กล้องวงจรปิด Dedicated Subseries มาพร้อมอัลกอริทึมเฉพาะที่ทำงานแยกจากกัน โดยสามารถเลือกใช้งานและสลับการใช้งานได้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงด้านความต้องการในการรักษาความปลอดภัย
Hikvision ผู้นำด้านโซลูชัน IoT ซึ่งมีจุดแข็งด้านกล้องวงจรปิด ได้เปิดตัว Dedicated Subseries กล้องวงจรปิดรุ่นใหม่ในตระกูล DeepinView ที่เพิ่มความสามารถของ AI-powered deep learning algorithms ในกล้องแต่ละตัว ช่วยยกระดับประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในการใช้งาน
ยกระดับขีดความสามารถของ AI
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เทคโนโลยี AI ได้ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมการรักษาความปลอดภัย ในฐานะที่เป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้ประสิทธิภาพของชิปเซ็ต AI ได้รับการปรับปรุงให้สามารถประมวลผลได้อย่างมหาศาลโดยใช้อัลกอริทึมที่หลากหลาย ก่อให้เกิดฟังก์ชันที่มีความสามารถรอบด้านและมีความแม่นยำสูงกว่าเดิม กล้องวงจรปิดรุ่นใหม่ Dedicated DeepinView ก็เป็นตัวอย่างของความก้าวหน้านี้ เพราะรวม AI-powered deep learning algorithms หลากหลายไว้ในยูนิตเดียว โดยอัลกอริทึมเหล่านี้สามารถเปลี่ยนการทำงานเหมือนมีกล้อง 5-6 ตัวในกล้องตัวเดียวได้
"การติดตั้งอัลกอริทึมที่สามารถสลับการทำงานถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Hikvision ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI ในโลกที่เทคโนโลยีและฟังก์ชันเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สิ่งนี้ช่วยสร้างมูลค่ามหาศาลสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการทดลองเทคโนโลยีใหม่เพื่อสร้างความปลอดภัย รวมถึงทำให้ระบบธุรกิจมีความอัจฉริยะ และการใช้งานอื่น ๆ" แฟรงก์ จาง ประธาน International Product and Solution Center ของ Hikvision กล่าว "ผลิตภัณฑ์ใหม่ของเรามีประโยชน์มากมาย ทั้งช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และทำให้ตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น"
อัลกอริทึม แบบสลับการทำงานได้
กล้องวงจรปิด Dedicated DeepinView ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์สองกลุ่ม หนึ่งคือกล้องวงจรปิดสำหรับวิเคราะห์ยานพาหนะ โดยมาพร้อมความสามารถในการอ่านป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติ (ANPR) และการจดจำลักษณะรถยนต์ ทั้งยี่ห้อ สี และทิศทางการเคลื่อนที่ เหมาะสำหรับติดตั้งตามจุดตรวจและทางเข้า-ออกของอาคารหรือนิคมอุตสาหกรรม
สองคือกล้องวงจรปิดที่มาพร้อม deep learning algorithms สลับการทำงานได้ 6 แบบในกล้องเดียว ได้แก่ การจดจำใบหน้า การนับใบหน้า การตรวจจับผู้ไม่สวมหมวกนิรภัย การรักษาความปลอดภัยบริเวณรอบพื้นที่ การจัดคิว และการตรวจจับหลายเป้าหมายหลายประเภทในเวลาเดียวกัน โดยผู้ใช้สามารถตั้งค่าอัลกอริทึมที่ต้องการใช้งานและสลับอัลกอริทึมได้อย่างง่ายดาย
ตัวอย่างการใช้งานคือ การตรวจจับผู้ไม่สวมหมวกนิรภัย อัลกอริทึมนี้สามารถใช้ในสถานที่ก่อสร้างเพื่อดูแลความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนด โดยกล้องสามารถแยกความแตกต่างของคนงานที่สวมหมวกนิรภัยและไม่สวมหมวกนิรภัยได้อย่างแม่นยำ และแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อตรวจพบคนไม่สวมหมวกนิรภัย
อีกหนึ่งตัวอย่างคือ การใช้งานในอุตสาหกรรมการค้าปลีก โดยฟังก์ชันนับใบหน้าสามารถนับจำนวนลูกค้าที่เข้า-ออกร้านได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังสามารถแยกพนักงานของร้านและลูกค้าที่มาใช้บริการซ้ำได้โดยอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้จัดการร้านสามารถนับจำนวนลูกค้าใหม่ได้อย่างถูกต้อง
นอกจากนี้ ความยืดหยุ่นของอัลกอริทึมยังช่วยรองรับการทำงานอื่น ๆ ดังนี้
การรักษาความปลอดภัยบริเวณรอบพื้นที่ - สังเกตการณ์พื้นที่ภายนอกอาคารที่ต้องมีการรักษาความปลอดภัย พร้อมแจ้งเตือนอย่างแม่นยำเมื่อมีการบุกรุก
การจดจำใบหน้า - ตรวจสอบใบหน้าก่อนอนุญาตให้เข้าเขตหวงห้ามในสถานที่ต่าง ๆ เช่น ห้องทดลองในโรงเรียน ห้องเก็บเอกสารสำคัญ และห้องเก็บยาของโรงพยาบาล
การจัดคิว - ทำให้ทราบเวลาที่ลูกค้าต้องรอคิว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรพนักงาน และยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น
ความคมชัดระดับ HD ทั้งกลางวันและกลางคืน
กล้องวงจรปิดรุ่นใหม่มาพร้อมเทคโนโลยี DarkFighter และ LightFighter ของ Hikvision โดยสามารถให้ภาพสีสันคมชัดสดใสแม้แสงน้อยมากหรือแสงสว่างมากเกินไป นอกจากนั้นยังมีโหมด Smooth Streaming ที่รับประกันการไลฟ์ฟีดด้วยคุณภาพสูง
กล้องวงจรปิด Dedicated DeepinView มีความคมชัดให้เลือกตั้งแต่ 2, 4, 8 ไปจนถึง 12 MP
ฟีเจอร์ใช้งานได้จริงและใช้ง่ายขึ้น
ฟีเจอร์ Metadata ช่วยให้แพลตฟอร์มของบุคคลที่สามสามารถรับข้อมูลจากกล้อง Hikvision เพื่อนำไปวิเคราะห์วิดีโอแบบเรียลไทม์ หรือบันทึกไว้ในคลังเก็บวิดีโอเพื่อการสืบหาหลักฐานในภายหลังได้อย่างรวดเร็ว
สุดท้ายนี้ กล้องวงจรปิดรุ่นใหม่ยังมีฟีเจอร์ Vibration Detection รองรับการติดตั้งกล้องนอกอาคาร เพื่อตรวจจับและแจ้งเตือนเมื่อมีผู้พยายามทำลายกล้อง
รูปภาพ -
https://photos.prnasia.com/prnh/20200707/2850057-1คำบรรยายภาพ - กล้องวงจรปิด Hikvision Dedicated DeepinView