กรุงเทพฯ, 25 พฤษภาคม 2552 – คณะนักเรียนไทยสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศอีกครั้ง โดยล่าสุด บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดเผยว่า จากการสนับสนุนให้นักเรียนไทยเข้าร่วมแข่งขันประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ระดับโลกในงาน Intel International Science and Engineering Fair 2009 หรือ อินเทล ไอเซฟ 2009 ครั้งที่ 60 ที่เมืองเรโน มลรัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงวันที่ 11-15 พฤษภาคม
ที่ผ่านมานั้น ผลปรากฏว่า นักเรียนไทยสามารถคว้ารางวัลมาครองได้สำเร็จสองรางวัล จากนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาทั้งหมดที่เข้าร่วมจำนวน 1,563 คนจาก 56 ประเทศ ซึ่งงานอินเทล ไอเซฟ นับเป็นเวทีการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ในระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในโลก
สำหรับโครงงานของนักเรียนไทย 2 โครงงานที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ ได้แก่ โครงงานเรื่อง “หนังเทียมจากการพัฒนาเซลลูโลสเจล” พัฒนาโดย ด.ช.พรวสุ พงศ์ธีระวรรณ ด.ญ.อารดา สังขนิตย์ และ นส.ธัญพิชชา พงศ์ชัยไพบูลย์ โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับรางวัลที่ 4 ในประเภท Grand Awards สาขาการจัดการสิ่งแวดล้อม และโครงงานเรื่อง “การพัฒนาชุดตรวจสอบยาต้านไวรัส HIV โดยใช้เทคนิค Immunochromatographic strip test” พัฒนาโดย นายจักรกฤษณ์ ใจดี นักเรียนจากโรงเรียนแม่พริกวิทยา จังหวัดลำปาง ได้รับรางวัลที่ 3 ในกลุ่ม Special Awards สาขาเคมีจาก American Association of Clinical Chemistry รางวัลที่นักเรียนทั้งสี่ได้รับคือทุนการศึกษาคนละ 500 เหรียญสหรัฐ
นายจักรกฤษณ์ ใจดี ผู้พัฒนาโครงงาน “การพัฒนาชุดตรวจสอบยาต้านไวรัส HIV โดยใช้เทคนิค Immunochromatographic strip test” กล่าวถึงเบื้องหลังความสำเร็จในครั้งนี้ว่า “ผมคิดว่าสิ่งสำคัญที่ทำให้โครงงานของผมได้รับรางวัลคือ การที่โครงงานของเราสามารถสร้างประโยชน์ให้กับการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV ได้ทั่วโลก และยังเป็นการศึกษาในเรื่องที่ยังไม่มีใครทำ นอกจากนั้นแรงสนับสนุน และคำชี้แนะจากอาจารย์ยังเป็นสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้ผลงานมีความน่าสนใจมากขึ้น สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการร่วมแข่งขันในงานระดับโลกครั้งนี้คือ นิสัยของนักวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริง เราต้องไม่ลอกเลียนแบบใครในการทำโครงงาน ผลงานชิ้นนี้ผมค้นคว้าหาข้อมูลด้วยตนเอง และนำมาปรึกษาขอคำแนะนำเพิ่มเติมกับอาจารย์ ทำให้รู้สึกว่าการเข้าร่วมงานอินเทล ไอเซฟทำให้ผมได้ประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์มาก และภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่เป็นแรงหนึ่งในการทำให้ต่างชาติเป็นความสามารถของเด็กไทยครับ”
รางวัลที่นักเรียนทั้ง 4 ได้รับนอกเหนือจากทุนการศึกษาจากมูลนิธิอินเทลแล้ว กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้มอบเกียรติบัตรและทุนการศึกษาอีกด้วย
นายเอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการผู้จัดการบริษัทอินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย)จำกัด กล่าวว่า “ จุดประสงค์หลักที่อินเทลให้การสนับสนุนนักเรียนทั่วโลก รวมทั้งนักเรียนไทยเข้าร่วมการแข่งขัน อินเทล ไอเซฟ คือ เราต้องการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่มีโอกาสได้แสดงความสามารถทั้งในด้านวิชาการ และทางด้านปฏิบัติ อินเทลหวังว่าพวกเขาจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้เยาวชนคนอื่นๆ ในแง่การใช้สติปัญญา และความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งความพยายามเพื่อสร้างผลงานที่ดีได้อย่างน่าทึ่ง และจากการประกวดในปีนี้ เราได้เห็นศักยภาพและความสามารถของเยาวชนไทยที่โดดเด่นไม่แพ้ชาติอื่น ๆ ทำให้ได้รับรางวัลถึง 2 รางวัล ซึ่งอินเทลหวังว่าเยาวชนไทยจะมีผลงานที่น่าสนใจ เพื่อเข้าร่วมในการแข่งขันในปีต่อๆ ไป และสามารถนำโครงงานเหล่านั้นไปพัฒนาต่อให้เกิดประโยชน์ทั้งในชุมชน ระดับประเทศ และสามารถขยายผลไปถึงในระดับโลกอีกด้วย”
ด้วยความมุ่งมั่นของอินเทลต่อการพัฒนาด้านการศึกษาของเยาวชนทั่วโลก อินเทล คอร์ปอเรชั่น ได้มีการดำเนินการในกิจกรรมและโครงการต่างๆ นอกเหนือจากโครงการอินเทล ไอเซฟ โดยตลอดช่วง 1 ทศวรรษที่ผ่านมา บริษัทอินเทลได้จัดสรรงบประมาณไปแล้วรวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และพนักงานของอินเทลยังได้ร่วมอุทิศแรงกายและแรงใจกว่า 2.5 ล้านชั่วโมง เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่ช่วยพัฒนาด้านการศึกษาในประเทศต่างๆ ถึง 50 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นเพื่อพัฒนาด้านการศึกษาของอินเทลสามารถดูได้ที่
www.intel.com/education.
คลิกเพื่ออ่านฉบับเต็ม!