ZTE Corporation (0763.HK / 000063.SZ) ผู้ให้บริการรายใหญ่ของโลกด้านโซลูชั่นโทรคมนาคมและเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตมือถือสำหรับองค์กรและผู้บริโภค เปิดเผยรายงาน "Common Edge White Paper" เพื่อแนะนำแพลตฟอร์มที่ผนวกรวมเทคโนโลยีเอดจ์เข้ากับคลาวด์ได้เต็มรูปแบบอย่าง Common Edge ซึ่งประกอบด้วย แพลตฟอร์มการเปิดเผยความสามารถด้าน MEP, เทคโนโลยี Edge Cloud น้ำหนักเบา, เซิร์ฟเวอร์ที่เน้นการทำงานกับเอดจ์อย่างครอบคลุม รวมถึงอุปกรณ์เพื่อเร่งการทำงานของเอดจ์
โซลูชันนี้ยังมาพร้อมข้อค้นพบที่เกี่ยวข้องกับความสามารถของเครือข่าย โดยมีข้อมูลเครือข่ายเอดจ์และความสามารถมากกว่า 100 รายการ อาทิ Wireless Indoor Positioning, RNIS (บริการข้อมูลเครือข่ายวิทยุ), TCPO (บริการการใช้งาน TCP) และ VO (บริการการใช้งานวิดีโอ) ถูกนำมาเผยแพร่สู่ภายนอก เพื่อช่วยเร่งความเร็วในการพัฒนานวัตกรรมการบริการ
เพื่อการเชื่อมต่ออย่างเต็มรูปแบบ โซลูชัน Common Edge ของ ZTE จึงผนวกรวมเครือข่ายไร้สายและเครือข่าย Fixed เข้าด้วยกัน พร้อมรองรับการใช้งานกับระบบที่หลากหลาย อาทิ 4G/5G/WiFi
ด้วยการบูรณาการเชิงลึกของ OpenStack และ Kubernetes โซลูชันดังกล่าวจะมอบการผนวกรวม Edge Cloud และระบบการจัดการทรัพยากร ให้กับผู้ประกอบธุรกิจ ซึ่งรวมถึง ระบบการคำนวณ, เครือข่าย, การจัดเก็บครบวงจร และความปลอดภัยที่ครบวงจร เพื่อช่วยพัฒนาประสิทธิภาพในการจัดการและการใช้ทรัพยากรให้ดีขึ้น
ในฐานะแพลตฟอร์มการจัดการคลาวด์ MEC แบบครบวงจรที่ทำงานด้วย AI โซลูชันของ ZTE จึงมอบการจัดการศูนย์กลาง DC และ Edge Cloud ที่ครบวงจร เพื่อให้ O&M ของ Edge Cloud กลายเป็นระบบอัตโนมัติในที่สุด
นอกจากนี้ โซลูชัน Common Edge ของ ZTE ยังมาพร้อม Chassis Server ขนาด 450 มม. E5410/E5430 (U9103) ที่มีสล็อต PCIe อยู่ 14 ช่อง และถูกออกแบบมาให้เดินสายไฟไว้ด้านหน้าเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน และซ่อมบำรุง Edge DC ที่อยู่ในพื้นที่ขนาดเล็ก จึงสามารถตอบสนองความต้องการในการเร่งความเร็วและขยายอุปกรณ์เอดจ์ได้เป็นอย่างดี
ในรายงานฉบับนี้ ZTE ยังเปิดเผยบทวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับความท้าทายในการพัฒนา MEC พร้อมเสนอแนวทางในการก่อสร้างและพัฒนา MEC ตลอดจนข้อค้นพบด้านการใช้งาน MEC ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ด้วย
ด้วยการทำวิจัยเชิงลึกและความรู้ความเข้าใจในเรื่อง 5G MEC ที่มีอยู่ ทำให้ ZTE ได้เข้าไปสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีที่สำคัญ ๆ ตลอดจนมาตรฐานอุตสาหกรรมด้านต่าง ๆ เพื่อพัฒนาศักยภาพของแพลตฟอร์มเอจด์และตีแผ่ความสามารถเครือข่ายออกมาให้เป็นที่ประจักษ์
ZTE ทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้ให้บริการระดับโลกในการตรวจสอบโซลูชัน MEC และเครือข่ายนำร่องทั้งหลาย นอกจากนี้ ทางบริษัทยังได้ร่วมงานกับลูกค้าในอุตสาหกรรมกว่า 200 รายและพันธมิตรเชิงกลยุทธ์อีกกว่า 100 ราย ในด้านการควบคุมอุตสาหกรรม, IoV (อินเทอร์เน็ตของยานพาหนะ), สถาปัตยกรรมอัจฉริยะ และการสาธารณสุขอัจฉริยะ เพื่อร่วมกันสร้างสิ่งแวดล้อม MEC ที่ให้ประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย และเร่งให้เกิดการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลในหลากหลายอุตสาหกรรม
ZTE คือผู้จัดหาระบบโทรคมนาคมที่ทันสมัย รวมถึงอุปกรณ์มือถือและโซลูชั่นเทคโนโลยีระดับองค์กรให้กับผู้บริโภค ผู้ให้บริการเครือข่าย บริษัท และลูกค้าระดับภาครัฐ ส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ ZTE คือความมุ่งมั่นในการจัดหานวัตกรรมแบบบูรณาการและครบวงจรให้กับลูกค้า เพื่อมอบความเป็นเลิศและคุณค่าในขณะที่เซกเตอร์โทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศมาบรรจบกัน บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงและเซินเจิ้น (รหัสหุ้นฮ่องกง: 0763.HK / รหัสหุ้นเซินเจิ้น: 000063.SZ) ZTE จำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการในกว่า 160 ประเทศทั่วโลก
ปัจจุบัน ZTE ทำสัญญา 5G เชิงพาณิชย์ 35 ฉบับในตลาดหลัก ๆ เช่น ยุโรป เอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลางและแอฟริกา (MEA) โดย ZTE จัดสรรรายได้ 10% ต่อปีให้กับการวิจัยและพัฒนา และมีบทบาทผู้นำในองค์การกำหนดมาตรฐานสากล
อ่านรายงาน Common Edge White Paper ของ ZTE ได้ที่ลิงก์นี้:
https://sdnfv.zte.com.cn/en/insights/2019/10/ZTE-Common-Edge-White-Paper สื่อติดต่อ:
Margrete Ma
ZTE Corporation
โทร: +86 755 26775207
อีเมล:
[email protected]