สิ้นยุคปล่อยของต้นร่างเดิมๆ “ข้าวตราฉัตร” ปรับย่านสื่อสารแบรนด์ “เข้าผู้เข้าคนจำต้องมาก่อน”ขนองชะงักติดต่อสื่อสารการตลาดไปกว่า 2-3 ศักราช ก่อนจะกลับเสร็จการเริ่มภาพยนตร์สั้นความยาว 5 นาที พร้อมกับโฆษิตแบบแผนการเฉลี่ยกุศโลบายพร้อมด้วยทิศทางการสื่อสารแบรนด์แนวใหม่ของ “
ข้าวตราฉัตร” เพราะว่าให้พ้องพร้อมกับทิศทางตลาดพร้อมด้วยผู้บริโภคที่แปลงไป รวมไปถึงจะให้ความสลักสำคัญพร้อมทั้งการทำ Content Marketing มากขึ้นก่อนหน้านี้ป่าวร้องของข้าวตราฉัตรจะตัดเส้น Mood & Tone ที่ทั้งเป็นเรื่องของฟังก์ชั่นนัล โดยเฉพาะอย่างมากในมุมของคุณลักษณะและเกณฑ์ในการกำเนิดข้าว ที่จัดหามาการศรัทธาจนทำได้เป็นผู้นำในท้องตลาดข้าวถุงของชาติ และเป็นได้ส่งออกไปทำตลาดได้ในอีกหลายๆ ประเทศ เมื่อที่ทางหลักจะเน้นสื่อสารผ่านโอกาส Mass Media เป็นหลัก
แต่จากนี้แบบการติดต่อยี่ห้อจากข้าวตราฉัตร จะเข้ามาพร้อมด้วยโลกของการตลาดในสมัยใหม่ทวีคูณ โดยเฉพาะอย่างมากจากการเรียนรู้กิริยาท่าทางและ Insight ผู้ซื้อ ที่ไม่ได้อยุ่งยากรู้เรื่องราวของแบรนด์มากไปกว่าค่าต่างๆ ที่เข้าสังคมหรือโภคินจะได้มาจากการทำกิจธุระของแต่ละยี่ห้อ
- ทำให้เสมอทิศทางติดต่อสื่อสาร โฟกัส Soft Power สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ “ข้าวตราฉัตร” เลือกสรรที่จะทำให้เรียบกำหนดการในการติดต่อสื่อสารการท้องตลาดออกมาในมุมที่มีชีวิต Emotional มากขึ้น เป็นพิเศษการใช้ “ข้าว” มีชีวิตสื่อกลางในการมอบให้ประโยชน์ต่างๆ ออกมาเพื่อให้เป็นเหตุให้แวดวงโดยรวมรุดหน้า นำร่องด้วยข้อคิด Rice is Love ซึ่งต่อยอดมาจากคอนเซ็ปต์เดิม Rice is Life เพื่อที่จะให้วงการหันมาดูแลพร้อมทั้งมอบเสน่หาให้แก่กันทวีคูณ โดยเฉพาะเริ่มต้นจากสถาบันวงศาคณาญาติ พร้อมกับในหนหน้าจะมีแง่คิดอื่นๆ ตามมา เพื่อจะให้แบรนด์ย่างเหยียบเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดในการปรับปรุงปมปัญหาต่างๆ ที่มีอยู่ในวงการ
ล่าสุดได้เปิดตัวจอเงินสั้น “มลักนี้ ชั่วกับชั่วกัลป์” แห่งสไตล์ VDO Clip ความยาว 5 นาที โดยในดั้งเดิมจะเน้นติดต่อผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลักข้าวตราฉัตร พร้อมกับถ้ามีฟีดแบ็คที่ดีก็มีแบบอย่างต่อยอดการติดต่อมาริ Mass Media ในสเตปต่อไปสำหรับเนื้อเหตุการณ์จะบอกผ่านมโนชของคู่ตาประสพโชค ด้วยกันคุณยายระนาด หอมจันทร์ ที่ใช้ชีวิตคู่ประสมในชีพนักมา 60 ปี อย่างไรก็ดียังให้ความสลักสำคัญพร้อมกับความรัก และเอาใจใส่กันกันเหมือนในวันแรก เหตุด้วยสะท้อนให้เห็นความสำคัญพร้อมด้วยการแสดงความรักระหว่างกัน ทั้งจากคนในญาติพี่น้อง ด้วยกันแวดวงรอบๆ โดยไม่ได้เน้นที่แบรนด์หรือโปรดักต์ มีแค่การใช้ข้าวมาเป็นตัวแคงทนถาวรมโนชตามคอนเซ็ปต์ “Rice is Love” แต่ทว่าเส้นเหตุการณ์ที่นำเสนอทำเอาเข้าใจคุณสมบัติเด่นของข้าวหอมมะลิใหม่ รวมถึงไฮเทค Grain Cooler ซึ่งยังไม่ตายนวัตกรรมอย่างเดียวในข้าวตราฉัตรที่ช่วยเหลือเก็บคุณลักษณะของความคือ
ข้าวหอมมะลิใหม่ที่แหวกแนวจากข้าวประเภทอื่น ทั้งเมล็ดข้าวที่ยาวกว่า มีสีขาว กลิ่นหอม พร้อมด้วยคงจะความอ่อนนุ่มไว้ได้อยู่ประจำ 2
การทำให้เรียบลด SKU สินค้าในพอร์ตยังจำต้องทำต่อเนื่องในปีนี้ เพราะกะว่ายังจำต้องลดลงอีกไม่น่าอัปยศกว่า 20% จากสมัยนี้ เพราะว่าจะเก็บสินค้าไว้เฉพาะแก๊งที่มีศักภาพในการทำตลาด และสอดคล้องกับภาพที่เปลี่ยนแปลงแปลงไปของท้องตลาดและพฤติกรรมผู้รับประทาน
ระหว่างที่ที่ภาพของการจำเริญในแต่ละหนทาง กลุ่มภัตตาคาร พร้อมทั้ง Food Service ครอบครองตลาดที่มีศักยภาพที่จะโตได้สูงถึง 15%ข้าวตราฉัตร เช่นเดียวพร้อมทั้งในร้านสบายซื้อพร้อมทั้งช่องทางที่ขายกลุ่มอาหารพร้อมมูลทาน ซึ่งก้าวหน้าไม่น่าอดสูกว่า 10% เมื่อที่ช่องทางขายดั้งเดิม อย่างร้านค้าขายข้าวสารหรือไม่ร้านค้าส่งต่างๆ ที่เคยเป็นช่องทางหลักในตลาดยังคงเติบโตลดลงอย่างไม่ขาดสาย โดยในอนาคตสัดส่วนยอดจำหน่ายในตลาดจะเพลาลงเหลือไม่ถึงครึ่งหนึ่งของท้องตลาดจากที่ก่อนหน้าเคยมีอัตราส่วนการขายได้ถึง 60-70%
“ข้าวตราฉัตรทำการกระจายตัวมาก่อนหน้านี้เหลือแหล่ปี จากการตามล่าเทรนด์และพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างใกล้ชิดทำให้ยังสามารถรักษาการเติบใหญ่พร้อมทั้งความเป็นประธานาธิบดีในท้องตลาดไว้ได้ โดยยุคปัจจุบันมีโควตาในตลาดข้าวถุงในชาติรวม 13% ระหว่างที่ที่ยังมีหนทางเติบโตได้ไม่ขาดสาย โดยเฉพาะการลามตลาดในต่างประเทศซึ่งตลาดขยายตัวยิ่งกว่าในประเทศ ขณะที่สมัยนี้บริษัทเน้นตลาดส่งออกเป็นสำคัญด้วยหุ่นกว่า 70% จากปริมาณข้าวต่อพรรษาทีมีกว่า 1 ล้านอุดตัน”
Tags : ข้าวตราฉัตร,ข้าวหอมมะลิ,ฉัตรทอง