์ โดยความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากที่มองโกเลียได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2566

แขกผู้มีเกียรติราว 2,200 คนจากทั่วโลก ซึ่งรวมถึงผู้แทนจากธุรกิจระดับโลก ภาคส่วนที่สาม และองค์กรพหุภาคี ได้มารวมตัวกันในการประชุมซึ่งจัดขึ้นสองวัน (9-10 กรกฎาคม) และหารือเกี่ยวกับการทำงานร่วมกับรัฐบาลมองโกเลียเพื่อบรรลุเป้าหมายการเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เป็นสองเท่าภายในปี 2573 และผลักดันให้มองโกเลียเป็นประเทศชั้นนำในภูมิภาคภายในกลางศตวรรษนี้

วิสัยทัศน์ พ.ศ. 2593 (Vision 2050) และนโยบายฟื้นฟูใหม่ (New Recovery Policy) ที่ประกาศในปี 2565 ได้กำหนดทิศทางเชิงกลยุทธ์ที่ชัดเจนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของมองโกเลีย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในภาพรวม ทิศทางดังกล่าวช่วยสร้างความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วจนถึงปัจจุบัน และเป็นรากฐานของความก้าวหน้าล่าสุดที่ประกาศในการประชุมครั้งนี้

ในช่วงเช้าวันที่ 10 กรกฎาคม รัฐบาลมองโกเลียได้ประกาศจัดตั้งศูนย์ความร่วมมือภาคเอกชน (Private Partnership Centre) และสำนักงานการค้าและการลงทุน (Investment and Trade Agency) เพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศ ด้วยการสร้าง "สะพานเชื่อมธุรกิจในมองโกเลีย" รวมถึงช่วยคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ตามกฎหมายของนักลงทุน ช่วยเพิ่มความหลากหลายในการนำเข้าสินค้า และช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมทดแทนการนำเข้า

นายคูเรลบาตาร์ ชีเมด (Khurelbaatar Chimed) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการพัฒนา ได้กล่าวถึงโอกาสของการลงทุนในมองโกเลีย และความตั้งใจของรัฐบาลที่จะแก้ไขร่างกฎหมายว่าด้วยการลงทุน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้างความร่วมมือใหม่ ๆ ด้านการลงทุน

ข้อมูลสถิติแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลมองโกเลียให้ความสำคัญกับการขจัดอุปสรรคที่ขัดขวางการเติบโต โดยประกาศนโยบายฟื้นฟูใหม่มูลค่า 4.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนธันวาคม 2564 ขณะที่พิมพ์เขียวของวิสัยทัศน์ พ.ศ. 2593 ก็ยังคงให้ผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หลังจากที่เศรษฐกิจมองโกเลียเติบโตมากเกินคาดที่ระดับ 4.8% ในปี 2565 ซึ่ง 1.1% ในจำนวนนี้เป็นผลมาจากนโยบายฟื้นฟูใหม่ และหลังการเติบโตถึง 7.9% ในไตรมาสแรกของปีนี้ ส่งผลให้มีการปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตในปี 2566 จากเดิม 5% เป็น 6% ส่วนในปี 2567 คาดว่าเศรษฐกิจมองโกเลียจะโต 6.5%

การเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังสถานการณ์โรคระบาดครั้งใหญ่ เกิดขึ้นได้ด้วยการทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับนายแพทย์เทดรอส อาดานอม เกเบรเยซุส (Tedros Adhanom Ghebreyesus) ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยการทำงานร่วมกันได้ทำให้มองโกเลียประสบความสำเร็จในการฉีดวัคซีนครอบคลุมประชาชนทั่วประเทศในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ โดย 90% ของกลุ่มเป้าหมายได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดส ซึ่งช่วยให้มองโกเลียสามารถยกเลิกข้อจำกัดเกี่ยวกับโควิด-19 ได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 และทำให้อัตราการเสียชีวิตต่ำกว่าประเทศอื่นถึงห้าเท่า ทั้งนี้ มองโกเลียได้แสดงความยินดีที่นายแพทย์เกเบรเยซุสสามารถเข้าร่วมการประชุมมองโกเลีย อีโคโนมิก ฟอรัม ในปีนี้

หนึ่งในส่วนสำคัญของ "วิสัยทัศน์ พ.ศ. 2593" ของมองโกลเลีย คือการส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความเป็นอยู่ที่ดี โดยตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 รัฐบาลได้รณรงค์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเข้ารับบริการตรวจคัดกรองและวินิจฉัยโรคตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งเป็นหลักชัยสำคัญในการจัดการสุขภาพของประชาชนในเชิงรุก และจนถึงตอนนี้มีประชาชน 1 ล้านคนได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว

ในช่วงไม่กี่วันมานี้ มีการประกาศสองโครงการลงทุนใหม่ที่สำคัญในมองโกเลีย ซึ่งตอกย้ำถึงประโยชน์ที่ได้รับจากนโยบายส่งเสริมการเติบโตของรัฐบาล ดังนี้

รัฐบาลมองโกเลียได้สร้างความร่วมมือกับสเปซเอ็กซ์ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตหลายล้านคนในมองโกเลียสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสตาร์ลิงก์ (Starlink) นับเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อคนในชนบท อีกทั้งยังสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของมองโกเลียด้วย
รัฐบาลมองโกเลียสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งใหม่กับบริษัทเทคโนโลยี วอตทรีเวิร์ดส์ เพื่อสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีการรู้จำอักขระด้วยแสง (Optical Character Recognition) เพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้กับบริการไปรษณีย์ รวมถึงนำไปใช้โปรโมตแหล่งมรดกและสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของมองโกเลีย
นายโอยุน-เออร์เดเน ลุฟซานนัมซไร (Oyun-Erdene Luvsannamsrai) นายกรัฐมนตรีมองโกเลีย แสดงความคิดเห็นว่า

"ผมยินดีที่ได้ต้อนรับแขกผู้มีเกียรติจากทั่วโลกเข้าสู่การประชุมมองโกเลีย อีโคโนมิก ฟอรัม ครั้งที่ 10 เพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีการทำงานร่วมกันเพื่อปลดล็อกศักยภาพทางเศรษฐกิจของมองโกเลีย ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดในโลก"

"ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการประกาศลงทุนเพิ่มเติมในมองโกเลียสองโครงการ และการเริ่มต้นผลิตที่เหมืองทองแดงใต้ดิน โอยู โทลโกย (Oyu Tolgoi) ร่วมกับบริษัท ริโอ ทินโต (Rio Tinto) เมื่อเดือนมีนาคม ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามองโกเลียดึงดูดนักลงทุนต่างชาติมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง"


อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็มได้ที่ https://www.thaipr.net/it/3357444
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: