[ แกะกล่อง ลองของ ] PJD5255 โปรเจคเตอร์ ประสิทธิภาพสูงกับราคาสบายกระเป๋า จาก ViewSonicนี่คือการแกะกล่องลองของใหม่ กับ โปรเจคเตอร์ ViewSonic PJD5255 XGA DLP projector ตัวล่าสุดของผม ทุกวันนี้ โปรเจคเตอร์มีขนาดที่เล็กลง ให้ค่าความสว่างที่สูงขึ้น และราคาถูกลง ด้วยความสว่าง 200 lumen ความละเอียดแบบ native XGA 1024 x 768 และ การออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานง่าย โปรเจคเตอร์ตัวนี้ ผมจะติดตั้งในสตูดิโอของผม เพื่อใช้ดูหนัง และการนำเสนองานทางธุรกิจของผม
อุปกรณ์ที่มีมาให้● ViewSonic projector
● สายไฟ
● สาย VGA
● Remote control และ แบตเตอรี่
● คู่มือ Quick Start
● ViewSonic Wizard CD (พร้อมคู่มือ)
ViewSonic PJD5255 projector มีขนาดเล็กกว่า โปรเจคเตอร์ full-size ทั่วไป และมันสามารถวางบนโต๊ะทำงานได้ และผมสามารถยกได้ด้วยมือเดียวแบบสบายๆ
ViewSonic ให้เราสามารถตั้งค่า setup image ได้จาก menu โปรเจคเตอร์โดยตรง เพื่อปรับระดับ brightness และ contrast ให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของห้อง tactile keypad ใช้งานสะดวก ปุ่มกดสามารถกดได้ง่าย ทำให้สามารถตั้งค่าต่างๆได้สะดวกรวดเร็วแม้จะอยู่ในห้องที่แสงน้อยหรือมืดก็ตาม หรือหากเราแขวนโปรเจคเตอร์กับฝ้าก็ตาม
พัดลมถูกติดตั้งไว้ในส่วนหน้าของ projector เมื่อเราเปิดเครื่องใช้งาน เสียงพัดลมเบามาก แทบจะไม่ได้ยิน ผมว่าคิดเยี่ยมมาก เพราะบางครั้งเสียงพัดลมทำให้อรรถรสในการรับชมภาพยนตร์นั้นลดลง ผิวโลหะแบบ Hairline-textured metal ทำให้โปรเจคเตอร์รุ่นนี้ดูดี มีราคาและสวยงามขึ้นมาทันที
และคุณสามารถปรับระดับสูงต่ำของโปรเจคเตอร์ได้โดยการใช้มือปรับที่ฐาน
การตั้งค่าต่างๆ เป็นไปอย่างง่ายดาย, เพียงเชื่อมต่อกับแหล่งวีดีโอ โปรเจคเตอร์จะทำกาน detect โดยอัตโนมัติ โดยไม่จำเป็นต้องกดเลือก source บนเครื่องหรือ remote
ด้วยหลอดความสว่าง 3,200 lumen และอัตราคอนทราสต์ที่สูง (15,000:1 แบบ DynamicEco™ mode หรือ 2,400:1 แบบ typical) ViewSonic PJD5255 สามารถฉายภาพได้สว่างในทุกสภาพแวดล้อม– แม้ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมที่สว่างก็ตาม ตัวโปรเจคเตอร์มีการออกแบบที่สวยงาม และมีเทคโนโลยีระดับแนวอย่าง SuperColor เพื่อให้สี และความสว่างที่เหนือกว่าเมื่อเทียวกับผลิตภัณฑ์ยี่ห้ออื่นในคลาสเดียวกัน เทคโนโลยีเอกสิทธิอย่าง SuperColor™ ให้ช่วงของสีที่กว้างกว่า DLP projector ทั่วไป ให้ผู้ใช้งานมั่นใจ และมีความสุขกับการชมภาพที่สีสันเที่ยงตรง และสมจริง การออกแบบวงล้อสี (color wheel design) และการควบคุม dynamic lamp SuperColor™ สามารถฉายภาพที่มีความสมจริง ไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่มืดหรือสว่างก็ตาม โดยไม่มีการลดทอนคุณภาพ
ตัวโปรเจคเตอร์มี 5 ค่า pre-set color mode จากโรงงาน ผู้ใช้สามารถเลือกให้ตรงกับความต้องการ 5 โหมดนี้ ได้แก่ : Brightest Mode สำหรับสภาวะแวดล้อมที่แสงจ้าเป็นพิเศษ / Dynamic Mode สำหรับการ present ที่มีตัวหนังสือมาก / Standard Mode ให้สีที่เหมือนจาก PC หรือ notebook / ViewMatch สำหรับการรับชมทั่วไป / Movie Mode ให้สีที่สดกว่าในสภาวะแวดล้อมที่แสงน้อย
โปรเจคเตอร์นี้ได้รวมเอาประสิทธิภาพ คุณสมบัติ และราคาที่ประหยัดเอาไว้ในเครื่องเดียวแล้ว ผมพอใจเป็นอย่างยิ่งกับผลการทดลองใช้ในครั้งนี้ และยินดีที่จะขอแนะนำบอกต่อว่า ViewSonic PJD5255 เป็นโปรเจคเตอร์ที่คุ้มค่า น่าหาซื้อจับจองเป็นเจ้าของอย่างยิ่ง