โครงการระยะยาว มากกกกกกกกกกก ของผม อิอิ

[tsawana]

อย่าหาว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะครับ
ถ้าคุณ tsawana กลับเมืองไทย รบกวนหิ้วมาฝากผมสักสองตัว จะเป็นพระคุณครับ อิอิ
ราคานี้น่าเล่นมักมากกกกกกก..... ค่าใช้จ่ายเดวว่ากันหลังไมค์ครับ เอาไว้ใกล้ๆจะคุณ tsawana จะกลับก่อน

ด้วยความยินดีเลยครับผม

[shikuva]

ขอบคุณมากคับพี่ ที่อุสส่าเสียเวลาพิมตอบมามากมาย ^ ^
ที่ไม่อยากใช้ rounter load balance เพราะตัว ClearOS มันยืดหยุ่นกว่าเยอะ แต่เพราะมันยืดหยุ่นกว่านี่กระมังที่ทำให้ปัญหาตามมามากมาย ตอนนี้ผมรอ แพคเกตอินเตอร์เน็ทของ TRUE 50/4 ลง ที่พัทยาอยู่คับอาจจะเปลี่ยนไปใช้เส้นเดียวเลย เพราะปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายเน็ทก็พอๆกับแพคเก็ตนี้อยู่แล้ว แต่ได้ จากของเดิม 13<3bb>+12<true> = 25/2 ค่าเน็ท 2 เส้นเกือบๆ 3000 แล้วคับ -*- ถ้าอย่างไรหลังหน้าทัว ผมคงได้ลองอะไรเพิ่มเติมบ้างแล้วจะเล่าสู่กันฟังนะคับพี่

ปล.ขอบคุณอีกครั้งคับ

[tpp]

เอาใจช่วยครับโน๊ต

[Suhanna]

เล่นกับ File MKV

นาทีนี้ถ้าจะดูหนังไม่ว่าจะผ่าน HTPC หรือ HD Player ถ้าไม่รู้จัก File นามสกุล MKV คงเป็นไปไม่ได้เนาะครับ แต่อาจจะไม่ทุกคนที่เข้าใจระบบการทำงานของ MKVตัวนี้ (รวมถึงผมด้วย อิอิ)

ตามความเข้าใจของผม File MKV ที่ดูเหมือนมันเป็น File เดี่ยวๆ แต่จริงๆมันเหมือนเป็นกระเป๋าเอกสาร มีช่องสำหรับเก็บ File ต่างๆ เช่น File ภาพ File เสียง File ซับไตเติ้ล และ File Chapter สำหรับข้ามตอนไปดูช่วงที่เราต้องการได้ ข้อดีอีกข้อของมันก็คือ มันสามารถเก็บ File แต่ละแบบได้หลาย File ยกตัวอย่างเช่น เราสามารถเก็บ File Sub ได้หลายภาษาหรือเสียงเราสามารถเก็บได้หลายภาษาหลายรูปแบบการบันทึกเป็นต้นว่า DTS, DTS HD ได้ทั้งสองแบบเป็นต้น

ปัญหาใหญ่ที่เราไม่สามารถใช้ความสามารถของ MKV ได้เต็มที่มาจากสองเหตุผลหลักๆครับ คือ File มันไม่สมบูรณ์ (มีช่องให้เก็บ แต่ไม่มี File ในนั้น) กับ Player ที่ใช้เล่น (เล่น MKV ได้) แต่ไม่สามารถเลือกเอา File ที่เก็บอยู่ออกมาเล่นได้หมด (โดยเฉพาะ Player ส่วนใหญ่ใน HTPC ผมเล่าให้ฟังถึง add in ชื่อ Media Control ที่สามารถเลือกเสียง เลือก Sub ใน MKV ใน WMC โดยใช้ FFD Show ใน Rep ต้นๆไปแล้ว)

ที่จะว่าต่อไปคงเป็นเรื่องการทำ File MKV ที่เรามีอยู่ให้สมบูรณ์ตามที่เราต้องการ (คงไม่พูดถึงเรื่องการแปลง DVD, BD หรือ File AVI, MP4 ให้เป็น MKV อีกแล้ว เคยเล่าไปแล้ว ใช้ HandBreak หรือ MakeMKV ก็ได้ครับ)

[Suhanna]

หลักการปรับปรุง File MKV ให้เป็นอย่างที่เราต้องการ

เนื่องจาก MKV มันเหมือน Container ที่บรรจุ File ต่างๆเอาไว้ การปรับปรุงง่ายๆคือต้องแยกเอา File ที่อยู่ใน Container ออกมาก่อน (Demux) เสร็จแล้วก็เอา File ที่เราแยกออกมา มาปรับแต่งให้ได้ที่เราต้องการ (จะทำให้เล็ก หรือ ทำให้ชัด ปรับให้ดัง ฯลฯ) แล้วรวมเข้าเป็น MKV (Mux) อีกครั้ง ขั้นตอนนี้เราสามารถเลือกว่าจะใส่ File ที่เราจำเป็นต้องใช้เท่านั้นเพื่อลดขนาดของ MKV ก็ได้ครับ แนะนำเครื่องมือสำหรับ แยกและรวม MKV แบบฟรีๆ ใช้งานได้เหมือนเดิมครับ (ของฟรีมีอยู่เยอะมาก มีทั้งข้อดีข้อเสีย แต่ที่แนะนำผมว่าปัญหาน่าจะน้อยสุด)

MKVToolnix + MKVExtract GUI (เวลาลง Toolnix ตอนเสร็จมันจะมี Link ให้ Load MKVExtract GUI อยู่แล้ว Link Download ตัวล่าสุด ลอง Search ใน Google ดูนะครับ มัน Update ตลอดเวลา เลยไม่ค่อยอยากลง Link ครับ)

http://www.bunkus.org/videotools/mkvtoolnix/win32/mkvtoolnix-unicode-4.4.0-setup.exe

เดวไปดูกันต่อครับว่ามันทำอะไรได้บ้าง อิอิ 

[Suhanna]

ผมใช้ MKVExtract GUI เปิดให้ดูก่อนนะครับ เป็น File หนังจีนเก่าของ John Woo 720P LoadBit มา อยู่ใน Server รอการจัดการเพื่อเก็บสะสมครับ



จะเห็นว่า มีอยู่ 6 Tracks อยู่ใน MKV ตัวนี้ เป็น File Video MPEG4 File เสียง AC3 5.1 สองตัว จีน กับไทย กับ Sub อีกสามตัว ไทยสอง อังกฤษหนึ่ง ไทยเป็น VOBSUB (เป็น File ภาพ โมได้ จะว่ากันต่อไป) กับ File Text (พวก Srt, ass พวกนี้ ผมชอบครับ เวลาดูปรับขนาด ปรับตำแหน่ง ปรับสีได้ ต่างจาก File ภาพ ( VOBSub) จะแต่งยากกว่า แต่ก็แต่งได้อยู่ดี) ติ๊กที่หน้า File ย่อยที่เราอยากจะเอาออกมาปรับแต่ง กด Extract เป็นจบ อ้อ อย่าลืมเลือก Output Dir ด้วยนะครับ

เทคนิคคือควรสร้าง Folder ชื่อหนัง แล้วเก็บ MKV ไว้ใน Folder นั้น เวลาเราแยก File ย่อยออกมาให้มันเก็บไว้ใน Folder นั้นหละครับ จัดการง่าย ลบก็ง่ายไม่เกะกะเนาะ (หรือจะให้แยกไปลงที่เครื่องไหน ในวง LAN เราก็ได้) File ที่ได้จากการ Extract จะเป็น File นามสกุล ต่างๆกันไปตามประเภทเลย เช่น File Video ก็จะเป็น MPEG4 เสียงเป็น AC3 เป็นต้น

[Suhanna]

ลองเปิด File ตัวเดิมด้วย MKVmerge GUI (App ใน MKVToolnix) บ้าง ได้ตามรูปข้างล่าง



เห็นเหมือนกันครับ แต่เราสามารถเลือกติ๊กเอา File ที่เราไม่ต้องการออก แล้ว Mux กลับเป็น MKV ตัวใหม่ได้เลย เพื่อลดขนาดให้เล็กลง และมี File เท่าที่จำเป็น นอกจากนี้เวลา Mux กลับเข้าไปใหม่เรายังตั้งชื่อ File (มันจะไปโผล่ในเมนูให้เราเลือก ทั้งใน HTPC และ HDD Player) รวมถึงการ Set Default ภาษาและเสียงเริ่มต้นของหนัง ในกรณีที่ HTPC เราไม่ได้ลง Media Control เพื่อเปลี่ยนเสียง และ เปลี่ยน Sub ได้อีกด้วย

อ้อ ข้อดีอีกอย่างคือ เราสามารถสร้าง Chapter หนังไว้กดเลือก Chapter จากโปรแกรมนี้ได้เลย โดยวิธีทำ เข้าไปใน Global แล้วเลือกเอาครับ ถ้ากำหนดเป็นช่วงๆเท่าๆกันทำได้เลย แต่ถ้าจะเลือกฉาก กำหนดเป็นตอนๆอาจต้องเขียนช่วงเวลาขึ้นมาใหม่ หรือ Import Chapter File จาก DVD ก็ได้

อ้อ ถ้าจะ Mux ใหม่เลือกเอาเฉพาะ File ที่เราต้องการก็ได้ แต่ File ที่ออกมาจะเป็นนามสกุล MKV เท่านั้น (แม้ว่าจะมีแค่ File เสียง AC3 แค่ File เดียวก็ตาม)

ลองเล่นกันแบบเบสิกพื้นๆก่อน ผมจะเอา AC3 ภาษาจีน กับ Vobsub ไทย (ID5) และ Sub ENG ออก ลองดูว่ามันจะลดขนาดลงได้ขนาดไหนเนอะ อิอิ 

[Venom-Crusher]

  สึดยอดดดด

[Suhanna]

จัดการเลือกเอาเครื่องหมายถูกหน้า File ที่ไม่ต้องการออก ตั้งชื่อ File Sub เป็น Thai Subtitle ตั้งชื่อ File AC3 เป็น Thai 5.1 กับ เซ็ท Default เริ่มต้นซะหน่อย จัดการ Mux กลับ คราวนี้ให้ Output มาอยู่ใน New Folder เครื่องที่ผมกำลังพิมพ์อยู่นี่หละ 





โชว์อ่อนของระบบ Network บ้านผม (ที่ต้องปรับปรุง) แค่ Mux พร้อมย้าย File ที่ Mux แล้วเข้าเครื่องทำงานผม เล่นไปสิบกว่านาที (ถ้า File อยู่ในเครื่องอยู่แล้ว หรือ LAN วิ่งเต็ม Gigabit ไม่น่าจะเกิน 80 วิ ตอนนี้ผมใช้ Wireless N300 อยู่ครับ)

เดวมาดูว่า สามารถลดขนาด File ไปได้ขนาดไหนนะครับ



แหะๆ ลงไปได้ เกือบ 400MB โดยยังไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับต้นฉบับเลยครับ อิอิ 

แต่ยังไม่พอครับ Collection หนัง 720P ขนาดต้องประมาณสัก 2.75 GB ครับ ใหญ่กว่านี้เปลือง HDD อ่ะนะ เดวไปทำให้เล็กโดยที่ภาพยังชัดรับได้กันต่อครับ

[Suhanna]

ถ้าจะบีบให้เล็กลง คงต้องใช้ Handbreak หนะครับ อ้อเพิ่ง Version ใหม่ออกมา ผมเพิ่ง Load มาลองเล่นเมื่อตะกี้นี่เองครับ 

ว่าไปผมเลือกตัวอย่างไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หนังเรื่องนี้ใช้ Handbreak เลือกภาษา Sub พร้อมบีบอัดในตัวได้รอบเดียวเลย ข้อเสียมีแค่แต่มันตั้งชื่อ File เสียงกับ Sub ไม่ได้แค่นั้นเอง

ส่วนข้อดี Handbreak มีเยอะครับ ย่อ/ขยายภาพจาก 1080 ให้เป็น 720 ก็ได้ Crop ได้ แปลง MKV เป็น MP4 พร้อมปรับความละเอียดไว้ดูใน iPAD ก็ได้ ข้อเสีย (Version เก่า) มีแค่ มันแปลงเสียงจาก AAC 6 CH หรือ DTS ให้เป็น AC3 (Dollby) ไม่ได้ กับ แปลง Dollby True HD ไม่ได้เท่านั้นเอง (อ้อ มันนาน กับ กินแรงเครื่องหน่อย ด้วย) แต่ Version ใหม่ของผมลองดูก่อน ถ้าได้นี่ ตัวเดียวน่าจะจบนะ แต่ถ้าต้องโม SUB ก็ต้องใช้ Toolnix แยก SUB ออกมาแปลงอยู่ดี อิอิ 

[shikuva]

มาอัพเดทปัญหาของตัวผมเองก่อน
playon มองเห็น network แล้ว เนื่องจากผมตายน้ำตื้นเอง ที่ไม่ยอมดูการสอนทำ login ก่อนเข้าใช้งาน network ก่อน
โดยไปเพิ่ม user ที่ server แล้วทำให้ playon ต้อง login ก่อนทุกครั้ง (ก่อนหน้านี้พยายามทำแบบ ไม่ต้อง login)

เดี๋ยวจะทยอยเพิ่ม addin ของ WHS และลองเล่นกับ program ที่พี่วสุสอนให้ในกระทู้นี้คับ  ^^

แนะนำพี่วสุคับถ้าลากสายเวลาโอนไฟล์จะได้ราวๆ 40M/s เร็วกว่ากันเยอะคับพี่ ^ ^
ทดลองใช้ asus N16 ส่ง wifi ให้ playonHD โดยใช้ตัว wifi ของ playonHD เองที่ตัวสีขาวๆ ไม่มีเสาในตัวนะคับ
ตัวasus n16 มีห้องน้ำกัน คือ 1กำแพง+1กระจก 8mm สัญญาณรับได้หายไป 2 ขีด ไม่สามารถเล่นไฟล์ MKV ได้เลย
แต่เล่นหนังอนิเมชั่นบางเรื่องเข้าใจว่ากันหนังอนิเมชั่นใช้ แบนวิทน้อยกว่า
แต่สามารถดูไฟล์หนัง dvd ISO หรืออื่นๆได้หมด

[Suhanna]

ยินดีด้วยครับ ที่แก้ปัญหาได้แล้ว 

คอมทำงานที่ผมนั่งอยู่มันลากสายแล้วไม่สวยหนะครับ มันเป็นมุมห้อง ส่วน Outlet Lan อยู่อีกมุมนึง มีประตูกั้นอยู่ทั้งสองด้าน มีทางเดียว ต้องเดินขึ้นฝ้าแล้วเดินลงมาที่คอมที่ใช้อยู่อีกทีนึง (คงต้องกรีดกำแพง ทำพร้อมต่อเติมบ้าน กับจัดห้องฟังเพลงใหม่ ประมาณกลางปีทีเดียวเลย) ดูไปดูมา RT-N16 FW ตัวที่ใช้อยู๋ไม่ค่อยเสถียรเท่าไหร่ครับ Dlink น่าจะดีกว่า เทียบกันตัวต่อตัวเลย ดีที่สุดใช้สายอย่างที่คุณ shikuva ว่าหละครับ (แต่สาย Lan แต่ละจุดผมต้องเดินยาวมาก ขึ้นฝ้าหลบคาน (คานผมออกแบบไว้ให้มีรูเดินสาย แล้วตีฝ้าสูงที่สุดติดคาน) พื้นถึงฝ้าบ้านผมประมาณ 2.8 เมตรครับ) ระหว่างจุดมากกว่า 30 เมตร ผมเดินสาย Cat 5 เอาไว้ตอนสร้างบ้าน พอไกลหน่อยมันลงมาเหลือ Lan 100 วิ่งอยู๋แค่ 10 กว่า MB/s เท่านั้น ถ้าเป็นสายสั้นๆสัก 10 กว่าเมตร GigB วิ่งประมาณ 40 MB/s แรงพอๆกับ ต่อ Ext USB HDD เลยครับ ปรับปรุงบ้านปีนี้ โดนเดินสาย Lan ใหม่ทั้งบ้านแน่ๆ 

ปล. ผมใช้ภายในห้องเดียวกัน ใช้ N-15 เป็น AP ต่อสายจาก Switch อีกห้องแล้วถึงลงไป Gateway N-16 ข้างล่าง (Server ต่อตรงกับ N-16 เลย) เต็มทุกขึดครับ ยิงกันได้แค่ 8-11 MB/s เท่านั้นเอง แล้วแต่ความชื้นอากาศ 

อ้อ หลังๆนี้ผมเล่น mede8er มันมี Shortcut ในเมนู Network ใส่ Password หนเดียว อยู่เลยครับ (ผม Fix IP ของ mede8er ไว้ แล้วไป manual DHCP ให้ N-16 แจก ip เบอร์เดียวที่ Fix เอาไว้ตาม MAC ของ Mede8er เนาะ)

[Friday~13rd]

เขามาอัพเดทความรู้ใหม่ๆ ต่อครับ   

[shikuva]

ผมทำตามที่พี่บอกหละคับ ประมาณว่าเหมือน การ map drive ของ computer ประมาณนั้นคับ
ของผมลากสายกันแบบลูกทุ่งเลยคับพี่ โยนออกนอกตัวอาคาร และมีเข้าช่องลิฟของตัวอาคารด้วย
จัดสาย cat 6 ทั้งหมดบ้านไปแล้ว แต่เอผมเคยลอง สาย amp cat5 โยนสายจากห้องนอนผมชั้น 7
มีจุดพักอยู่ ชั้น 4 เป็นหลังคา ^ ^ แล้วทอยสายต่อตรงๆมาชั้น 1 ที่อุปกรณ์ทั้งหลายแหล่กองสุมๆกันอยู่
เดี๋ยวจะถ่ายห้องที่อยู่มาปีกว่าๆแล้วมาให้ชมคับ ว่ารก + สายอะไรโยงไยกันไปหมด 
กำลังเล็วบัวที่มันเก็บสายข้างในได้มีหลายขนาด แต่ราคาก็หลายอยู่ ผมว่าคุ้มกว่ากรีดกำแพงนะพี่
เพราะถ้าต้องบำรุงรักษาหรือรื้อเพื่อเช็คอะไรสะดวกกว่าเยอะ แต่ไม่รู้มีสีกับวัสดุชนิดไหนบ้าง ^ ^

[Suhanna]

แหะๆ นั่งคิดอยู่นานมากครับ สำหรับ ระบบความบันเทิงในบ้านที่จะปรับปรุงใหม่ ลองเล่นอุปกรณ์ก็เยอะ (ยังไม่ได้แตะ Sandy Bridge สักที) ลองเล่น Player เทียบกันระหว่าง HTPC กับ HD Player อยู่นานหลายรอบมาก ในที่สุดตกลงกัน (พ่อแม่ลูก) ว่า จะเล่น HD Player แทน HTPC ทั้งหมด (เหลือ HTPC ไว้จัดการเรื่อง Load Bit เครื่องเดียว (ไว้ฟังเพลงด้วย) อนาคตคงไม่ใช้เลย แต่ใช้ iPAD แทนเนอะ) ข้อดีของ HD Player คือมันเล่นง่าย เล็ก และที่สำคัญมันถูกและคุ้มมากกับคุณภาพที่ได้ (แน่นอน ใส่อะไรไปมันก็ได้แบบนั้น บางคนว่าคุณภาพสู้ BD ไม่ได้ แต่ถ้าเจอ File BD Full Rip เข้าไป ทำ Blind Test รับรองแยกไม่ออกแน่ๆ) ส่วนระบบ Net Work ในบ้านคงไป Gigabit Lan แน่นอน (ล่าสุดผมเทสความเร็ว จาก Atom Server ไป เครื่องที่อยู่ติดกันผ่าน Gigabit Switch อัตราการถ่ายโอนอยู่ 85-70 MB/s เร็วอย่างเทพ USB3 SATA2-3 คงไม่มีความจำเป็นสำหรับผมอีกแล้ว อิอิ

ส่วนเรื่องของเสียง ระหว่าง TrueHD กับ Dolby 5.1 ธรรมดา ผมแยกแทบไม่ออก ต้องนั่งตัวตรงเอียงหูฟังครับ ถึงรู้ (คงแก่แล้วหละ หูเริ่มแยกอะไรไม่ค่อยได้) เลยไม่ซีเรียสแล้ว คงเหลือแค่ระบบฟังเพลง (จริงๆ) อาจต้องใช้ HTPC ที่มีอยู่เพราะเสียงมันต่างกันเยอะครับ (มันขึ้นกับระบบที่เราใช้ด้วย พวกแอมป์ ลำโพง ห้องฟัง กับคุณภาพสื่อที่เราเล่น สุดท้ายคงมีห้องฟังเพลงใหม่ที่จะต่อใหม่อีกห้อง ไว้ทำงานกับฟังเพลงด้วย ง่ายกว่า เพราะกำหนดขนาดห้องใหม่ได้ ทำวัสดุซับเสียงเอง คุ้มกว่าไปลงเครื่องเสียงราคาเป็นล้านๆบนห้องเก่ามาก ทำห้องใหม่ ใช้ชุดฟังเพลงราคาพอควรผมว่าคุ้มกว่า นานๆไป สตางค์เหลือใช้ยัง อัฟเป็นเครื่องดีๆได้ คู่ควรกับห้องเนาะ)