หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ข่าว : อินเทลเตรียมใช้ชิปอะตอมกับรถยนต์ ระบบสื่อสารในจีน  (อ่าน 1812 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Comment Starter
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 0


« เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2010, 17:05:37 »

อินเทล  ดิเวลล็อปเปอร์ ฟอรัม, ปักกิ่ง,  12 พฤษภาคม 2553 - ผู้บริหารอินเทลได้เปิดตัว  อินเทล ซิสเต็ม-ออน-ชิป (System-on-chip  หรือ SoC) รุ่นล่าสุดสำหรับแอพลิเคชันเอ็มเบ็ดเด็ด  โดยได้อธิบายถึงผลการวิจัยที่จะช่วยให้บ้านเรือนและธุรกิจขนาด เล็กสามารถบริหารจัดการระบบการใช้พลังงานได้ดีขึ้น  ผลิตภัณฑ์ SoC รุ่นล่าสุดที่ซ่อนอินเทล  อะตอม โปรเซสเซอร์ ไว้ภายในจะช่วยให้บริษัทต่างๆ  สร้างอุปกรณ์ที่รองรับ PCI  Express* เพื่อเชื่อมต่อโดยตรงกับชิปได้เป็นครั้งแรก  ทำให้แอพลิเคชันเอ็มเบ็ดเด็ดทำงานได้คล่องตัวมากกว่าเดิม

อินเทลยังพูด ถึงงานที่ทำร่วมกับฮาวไต*  ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ในจีนซึ่งมีแผนนำเอาอินเทลอะตอมโปรเซสเซอร์ และซอฟต์แวร์  MeeGo ไปใช้กับระบบอินโฟเทนเมนท์ในรถยนต์ที่บริษัทเป็นผู้ผลิต  นอกจากนั้น          ไชน่า โมไบล์* ซึ่งเป็นบริษัทสื่อสารไร้สายที่ใหญ่ที่สุดในโลก  ยังมีแผนที่จะนำชิปอินเทลไปใช้กับแพลตฟอร์มที่รองรับการทำงานของ เครือข่ายไร้สายของตนอีกด้วย
ดัก  เดวิส รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป  เอ็มเบ็ดเด็ด แอนด์ คอมมูนิเคชัน  กรุ๊ป ของอินเทล             กล่าวว่า "อินเทลตั้งใจและทุ่มเทในการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านนวัตก รรมแอพพลิเคชันใหม่ๆ  ในจีน โดยได้ร่วมมือกับบริษัทต่างๆ  ในจีนอย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนาโซลูชันระบบประมวลผลที่รองรับการเชื่อม ต่อที่ชาญฉลาดมากขึ้นและดีขึ้นกว่าเดิม  สำหรับรถยนต์ บ้านเรือน และธุรกิจต่างๆ  จนกลายเป็นระบบโครงสร้างพื้นฐานที่เข้ามารองรับการใช้งานโมไบล์ ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นและติดต่อสื่อสารกับอินเทอร์เน็ตที่รวด เร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม"
เดวิสเปิดเผย รายละเอียดของผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ของอินเทล  ซึ่งมีชื่อรหัสว่า "ทันแนล  ครีก" (Tunnel Creek) ขณะบรรยายบนเวที  โดยกล่าวว่า SoC รุ่นนี้ใช้สำหรับแอพลิเคชันเอ็มเบ็ดเด็ด  เช่น ระบบอินโฟเทนเมนท์ ในรถยนต์  และไอพีโฟน (โทรศัพท์ที่ใช้อินเทอร์เน็ตโปรโตคอล)  ซึ่งต้องใช้มีเดียต่างๆ นอกจากนั้น  SoC รุ่นนี้ยังใช้ระบบเชื่อมต่อแบบมาตรฐานกับโปรเซสเซอร์อีกด้วย    SoC มีองค์ประกอบภายในครบวงจร  ประกอบด้วย อินเทลอะตอม คอร์,  เมมโมรี คอนโทรลเลอร์ ฮับ,  กลไกกราฟิก และกลไกระบบวิดีโอที่รวมอยู่ในชิปเพียงตัวเดียว
นอกจากนั้น  ชิปรุ่นนี้ยังใช้งานร่วมกับชิปที่บริษัทต่างๆ  พัฒนาขึ้นเองได้ด้วย หากชิปของบริษัทต่างๆ  ดังกล่าวใช้มาตรฐาน PCI Express*   ชิปรุ่นนี้จึงเป็นรุ่นที่สามารถใช้งานได้อย่างคล่องตัว  ช่วยลดต้นทุนด้านวัสดุ และลดพื้นที่บนเมนบอร์ดสำหรับแอพลิเคชันเอ็ม เบ็ดเด็ดอีกด้วย
อินเทลชนะใจผู้ ค้ารถยนต์และสื่อสารในจีน
เดวิส  ได้เชิญผู้บริหารของบริษัทฮาวไต  ออโตโมบิล บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีนขึ้นมาร่วมบรรยายบนเวที  โดยฮาวไตได้ประกาศว่า รถซีดานสุดหรูรุ่นใหม่  คือ บี11 จะมีการติดตั้งแพลตฟอร์มที่ใช้  อินเทล อะตอม โปรเซสเซอร์  และ MeeGo ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์เปิด  ไว้ในระบบอินโฟเทนเมน์ของรถ
หวาง  เทียนหมิง ประธานกรรมการของฮาวไต  ออโตโมทีฟ กล่าวว่า "ระบบอินโฟเทนเมนท์ที่ใช้สมรรถนะของอินเทล  อะตอม โปรเซสเซอร์ ช่วยทำให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอินเทอร์ เน็ตที่มีอยู่เดิมและล่าสุดได้  รวมทั้งนำเอาซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อทำงานบน  MeeGo ซึ่งอิงกับแพลตฟอร์มลีนุกซ์มาใช้ประโยชน์ได้เช่นกัน  แนวทางนี้นอกจากจะประหยัดค่าใช้จ่ายในการพัฒนาแอพลิเคชันแล้ว  ยังทำให้เราสามารถพัฒนาบริการใหม่ๆ  ออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็วและมีเสถียรภาพมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย"
เมื่อ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่ทำงานคล้ายคลึงกับพีซีสามารถเชื่อมต่อ กับอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น  บริษัทสื่อสารจึงพยายามแสวงหาแนวทางใหม่ๆ  เพื่อสนองตอบต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นในการใช้เครือข่ายได้อย่าง คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามไปด้วย  เดวิสเปิดเผยว่าอินเทลมีวิสัยทัศน์ด้านการนำระบบประมวลผลและโมเดล คลาวด์ของอุตสาหกรรมไอทีมาประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมสื่อสาร  โดยใช้การทำงานบนระบบเครือข่ายมารวมไว้ภายใต้โครงสร้างเพียงชุด เดียว  เขากล่าวว่าบริษัทสื่อสารชั้นนำทั่วโลกต่างยอมรับและนำโครงสร้าง ของ            อินเทลมาใใช้เป็นแพลตฟอร์มหลักสำหรับระบบโครงสร้างพื้นฐานรุ่นต่อ ไปของตนเอง  ตัวอย่างของบริษัทสื่อสารเหล่านี้ประกอบด้วย  อัลคาเทล-ลูเซนต์ อีริกสัน  หัวเหว่ย และซีทีอี เป็นต้น
ดร.ซุย  ชุนเฟง ผู้จัดการห้องทดลองไร้สายแผนกสื่อสารไร้สายของสถาบันวิจัย  China Mobile Research Institute พูดถึงการที่บริษัทสื่อสารที่ใหญ่ที่ สุดในโลกจับมือเป็นพันธมิตรกับอินเทล  ในการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายไร้สายรุ่นต่อไป  ซึ่งจะทำให้ไชน่า โมไบล์  ปรับการดำเนินงานไปสู่โมเดลใหม่คือ  "ระบบประมวลผลที่ผสมผสานกับระบบคลาวด์"  ได้ในที่สุด
ดร.ซุย  ยังกล่าวต่อว่า "ไชน่า โมไบล์  กำลังวิจัยโครงสร้างของ Radio  Access Network รุ่นใหม่อยู่ เพื่อทำให้เครือข่ายบอร์ดแบนด์ไร้สายเป็น เครือข่ายประหยัดพลังงานระดับโลก  มีค่าใช้จ่ายลดลง แต่มีสมรรถนะสูง  และสามารถจัดสรรทรัพยากรของระบบโครงสร้างพื้นฐานให้แก่การทำงานใน สภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันภายในเครือข่ายได้อย่างคล่องตัว  เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ดังกล่าว  เราจึงนำสถาปัตยกรรมเทคโนโลยีของอินเทลมาใช้ควบคู่ไปกับระบบโครง สร้างพื้นฐานรุ่นต่อไปของเรา  เพื่อความคล่องตัวในการใช้งาน  ความสามารถในการขยายระบบ  และนวัตกรรมซอฟต์แวร์ชั้นเลิศ
ระบบบริหาร จัดการพลังงานส่วนตัว
หลังจากที่เด วิสบรรยายจบ  จัสติน แรทเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี  และผู้อำนวยการบริหารของอินเทล  แล็ป ได้อธิบายว่า เทคโนโลยีอัจฉริยะในบ้านและที่ทำงานจะเข้ามาช่วยลด และบริหารจัดการการใช้พลังงานได้ดีขึ้นได้อย่างไร  แรทเนอร์กล่าวว่าเป้าหมายของอินเทลก็คือการนำเอาเทคโนโลยีของอิน เทลมาสร้างภูมิความรู้เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคและบริษัทขนาดเล็ก ตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้พลังงานได้ดีขึ้นกว่าเดิม
แรทเนอร์  กล่าวว่า "การสร้างภูมิความรู้แก่ผู้บริโภคถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ  ผู้ใช้แต่ละคนจำเป็นต้องมีข้อมูล  เครื่องมือ และความตั้งใจที่จะเข้ามาช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรพลังงาน ที่กำลังขาดแคลน  ลดผลกระทบจากการก่อก๊าซคาร์บอนฯ  และควบคุมงบประมาณในการใช้พลังงานของตนเอง  ถ้าหากเราทำให้การใช้พลังงานมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น  โดยใช้เครื่องมือที่ทำให้ผู้ใช้มองเห็นภาพและรับทราบข้อมูลในทันที   ซึ่งเชื่อมโยงกับทั้งชุมชนแล้ว  แนวทางนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ยั่งยืนและช่วยประหยัด พลังงานไปได้อย่างมหาศาล
นักวิจัยของ อินเทลได้ประดิษฐ์อุปกรณ์ไร้สายชนิดใหม่ขึ้นมาเพื่อช่วยให้ผู้บริโภค รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้พลังงานได้ง่ายขึ้นแถมยังเป็ยอุปกรณ์ ที่มีราคาประหยัดอีกด้วย  ผู้บริโภคเพียงแค่เสียบต่อเซนเซอร์ราคาถูกที่กำลังอยู่ระหว่างการ ทดสอบนี้ร่วมกับระบบสายไฟภายในบ้าน  จากนั้นระบบจะสามารถวัดและรายงานปริมาณการใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้ใน ทันที  ผู้บริโภคสามารถติดตั้งใช้งานเทคโนโลยีนี้เพื่อวิเคราะห์อัตราการ ใช้พลังงานของอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดต่างๆ  ที่มีอยู่ทั่วทั้งบ้านได้
นอกจากนั้นแร ทเนอร์ยังได้ทำการสาธิตอุปกรณ์รุ่นต้นแบบของอินเทลที่สามารถ แสดงผลการใช้พลังงานภายในบ้านควบคู่กับการใช้เซนเซอร์พลังงานไร้ สายดังกล่าวให้ชม  ระบบจะคอยเฝ้าดูการใช้พลังงาน  แนะนำวิธีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม  กำหนดเป้าหมายการประหยัดพลังงาน  และให้รางวัลแก่ผู้ที่ทำตามเป้าการประหยัดพลังงานได้อีกด้วย  การทำงานควบคู่กันของอุปกรณ์ทั้งสองชนิด  (ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบบริหารจัดการพลังงานส่วนตัว)  จะช่วยทำให้บ้านเรือนแต่ละหลังในอเมริกาประหยัดค่าไฟได้            470 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปี ถ้าหากนำไปใช้ในบ้านเรือน  113 ล้านหลังทั่วอเมริกา ค่าใช้จ่ายที่ประหยัดได้จะสูงกว่า         5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี  หรือแม้แต่ถ้ามีบ้านเรือนแค่ร้อยละ  1 ในอเมริกาใช้อุปกรณ์ดังกล่าว  ก็จะช่วยลดปริมาณการใช้ถ่านหินได้  371,000 ตันต่อปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ  ได้ 2.4 ตันเมทริกซ์ตัน หรือเท่ากับการนำรถยนต์  535,000 คันออกจากท้องถนน แรทเนอร์ยังได้พูดถึงวิธีปรับปรุงระบบบริหาร จัดการการใช้พลังงานในรถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย  เขากล่าวว่าเมื่อจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น  โรงงานไฟฟ้าในท้องถิ่นก็จะได้รับผลกระทบมากขึ้นตามไปด้วย  เมื่อรถยนต์เหล่านี้ถูกนำไปชาร์ตไฟในช่วงเวลากลางคืน  อินเทล แล็ป กำลังมองหาวิธีการชาร์ตไฟแบบใหม่  เพื่อลดอักตราการใช้ไฟสูงในช่วงกลางคืน  โดยหากทำสำเร็จจะไม่จำเป็นต้องขยายโรงงานไฟฟ้า  ซึ่งช่วยประหยัดเงินได้อย่างมหาศาล
อินเทล  (NASDAQ:INTC) เป็นผู้นำระดับโลกในด้านนวัตกรรมซิลิกอน  สร้างสรรค์เทคโนโลยี สินค้า  รวมทั้งการริเริ่มต่างๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและการทำงานของผู้คน อย่างต่อเนื่อง  ท่านสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอินเทลได้ที่ www.intel.com/pressroom , www.intel.com/th, blogs.intel.com, ทวิตเตอร์ @Intelthailand  และ เฟสบุ๊ค IntelThailand
คลิกเพื่ออ่านฉบับเต็ม!
บันทึกการเข้า
beerking
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5477



« ตอบ #1 เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2010, 17:43:36 »

โอ้ว เทพมากเลยครับ   lol
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: