โครงการระยะยาว มากกกกกกกกกกก ของผม อิอิ

[Suhanna]

วันนี้ว่าง เอาวิธีโมหนังเก็บเป็นคอลเลคชั่นไว้ดูเล่นมาฝากครับ (ถ้าได้เล่นเครื่องเสียงมาพอสมควรคงทราบว่า สิ่งสำคัญที่สุดในระบบคือ คนฟัง (ตัวเราเอง) Software (เพลง และ หนัง) รองลงมาคือห้องฟัง ท้ายสุดคงเป็น เครื่องเนาะ เพราะต่อให้เราใช้เครื่องเสียง (ที่เค้าว่า) ดี เพราะ แพง ขนาดไหน ถ้าไม่มีเพลงหรือหนังที่ชอบ (คุณภาพต้องดี) ไว้เสพย์ มันก็เหมือนนั่งดูเครื่องอย่างเดียวหละครับ)

พอดีผมไป Load หนังมาจาก Web ต่างประเทศเรื่องนึงมาแปลงเก็บ เลยเอามาเป็นตัวอย่างซะ (เพราะต้องแปลงเกือบทุกอย่าง) เรื่อง Transporter 1 (ชอบเพราะซูฉีเล่น หน้ายังใสอยู่เลย) ตัวหนังเป็น 720P MP4 ระบบเสียงเป็น ACC 6 CH ไม่มี Subtitle (ปรกติของหนัง Load Web นอกเนาะ) File เล็กประมาณ 2GB เอามาเล่นผ่าน Mede8er ภาพใช้ได้ แต่เสียงผ่านเข้า AVR เป็น Prologic II (ต้องบอกว่าเสียงรับไม่ได้ ทั้งมิติ และ ความดัง ส่วนใหญ่ของเมืองนอกมันเป็นแบบนี้ เพราะ File ACC มันค่อนข้างเล็กครับ) เลยเอามาจัดการซะ อิอิ 

[Suhanna]

เริ่มต้นไป Load เครื่องมือแปลงมาก่อน ผมใช้ HandBrake Win GUI Ver 0.9.5 (ใช้ HB เยอะๆ คิดถึงน้อง Sandy จริงๆ เร็วกว่ากันเยอะมาก) Load ฟรีตามนี้ครับ

http://sourceforge.net/projects/handbrake/files/0.9.5/HandBrake-0.9.5-Win_GUI.exe/download
 
Version ใหม่นี่ มันสามารถดึง File จากต่างเครื่อง (Server) ทำเสร็จเก็บไว้ที่เครื่องไหนก็ได้ในวง LAN เรา สะดวกสำหรับผม มีคอมหลายตัวทำได้พร้อมกันหลายเรื่อง ให้เก็บไว้ใน Folder ที่ Server ไว้ Share ดูกันในบ้านสะดวกดี



เลือกชนิดกับขนาดภาพก่อนครับ  ผมแปลงเป็น MKV (เอาไว้เพิ่ม Sub ได้หลายภาษา ใส่ได้หลายเสียงแต่บ้านผมนิยมเสียง Eng เท่านั้น) ส่วนขนาดภาพผมเลือกเป็น Strict ตามที่มา (ปรับได้ จะแปลง 1080>720 ก็ได้เพื่อลดขนาด) ส่วนตัวผมชอบ 1280x544 (Ratio 2.4) ที่สุดครับ เพราะเอาไปใช้กับ HD Player มัน Zoom ให้เต็มจอได้ หรือจะดูแบบจอยาว ให้ Sub อยู่ใต้หนังตรงแถบว่างๆสีดำในจอก็ได้ แล้วแต่รสนิยม

[Suhanna]

ส่วน ตัว VDO ผมเลือกเป็น H.264 แบบเดียวกันทั้งหมด เวลาเล่นกับ HTPC จะได้ไม่ต้องปรับแต่ง Codec มาก เพื่อคุณภาพ ผมเลือก Encode 2 Pass กำหนด Quality ให้ใกล้เคียงของเดิม (บวกนิดหน่อยเพิ่มให้ File AC3) อยู่ที่ 2 GB ครับ

[Suhanna]

ระบบเสียงดั้งเดิมที่มาเป็น ACC 5.1 ผมแปลงให้เป็น AC3 (Dolby Passthu) ไว้เล่นกับ AVR ถ้าเสียงเดิมมาเป็น DTS ก็แปลงให้เป็น AC3 ได้ครับ ส่วน File อื่นต้องดูว่า กี่ CH ด้วย ถ้าเป็นแค่ 2CH แปลง AC3 ออกมาก็ได้แค่ 2CH (Stereo) เท่านั้น เสร็จแล้วก็รอไปเรื่อยๆ เดินไปทำอย่างอื่นสักชั่วโมงเนาะ หรือ จะเล่น net MSN พิมพ์งานเล่นเหมือนผมตอนนี้ก็ได้ (จอคงไม่ฟ้าเนาะ เครื่อง OC ไม่เสถียรอย่าเล่นนะครับ CPU กับ Ram วิ่ง 100% ร้อนมาก แป๊กระหว่างทางเสียเวลาเนอะ)  บางที OC อยู่ที่ความเร็วสูงมาก ดันดึง HB ได้ช้ากว่าที่ความเร็วต่ำกว่าก็มี แรกๆงงเหมือนกันครับ แต่ตอนหลังพบว่า Config ยังไม่ดีอ่ะนะ ปรับอีกหน่อย ความเร็ว CPU เท่ากัน ทำงานเร็วกว่ากันเยอะ

เครื่องที่(มาตรฐาน)ผมว่าเสถียรควรดึง HandBrake ต่อกันได้สัก 48 ชั่วโมง (โปรแกรมนี้มันเข้าคิวทำได้ แปลงหนัง Series ซักสิบกว่าตอนรวดก็ประมาณนั้น) ถ้าผมเรียกถึกนี่ต้องได้เป็นอาทิตย์ครับ (ใช้แปลงหนังเป็น Collection ทีละเป็นร้อยเรื่องครับ อิอิ เป็นเหตุผลว่าทำไมผมเล่นน้ำ ไม่ใช่สวยอย่างเดียว ใช้งานจริงต้องถึกด้วย ต้องแลกกันกับเสียงดังของปั้มน้ำเนาะ)

[Suhanna]

เอาไปลองดู ผ่าน HD Player คุณภาพใช้ได้สำหรับ File 720P ขนาดไม่ถึง 2 GB



เสียงกระหึ่มตามมาตรฐาน Dolby 5.1 ครับ (ต่างจาก AAC 5.1 เยอะ)



ได้ภาพกับเสียงเรียบร้อย เดวไปจัดการเรื่อง Sub ต่อ

[Venom-Crusher]

ระบบเสียงดั้งเดิมที่มาเป็น ACC 5.1 ผมแปลงให้เป็น AC3 (Dolby Passthu) ไว้เล่นกับ AVR ถ้าเสียงเดิมมาเป็น DTS ก็แปลงให้เป็น AC3 ได้ครับ ส่วน File อื่นต้องดูว่า กี่ CH ด้วย ถ้าเป็นแค่ 2CH แปลง AC3 ออกมาก็ได้แค่ 2CH (Stereo) เท่านั้น เสร็จแล้วก็รอไปเรื่อยๆ เดินไปทำอย่างอื่นสักชั่วโมงเนาะ หรือ จะเล่น net MSN พิมพ์งานเล่นเหมือนผมตอนนี้ก็ได้ (จอคงไม่ฟ้าเนาะ เครื่อง OC ไม่เสถียรอย่าเล่นนะครับ CPU กับ Ram วิ่ง 100% ร้อนมาก แป๊กระหว่างทางเสียเวลาเนอะ)  บางที OC อยู่ที่ความเร็วสูงมาก ดันดึง HB ได้ช้ากว่าที่ความเร็วต่ำกว่าก็มี แรกๆงงเหมือนกันครับ แต่ตอนหลังพบว่า Config ยังไม่ดีอ่ะนะ ปรับอีกหน่อย ความเร็ว CPU เท่ากัน ทำงานเร็วกว่ากันเยอะ

เครื่องที่(มาตรฐาน)ผมว่าเสถียรควรดึง HandBrake ต่อกันได้สัก 48 ชั่วโมง (โปรแกรมนี้มันเข้าคิวทำได้ แปลงหนัง Series ซักสิบกว่าตอนรวดก็ประมาณนั้น) ถ้าผมเรียกถึกนี่ต้องได้เป็นอาทิตย์ครับ (ใช้แปลงหนังเป็น Collection ทีละเป็นร้อยเรื่องครับ อิอิ เป็นเหตุผลว่าทำไมผมเล่นน้ำ ไม่ใช่สวยอย่างเดียว ใช้งานจริงต้องถึกด้วย ต้องแลกกันกับเสียงดังของปั้มน้ำเนาะ)

โหดจริงๆเลยครับแฮนด์อัดกันเป็นอาทิตย์

[Suhanna]

ผมเป็นคนไม่ชอบรอครับท่านน่อม อิอิ 

เวลาไปทำงานที่ฟาร์ม เข้าคิวดึง Hand เรียงเอาไว้เลย กลับมาเสร็จพอดี ถ้ามันแป๊ก หรือ Hank ตอนทำได้สักเรื่องสองเรื่อง ไปทำงานทีหลายวัน กลับมาเสียเวลาทำใหม่ไม่คุ้มครับ 

[Suhanna]

มาต่อเรื่อง Sub Title ดีกว่าครับ ทำ Sub ซะเพลินลืมต่อไปงั้น 

ความจริงหา Sub Thai ไม่ยากครับ มีให้ Load เยอะ แต่ส่วนใหญ่เป็น Vob Sub ที่ Rib มาจาก DVD ข้อเสียของ Vob Sub คือมันเป็น File ภาพมาซ้อนกับ VDO อีกทีนึง ส่วนใหญ่ไม่ชัด ตัวหนังสือปรับใหญ่เล็กไม่ได้ ปรับแต่งข้อความไม่ได้ ปรับตำแหน่ง Sub ให้ไม่บังหนังหรือปรับให้เป็นสีอื่นให้ดูง่ายๆก็ไม่ได้ ผมอยากได้เป็น File Sub Rip (SRT) มาแต่งเองเนาะ หาเอาใน Web ก็มีแต่ต้องเป็นสมาชิก เอา Sub อื่นไปแลก หรือต้องเสียสตางค์ (สมมุติใน Web) อย่ากระนั้นเลย Load Sub English มาแปลเอง เอาไว้แจกดีกว่า อิอิ ไปหาที่นี่เลยครับ

http://subscene.com/

น่าจะมีทุกเรื่องหลายภาษา (ยกเว้นภาษาไทยมีน้อยมาก ทำเสร็จแล้วผมจะ UP ทิ้งไว้ให้ครับ) เวลา Load มาเลือกดู  FSP ให้ตรงกัน จะได้โมน้อยๆหน่อย (โม FSP Sub ก็ทำได้ แต่ไม่จำเป็นต้องทำ เลือกทีเดียวให้ดีประหยัดเวลา)

Load Sub มาได้ ก็ Load เครื่องมือมาจัดการด้วยซะทีเดียว Sub Edit ครับ ฟรีเหมือนเดิมตามนี้ครับ

http://www.nikse.dk/se/

[Suhanna]

ผมเลือก Sub ของเจ้านี้ครับ เพราะ FSP=23.976 มาตรฐานหนังที่ผมมีอยู่



Load เสร็จ แตก File มีมาคู่เลย ใช้แค่ SRT เท่านั้น เอา Sub Edit เปิดเช็คดูกันก่อน



อ่านออกใช้ได้ครับ ลองไปเล่น Syn กับ File ภาพและเสียงว่าเวลาตรงกับเสียงพูดไหม เวลา Merge จะได้ปรับทีเดียว ผมลองเช็คดูแล้ว ชอบให้ Sub มาเร็วขึ้นอีกประมาณ 300 ms จะพอดีเป๊ะครับ อิอิ



ลอง Merge แล้วไปเล่นดู ใช้ได้เนาะ อิอิ

[tpp]

มาอ่านต่อครับพี่

[Suhanna]

ในเมื่อมันเป็นหนังที่จะเก็บ ก็ต้องทำให้ดีหน่อย จะเอา Sub English ก็รู้สึกไงอยู่นะครับ Sub Edit มันมี Function แปลภาษาด้วย เลือกใช้ Translator ได้ว่าจะใช้ Google หรือ MS ฯลฯ (ห่วยเหมือนกันหมด ต้องมาเกลาอีกทีเหมือนกัน) สั้นที่สุดอาจไปหา Sub SRT ไทยใน Web บ้านเราหนะครับ ตามข้างล่าง

http://thaisubtitle.com/manage/subtitle.php

ลองไปดูแล้ว ภาคหนึ่งไม่มีคนทำเนาะ เลยต้องจัดเองซะ หนัง Action ทำง่ายเพราะไม่ค่อยพูดกันเท่าไหร่ จัดการแปลก่อนตามรูปข้างล่าง




เสร็จแล้วเราสามารถแก้ไขได้เอง ระหว่างแก้ไขยังสามารถเทียบกับ ข้อความภาษาเดิมตามรูปข้างล่างได้
งานนี้แล้วแต่ความละเอียดของคนแปลครับ Sub Edit ยังสามารถเล่นหนังพร้อมกับ Sub ที่เราแปลได้ และยังแก้ไขได้อีกด้วย ตามรูปใน Rep บนๆ ผมมั่วเป็นวันครับ สำหรับตอนนี้ อิอิ



พอเสร็จ เวลา Save กลับควรเลือก encoding จาก UTF-8 เป็น ANSI-874 จะได้ใช้โปรแกรมอื่นอ่านออกเป็นภาษาไทยได้ด้วย เป็นอันเสร็จ สำหรับเรื่องนี้ ทำจาก Mpeg-4 เป็น MKV Dolby 5.1 Sub Srt ไทย เปลี่ยนสีได้ ย่อขยาย/เลือก Font ได้ แถมยังปรับตำแหน่ง Sub ในจอได้อีกต่างหาก (HD Player ปรับได้แค่สี กับตำแหน่ง ถ้า HTPC ปรับได้หมด แม้กระทั่งเงาของ Font เข้าไปปรับใน FFD Show หัวข้อ Subtitle)

เดวผมเอาหนังที่ทำเสร็จแล้วดูในคอมมาให้ดูครับ


ทำเสร็จหนังเรื่องนี้มีสอง Sub ครับ เป็น Sub English กับ Sub Thai (แปลมาจาก English)


ถ้าเล่นใน HTPC Sub จะอยู่ในกรอบของหนังเลย แต่ถ้าเล่นบน HD Player ดูแบบนี้ Sub จะอยู่ในแถบสีดำด้านล่าง


ถ้า Zoom ให้ภาพเต็มจอ (1:1.78) Sub จะตัวโตขึ้นด้วย แต่ถ้าเล่นด้วย HD Player จะตัวเท่าเดิม และ อยู่ตำแหน่งเดิม


สามารถเลือก Font ขนาด สีกรอบอักษร สีเงา ตำแหน่งที่แสดงได้สารพัดตามชอบจาก FFD Show ทำกันแบบ Set on The Fly เทียบกันดูจะๆ ว่าชอบแบบไหนได้เลย ข้อดีที่ HTPC ทำได้แต่ HD Player ทำไม่ได้ แต่ไม่แน่เหมือนกันผมยังไม่ได้ลอง Player ตัวใหม่ที่เพื่งได้มาเลย อาจจะทำได้ก็ได้ อิอิ



พอ Zoom ให้เป็น 1:2.4 (BD) ตัวหนังสือเล็กลงซะงั้น อันนี้ HD Player ดีกว่าครับ Zoom แล้วเท่าเดิมตำแหน่งเดิม

จบภาค Sub แล้วครับ เดวไปออกแบบเล่าเต๊งก่อน เสร็จแล้วมาต่อเรื่อง ออกแบบห้องทำงาน กับห้องฟังเพลงใหม่ครับ อิอิ 

[Suhanna]

พักเรื่องหนัง มามั่วเรื่องทำ Office ใหม่ก่อนครับ ที่บ้านผมรับพนักงานใหม่มา ที่ทางเริ่มคับแคบ เลยต้องย้ายตัวเองมานั่งทำงานบนดาดฟ้าหนะครับ ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว นอกเรื่อง เอาเรื่องฮวงจุ้ยที่ทำงานมานำเสนอ (ไม่ต้องเชื่อนะครับ ผมก็ซื้อหนังสือมาอ่านสักห้าหกเล่มได้ (ศึกษามาเป็นสิบปีแล้ว สร้างบ้านมาหลายหลัง) หลังๆนี่เปิด Net กับปุจฉา ส่งภาษามือถามน้องเขยผมเอา (น้องภรรยาผมแต่งกับคนไต้หวัน ตอนแรกบอกว่าทำงานเป็นหมอดู ไหงมันมีสตางค์มาเล่นหุ้นเมืองไทยเยอะหว่า ได้นั่งคุยทีหลังถึงรู้ว่า หมอดูฮวงจุ้ยครับ ทำมาสามชั่วคนแล้ว (ยังกะในหนังจีน) รับจ๊อบบินดูฮวงจุ้ยรอบเอเชีย เลยมาจ๊ะเอ๋น้องภรรยาผมที่เมืองไทยอ่ะนะ) เพิ่งรู้ว่าอาชีพนี้ ถ้าเก่ง รวยมากกกกกกกกกกกกกกกก 

[idirex2000]

รอชมต่อครับพี่

[Suhanna]

เอาฮวงจุ้ยห้องทำงานแบบมั่วๆประสาผมมาเล่ากันเล่นๆ

1.   ห้องทำงาน (ปรกติทุกห้อง) ไม่ควรมีเสาอยู่กลางห้อง จะทำงานหนัก และไม่ได้ผลงานที่ตัวเองทำ (นายแย่งเอาหน้าหมด อันนี้ยอม แต่เวลาขึ้นเงินเดิน แมร่งไม่ขึ้นให้เราอีก ยอมไม่ได้ครับ) ตอนเป็นลูกจ้างทำงานหนักมาก เจอห้องทำงานมีเสาในห้องสามตำแหน่งรวด งานหนักติดกันสิบปี ตอนนั้นไม่เชื่อครับ ตอนหลังนี่เขี้ยวชักยาว ทำ Floor Plan เองจัดห้องตัวเองซะ สบายขึ้นได้มีเวลานั่งคิดจนมีธุรกิจตัวเองนี่หละครับ สำหรับเสาถ้าหนีไม่ออกจริงๆ ให้หันหลังให้เสาครับ

2.   ตำแหน่งตั้งโต๊ะ กับ ทิศตั้งโต๊ะ อันนี้งานละเอียดครับ ขึ้นกับราศีของคนนั่งด้วย ต้องปรึกษาผู้รู้ (จริง) เค้าจะมีเข็มทิศของเค้า แต่จริงๆ ทำได้ยากมากพื้นที่ห้องทำงาน ไม่ได้ใหญ่มาก แต่หลักๆ คือจะหันหน้าไปทางประตูเข้าห้อง แต่โต๊ะต้องไม่ตรงประตู ประตูควรเยื้องมาทางซ้ายเวลาเรามองไปที่กำแพงด้านประตูทางเข้า

3.   หน้าต่าง ขึ้นกับงานที่เราทำถ้าเป็นงานบริหาร ที่ไม่อยู่นิ่งทั้งหลาย เช่น การตลาดลูกน้องเยอะ หันหลังให้หน้าต่าง แต่ต้องดูมุมไม่ให้แดดลงบนโต๊ะ มุขหน้าต่างหลังเก้าอี้ทำงานนี่ Work ครับ ไว้อมรมลูกน้องตอนเช้าประจำ นายจะไม่มาหาตอนเช้าเลย เพราะนั่งคุยกับผมแดดส่องตา(บ่ายผมหายแซปแล้ว ออกเยี่ยมลูกค้า ไม่ก็ประชุม ผมจะไม่รับนัดประชุมเช้า เพราะตอนเช้าคุยกับทีมปรับวิธีการทำงาน บ่ายค่อยประชุมกับนายหรือส่วนอื่น) หลังๆนี่สอนลูกน้องมาก มันจัดห้องแบบผม ก็มีวิธีแก้ คือเรียกมันให้ไปบอกแม่บ้านชงกาแฟให้(ไม่ให้โทรสั่ง) มันกลับมา ผมนั่งเก้าอี้มันคุยกับเจ้าของห้องเป็นอันเสร็จผม แต่ถ้าทำงานใช้ความคิดมากๆ ควรหันหลังให้กำแพงทึบจะสงบและใช้ความคิดได้

ทั้งสองแบบ ควรมีระยะห่างข้างหน้าโต๊ะ(ห้ามหันหน้าชนกำแพง) ยิ่งมากยิ่งดี จะทำให้ความคิดกว้างไกลครับ (ถ้าอายุยังน้อย ตำแหน่งไม่ถึง รออย่างเดียวครับ ขยันๆหน่อย เดวก็ได้เอง) ผมเคยไปพบอธิบดีหรือปลัดกระทรวงอะไรซักอย่าง งงโคตระครับ ห้องทำงานข้าราชการไหง มันใหญ่ปานท้องพระโรง จากประตูห้องถึงโต๊ะทำงานนี่สักสิบห้าเมตรได้มั้ง โล่งเลยเปิดประตูเข้าไปเหมือนตัวเองเป็นมดเลยอ่ะครับ เป็นคนเดียว คนอื่นยังไม่ขนาดนี้ ขนาดห้องท่านผู้พิพากษา อัยการสูงสุด ยังไม่ถึงครึ่งห้องท่านนั้นเลย 

[Suhanna]

4.   ทางเข้าออกเก้าอี้ทำงาน ควรเข้าออกด้านซ้ายมือจากท่านั่งทำงาน (จะทำให้อยู่ได้ทน ทำงานไม่อึดอัด อยู่ทน) เป็นเหตุผลที่คล้องจองกับตั้งโต๊ะเยื้องประตูด้านซ้าย จะเดินเข้าโต๊ะด้านซ้ายเหมือนกัน ด้านขวามือ(กรณีโต๊ะรูปตัว L) ให้วางของมีค่า เช่น ตู้เซฟ หรือถ้าไม่มีวางเป็นคอมก็ได้ครับ จะค้าขายได้สตางค์ ส่วนโต๊ะทำงานหลักการเค้าจะแบ่งเป็นส่วนๆ รายละเอียดผมจำไม่ได้แล้ว แต่ควรวางรูปครอบครัวหรือแฟนไว้มุมโต๊ะด้านขวามือ จะทำให้ครอบครัวแข็งแรงอบอุ่น มีเวลากลับบ้านเร็วไปหาครอบครัว มุขนี้ผมใช้กับภรรยาเนาะ เคยไปเป็น ผจก ภาคเหนือ วันแรกที่ย้ายไป ภรรยาไปหาที่ Office (แหะๆ ไปดูลูกน้องผู้หญิงผมครับ สายลับบอกว่า สาวๆสเปคผมเยอะมาก)  รุ่งขึ้นเอารูปแต่งงานอย่างใหญ่จะไปติดหลังโต๊ะทำงานผม อ้างว่าบ้านใหม่ย้ายมาไม่มีที่ติด สุดท้ายต้องรีบให้ลูกน้องเอารูปในหลวงไปติดก่อน (เห็นรูปแต่งงานผมกองที่บ้านตอนเย็น โทรสั่งเด็กตอนสามทุ่มเลย) สุดท้ายยอมครับ อิอิ ไม่กล้ายกรูปท่านออก ผมตามด้วยเกร็ดฮวงจุ้ย เอารูปเล็กๆ (ตอนนั้นยังไม่มีลูก) วางบนโต๊ะหันหน้าเข้าหาตัว รอดตัวไปครับ

5.   ตำแหน่งที่นั่งทำงาน ควรหันไปทางประตูทางเข้าหน้าบ้าน หรือ หน้า Office จะเห็นลูกค้า ทำงานไม่ติดขัด มีงานเข้ามาเยอะ ได้สตางค์ครับ

ยังมีอื่นๆอีกมากมาย แต่หลักใหญ่ๆจำเป็นจริงๆคงมีแค่นี้ครับ เอามาเล่าสู่กันฟังขำๆครับ