โครงการ (สร้างความหายนะทางการเงิน) ใหม่ของผม คริ คริ

[dq-pb]

อยากหาเอาไปไว้วิ่งเล่นตามไร่นาเวลากลับบ้านนะครับ

[Suhanna]

ผมมีอยู่คัน เป็นรถไฟฟ้า Tamiya 1/10 ล้อโตมาก สองมอเตอร์ แรงดี จอดเฉยๆสูงสักฟุตกว่าๆมั้ง ไม่แน่ใจว่ายังมี Body อยู่ไหม ตอนนี้รถเป็นชิ้นส่วนอยู่ในลิ้นชักที่บ้านบางนา (ครบทุกชิ้นครับ) ถ้าสนใจเล่นอีกสักเดือนสองเดือน ผมไปที่บางนาจะเอามาให้ลองเล่นครับ มีวิทยุครบ แต่แบตต้องไปหาเอาเองนะครับ 

[Suhanna]

เปิดกล่องรถสายพาน TA05 (ผมเข้าใจว่า เป็นรถล๊อตแรก ที่เข้าเมืองไทยปี 2005 ดูจาก Tamiya News ที่เค้าใส่มาให้ในกล่องด้วย) ตอนนี้ มันออก Version สองไปแล้ว เอาปีกนก กับชุดแข่งของ 416 มาใส่



เปิดดูโครงรถ ยังประกอบไม่เสร็จเลยครับ แต่ Option บางชิ้นมาด้วย (ตอนนั้น ชุดแต่งยังไม่ออกมาขายเลย)



เห็นแล้วใจชื้นครับ น๊อตเดิมเปลี่ยนมาเป็นน๊อตไททาเนียมหมดแล้ว แถมยังโมใส่พัดลมเป่ามอเตอร์ทำเองเรียบร้อย (ไม่ผิดกติกาเนาะ เพราะ ทำตัวยึดพัดลมเอง จาก Body พลาสติก Tamiya) เล็งดูดีๆ ใส่ Servo แล้ว เหลือแค่ Speed Control กับ มอเตอร์ (ถ้าจะแข่ง ต้องไปซื้อรุ่นที่เค้ากำหนด) เล็งดูดี อ้าว ผมเปลี่ยนปีกนก กับชุดช่วงล่างเป็นของ 416 ไปแล้วด้วย แบบนี้ขาดแค่ชุดแต่งระบบขับเคลื่อนอีกสองสามชิ้นแข่งได้เลย (เอาไปตามดู 417 เค้าวิ่งกัน)



เครื่องมือพร้อม อะไหล่มี สิบนาที เป็นตัว ใส่ Speed กับ มอเตอร์วิ่งได้เลย อิอิ  ในถุงเป็นของติด Kit มาครับ  ผมเปลี่ยนเอาปีกนกใหม่ใส่ (เข้าใจว่าตอนนั้นมันเพิ่งออก ล๊อตแรกเหมือนกัน) แหะๆ อย่างน้อย TB03 ยังไม่มา ก็มีรถสายพานไว้เล่น Touring แล้ว 

ขาดแต่ Setting Board สำหรับ Set มุมช่วงล่างหน่อย อยู่ที่บ้านบางนา ไว้ว่างๆค่อยแวะไปเอาก็ได้ครับ อิอิ 

[tpp]

เมื่อวานก็ไปโดนรถบังคับคันเล็กๆให้เจ้าตัวจิ๊วของผมบ้างครับ คันที่สามแล้วแต่เป็นแบบถูกๆครับ อิอิ 

[Suhanna]

เริ่มรู้สึกว่าคิดผิดตั้งแต่หยิบกล่องรถ Touring มาจากฟาร์มแล้วครับ ที่เอามาเป็นรถสายพานรุ่นเก่า ตอนนี้รถสายพานตัวแข่งโรงงานรุ่นใหม่ของ Tamiya TRF 417 ราคาตั้ง 19K ไม่รวมอุปกรณ์และ Body ผมดันไม่เอา (เพราะชอบรถเพลาเป็นการส่วนตัว ทั้งๆที่รู้ว่าทำยังไงมันก็สู้รถสายพานในสนามไม่ได้) ไปซื้อรถเพลาของ Tamiya TB03 มาเล่นเพราะเห็นชุดแต่งตัวนึงตอนนี้ทำมาขายแล้ว (ตอนผมเล่น ผมพยายามจะทำเอง โมเอง ทำไม่ได้) ตัวแต่งโรงงาน (แต่งมาพอควรเป็นรุ่น R) ขายอยู่ประมาณ 9K ผมดันไปชอบ Body Mazda เลยจัดตัวธรรมดามาแต่งเอง (แต่งสุดๆ) รู้ตัวอีกที Touring ตัวนี้ Chassis ยังเป็นพลาสติกอยู่เลย ค่าตัวเกือบถึงหลัก 30K ไปแล้ว หนักไปกว่านั้น หันมาดูอีกที ใช้ของที่มากับ Kit 7.5K อยู่แค่เพลากลางท่อนเดียว กับ บอดี้ เท่านั้นเอง ของเหลือซื้อเพลาอีกท่อน ได้รถอีกคันแล้วหนะนะ 

รอบนี้ นั่งเล็งช่วงล่างแล้ว เปลี่ยนกับ Set ช่วงล่างใหม่หมด เอารูปมาให้ดูขำๆนะครับ ที่เห็นเป็นหมอนรองปีกนก คันนึงใช้สี่อัน แต่เปลี่ยนได้เพื่อเพื่ม โทอิน เอาท์ เพิ่มลดความกว้างของตัวรถ เช็ค Setting แล้วต้องซื้อเพิ่มอีก 5 อัน (เอาไว้เปลี่ยนตามสภาพสนามเนอะ) อันเดียวสี่ร้อยกว่าบาท



ของที่ซื้อใหม่ยังไม่มา ที่เมืองไทยขาดเบอร์ที่ผมต้องการไปสองชิ้น สั่งฮ่องกงอีกแล้ว 

เอาเฉพาะหมอน ที่มีเริ่มเล่นมาให้ดูครับ เฉพาะหมอนบนโต๊ะนี่ 23 อัน คิดเป็นเงินก็เกิน 10K ไปเรียบร้อย แต่โชคดีเป็นของที่ซื้อตั้งแต่เล่นรอบที่แล้วทั้งหมด ของใหม่ต้องซื้อเพิ่มแค่ ห้าอัน

[tpp]

ดูไปดูมานี่ หนักกว่าเคสน้ำอีกมั๊งครับเนี่ย 

[Suhanna]

รอบนี้ดูแล้ว ไม่เยอะครับ เสียหายมาก่อนหน้านี้เยอะแล้ว 

เล่นรถบังคับ กับ เล่นคอม รถบังคับเสียหายกว่าเยอะมากครับ เพื่อนๆที่เล่นกันระดับแข่งขัน มีแต่เป็นเจ้าของกิจการเองทั้งนั้น แหะๆ ไม่อยากบอกว่า รอบที่แล้วผมมีรถไฟฟ้า น้ำมัน เสกลต่างๆ รถถัง หัวรถลาก รวมกันสัก 30 กว่าคันได้ ตัวแข่งทางเรียบ ไฟฟ้า น้ำมัน มีสี่ห้าตัว อะไหล่อีกเพียบ เสียหายรวมๆกันเฉพาะรถ เจ็ดหลักครับ ไม่นับรวมอุปกรณ์สิ้นเปลืองพวกเครื่องแข่ง มอเตอร์ วิทยุ ยางน้ำมัน แบ๊ต เครื่องวัดต่างๆ อีกพอๆกับราคารถเนาะ อิอิ

ผมเลิกเพราะมาดูแลลูก ตอนนี้ลูกโตแล้ว เลยอยากเล่นใหม่ แต่คงเล่นไม่มากเหมือนเดิมแล้วเพราะตอนนี้งานค่อนข้างมากครับ 

[Venom-Crusher]

7หลัก 

[Suhanna]

แหะๆ ไหนๆเสียค่าเล่าเรียนไปเยอะแล้ว ขออนุญาตท่านน่อม เอาวิธี Set ช่วงล่างรถบังคับไฟฟ้า Touring มาปะไว้ในบอร์ดนี้ละกันครับ เพราะตอนผมเล่น หาคนเข้าใจเรื่องช่วงล่างได้น้อยมาก ที่รู้เค้าก็ไม่เขียนเนาะ (แบบว่าหวงวิชา) ไว้เป็นความรู้เล็กน้อย เอาไปใช้แต่งรถใหญ่ได้ครับ (แต่รถใหญ่มันปรับได้น้อยกว่ารถบังคับมากเนาะ) 

ทำไมผมลงทุนกับหมอนรองปีกนกเยอะมาก เพราะมันเป็นจุดเริ่มต้นของการ Set ช่วงล่าง เอารูปแบบ พื้นฐานมาให้ดู



ถ้าเล็งดึๆแล้ว เราสามารถปรับปีกนกได้ทั้งสามมิติ ปรับความกว้างระหว่างล้อ (Wheel Tread) ใช้เปลี่ยนหมอนที่แคบหรือกว้างขึ้น, ระยะห่างระหว่างล้อหน้าแล้วหลัง (Wheel Base) ก็สลับบู๊ทหนุนแกนปีกนกสีน้ำเงิน ตัวปีกนกจะเลื่อนขึ้นหรือลงได้ WB ก็จะเปลี่ยนไปด้วย สามารถปรับ Toe ได้โดยใช้หมอนที่ระยะห่างไม่เท่ากัน (ดูจากชุดล้อหลัง เป็น Toe in เพราะหมอนตัวบนสั้นกว่าหมอนตัวล่าง) ส่วนมุมเท่าไหร่นั้น แล้วแต่เราเลือกคู่ของหมอนครับ



หนักไปกว่านั้น เราสามารถปรับมมของปีกนกที่ทำกับพื้นดินได้โดยการใช้หมอนที่สูงไม่เท่ากัน หรือรอง Spacer ใต้หมอนได้ มุมปีกนกมีความสำคัญกับการถ่ายน้ำหนักรถเวลาออกตัว หรือจั๊ม (จากหน้าไปหลัง หรือหลังไปหน้า แล้วแต่มุมที่เรา Set)  สังเกตุจากรถบักกี้ มุมปีกนกหน้าจะเงยมาเห็นชัด เวลาลงจากจั๊ม ปีกนกจะยุบเข้าหาตัวรถ เพิ่มแรงกดที่ล้อหลัง ทำให้ออกตัวได้ดีขึ้นครับ 

[Suhanna]

นอกจากนี้ การรองหมอนปีกนกจะช่วยปรับความสูงของรถได้ (Ride High จะ Load เตี้ย หรือยกสูง) โดยที่มุมปีกนกและ ส่วนอื่นๆไม่เปลี่ยน (จะปรับที่สปริงก็ได้ แต่ยาวครับ มุมทั้งหลายมันจะเปลี่ยนไปหมด รวมถึงความกว้างระหว่างล้อด้วย ยิ่งทำให้สูงขึ้น ต้อง Pre-Stress สปริง หรือ เปลี่ยนความยาวของสปริง คราวนี้ลามไปถึงต้อง Set โช๊คใหม่ ให้ความหนืดเหมาะสมกับสปริงอีกด้วย) 

[HuGnOi]

มึนเลยครับ7หลัก
เฉพาะเซ็ทใหม่ที่เล่น5หลักกลางๆไปแล้วมั้งครับ

รอชมต่อดีกว่า

[Suhanna]

รอบนี้ไม่เยอะแน่ๆ ครับคุณเปิ้ล ห้าหลักกลางๆ ครบหมด กับ รถแข่งสองตัว รถซ้อมสองตัว อุปกรณ์อะไหล่ Pit Tool พร้อมไม่เกินนี้ เพราะจัดงบไว้เท่านั้นจริงๆ 

มาดูวิธีจัดการ Caster ล้อหน้าดีกว่า Caster คือมุมที่แกนล้อทำกับแนวตั้งฉากของปีกนก (แต่มุม Caster จริงๆต้องนับรวมองศาของปีกนกที่เรา Set ด้วย)





Hub ตัวนี้ Caster 4 องศาครับ รถไฟฟ้าปรับได้ต้องเปลี่ยน Hub  (ซื้อเพิ่ม) ถ้าเป็นรถน้ำมัน ปรับเลื่อนเอาที่ปีกนกบนครับ แต่มีข้อเสียที่ Hub จะหนัก ต้องมีแท่นตั้งศูนย์ ตั้งมุมล้อด้วย ไฟฟ้าไม่ต้องวัดครับ  แค่เปลี่ยนก็เสร็จแล้ว


ที่เห็นตัว C-Hub หรือ ภาษาอู่เค้าเรียกคอม้า จะทำมุมกับตัวปีกนกอยู่ครับ มีผลเวลาเลี้ยว ยิ่ง Caster มากเวลาเลี้ยว น้ำหนักจะถ่ายจากล้อหน้าไปล้อหลัง แปรผันตามมุมของ Caster เอง   มุม Caster มีผลทำให้ถ่ายน้ำหนักไปล้อหลัง เสมือนว่าท้ายหนักขึ้น เกาะขึ้น ท้ายไม่ค่อยปัด ขับง่าย และนิ่งครับ Caster จะไม่มีผลเวลาวิ่งทางตรงเท่าไหร่

มุม Caster ที่มากเลี้ยวนิ่งจริง แต่จะเลี้ยวไม่ค่อยคมเท่าไหร่ เพราะน้ำหนักไปอยู่ล้อหลัง ล้อหน้าเบาเลยไม่ค่อยจะเกาะเท่าไหร่ รถพลิกตัวช้า เสียเปรียบในโค้งคู่หลายโค้งติดกันครับ ถ้าเป็นสนาม High Speed โค้งกว้าง ความเร็วสูงจะ Set มุมนี้ไว้มากหน่อย ส่วนสนามเทคนิค พวกโค้งความเร็วต่ำมีหลายโค้งติดๆกัน จะ Set มุมนี้ไว้น้อยหน่อยครับ

ว่าไปแล้วเจ็บใจตัวเอง List ของแต่งใน Excel ไว้ครบแล้ว พิมพฺ์ออกมา Fax ให้เค้าจัดอะไหล่ให้ ดัน Hide C Hub ตัวที่จะใช้แข่งไว้ ส่งไม่ครบครับ จริงๆตัวนี้เมืองไทยถูกมาก เพราะพังบ่อย อะไหล่รอบนี้เลยมาไม่ครบเลย เมื่อคืนเลยต้องสั่งฮ่องกงซะ มาพร้อม มอเตอร์กับ Speed ชุด Touring ครับ

[dq-pb]

ผมมีอยู่คัน เป็นรถไฟฟ้า Tamiya 1/10 ล้อโตมาก สองมอเตอร์ แรงดี จอดเฉยๆสูงสักฟุตกว่าๆมั้ง ไม่แน่ใจว่ายังมี Body อยู่ไหม ตอนนี้รถเป็นชิ้นส่วนอยู่ในลิ้นชักที่บ้านบางนา (ครบทุกชิ้นครับ) ถ้าสนใจเล่นอีกสักเดือนสองเดือน ผมไปที่บางนาจะเอามาให้ลองเล่นครับ มีวิทยุครบ แต่แบตต้องไปหาเอาเองนะครับ 

น่าสนใจครับ ขอบคุณล่วงหน้าก่อนเลยดีกว่า อิอิ

[Suhanna]

ตัว Hub ล้อหลังไม่มีอะไรให้ตั้งมากนักครับ สามารถเปลี่ยน Hub เพื่อเพิ่มลด Toe ได้ด้วย (ก่อนมีระบบหมอน) หลังจากผมเล่นหมอนรองปีกนกแล้ว ผมใช้แค่ 0 องศาเป็นพื้น HUB ตัวในรูปจะเพิ่ม Toe in อีกหนึ่งองศาครับ





เพิ่ม Toe in ล้อหลังมากๆ รถจะนิ่ง ขับง่าย ท้ายไม่ปัด แต่เสียตรงที่ความเร็วทางตรงจะลดลง เพราะสองล้อมันเอาแรงมอเตอร์หมุนเข้าหากันส่วนหนึ่ง แทนที่จะเอาแรงทั้งหมดไปดันให้รถวิ่งไปข้างหน้าทั้งหมดเนาะ 

[Suhanna]

รถทัวริ่งพร้อมของแต่งกำลังเดินทางมาครับ (แต่ขาด C Hub หน้าไปชุดนึง) เลยเอา F104 น่าจะแข่งได้แล้ว (ทำไปเนี่ย เสปคยังสู้รุ่นโปรไม่ได้เลย ขาด เคฟล่าตัวบน กับ ตัวล่าง (ถ้าซื้อเฉพาะสองตัวนี้อีกสามพันกว่าบาท ผมชั่งดูแล้ว น้ำหนักน่าจะพอดี เลยไม่ใส่อะครับ ประหยัดไป)  มาให้ดูกัน (ยังไม่ได้แข่งเลย แค่ได้ทำรถ เลือกสีที่จะทำรถก็สนุกแล้วครับ อิอิ )



ผมใช้ Body เดิมของ F103 มาแปลงครอบไปก่อน เจาะรูเพิ่มเพียบครับ รู F104 ไม่ตรงกันกับ F103 ต้องเจาะรูสำหรับ ตัวนับรอบ จับเวลาด้วยอ่ะครับ มี Body สำรองอีกสอง (ไว้แข่งจริงตัวนึง ทำสวยไว้ตั้งโชว์อีกตัวนึง)





ยังไม่ได้เปลี่ยนเพลา คาร์บอนครับ (จะมาพร้อม ทัวริ่ง วันนี้) ลองชั่งดูทั้งตัว (Body F103 รวม Transponder) พอดีตามกติกาเป๊ะ (ต้องเผื่อยางสึกด้วยเนอะ) แต่ Body F104 หนักกว่า F103 เล็กน้อย เปลี่ยนเพลาคาร์บอนคงพอดี

ถือว่า F104 เป็นรถถังเลยครับ แข็งแรงและหนักมาก รวม Body และอุปกรณ์อยู่ที่ 1150g พอดี ส่วน F103 ตัวเดิมที่ผมเคยใช้แข่ง ชั่งเท่าไหร่ก็ไม่เคยเกิน 1000g ร้อนต้องไปหาตะกั่วถ่วงยางมาปะ ทำน้ำหนักเนาะ (ขนาดใช้ถ่านไนแคท 2400 หนักกว่า ลิโพที่ใช้กับ F104 อยู่ร้อยกว่ากรัมเนอะ) แหะๆ