ซีเกท เทคโนโลยี บริษัทผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์และโซลูชัน สำหรับจัดเก็บข้อมูล ประกาศเข้าควบรวมกิจการ ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ในส่วนอุตสาหกรรมผลิตอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล ส่งผลให้ซีเกทสามารถนำเทคโนโลยี และสิทธิบัตรต่างๆ ที่ซัมซุงมี ไปใช้ในอนาคต รวมถึงนำฮาร์ดดิสก์ซีเกท เข้าไปใช้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดของซัมซุง ด้วยมูลค่ารวม 1.4 พันล้าน
หลังการประกาศข้อตกลงนี้ ทั้งสองบริษัทสามารถวางแนวทางและแผนงานเชิงกลยุทธ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต นำผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น และวางตำแหน่งของทั้งสองบริษัทเพื่อได้รับโอกาสที่เกิดขึ้นใหม่ ๆ ในตลาด รวมถึงตลาดคอมพิวเตอร์พกพา (mobile computing) คลาวด์ คอมพิวติง (cloud computing) และการจัดเก็บข้อมูลแบบโซลิดสเตท (solid state storage)
โดยมูลค่ารวมของธุรกรรมและข้อตกลงเหล่านี้อยู่ที่ประมาณ 1,375 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายใต้เงื่อนไขต่าง ๆ ของข้อตกลง ซัมซุงจะได้รับค่าตอบแทนร้อยละ 50 เป็นหุ้นสามัญของซีเกท และอีกร้อยละ 50 เป็นเงินสด เมื่อข้อตกลงนี้เสร็จสมบูรณ์ ซัมซุงจะได้รับหุ้นสามัญของซีเกทมูลค่า 687.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (45.2 ล้านหุ้น หรือการมีหุ้นในซีเกทประมาณ 9.6% จากราคาหุ้นของซีเกทเฉลี่ยในช่วง 30 วันก่อนที่จะมีการลงนามในข้อตกลง) และจะได้รับเงินสดจำนวน 687.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ซัมซุงจะมีสิทธิ์ในการแต่งตั้งผู้แทนเพื่อเข้าร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารของ ซีเกทหลังจากข้อตกลงนี้เสร็จสมบูรณ์
นายสตีฟ ลุคโซ่ ประธานกรรมการ ประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของ ซีเกท กล่าวว่า การเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์กับซัมซุงในแนวทางที่ช่วยส่งเสริมให้ทั้งสองบริษัทสามารถพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ได้ดียิ่งขึ้น จะช่วยให้สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ได้จำนวนมากขึ้นและจัดส่งนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์และโซลูชันสำหรับจัดเก็บข้อมูลที่มีความหลากหลายมากขึ้นไปยังลูกค้า
ขณะเดียวกันเชื่อว่าข้อตกลงครั้งนี้จะส่งผลต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นที่ยังไม่ได้รับการรับรองทางด้านบัญชี และกระแสเงินสดภายในระยะเวลาหนึ่งปีเต็มหลังจากข้อตกลงนี้เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งซีเกทให้คำมั่นว่าจะไม่มีค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้าง และอื่นๆ จากธุรกรรมและข้อตกลงเหล่านี้
“การนำคุณค่าไปยังท้องตลาดและผู้บริโภคเป็นเป้าหมายที่สำคัญของข้อตกลงที่ประกาศในวันนี้ ซัมซุงรอคอยที่จะขยายขอบข่ายความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์ที่มีอยู่ในปัจจุบันกับซีเกท เพื่อจัดส่งโซลูชันเทคโนโลยีที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สำหรับผู้บริโภค ธุรกิจและระบบปฏิบัติการของอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลาย” นายโอ-ฮยอน ควอน ประธานธุรกิจเซมิคอนดัคเตอร์ของซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ กล่าว
นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยขยายตลาดให้แก่ซีเกทอย่างมหาศาลในการเข้าถึงลูกค้าในประเทศจีนและภาคพื้นเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ และยังเอื้ออำนวยให้ซีเกทมีแหล่งของแนนแฟลชระดับชั้นนำที่สำคัญ ในขณะที่บริษัทขยายไปยังการนำเสนอผลิตภัณฑ์เอสเอสดีและโซลิดสเตทไฮบริด ตลอดจนวางตำแหน่งซีเกทให้เป็นผู้ผลิตดิสก์ไดรฟ์รายใหญ่สำหรับซัมซุง
เบื้องต้นทางซีเกทคาดว่าข้อตกลงเหล่านี้จะเสร็จสมบูรณ์ภายในช่วงสิ้นปีปฏิทิน พ.ศ. 2554 นี้
ก่อนหน้านี้ซีเกทเคยประกาศความร่วมมือกับทางซัมซุงในการนำเทคโนโลยีแนนแฟลชของซัมซุงเข้าไปใช้ในการผลิต เอสเอสดี ของซีเกท ซึ่งไอดีซี เคยระบุมูลค่าของตลาด เอสเอสดี ไว้เมื่อปลายปีที่ผ่านมาว่า ในกลุ่มธุรกิจองค์กรตลาดของเอสเอสดีมีมูลค่าราว 850 ล้านเหรียญ ขณะที่ฝั่งคอนซูเมอร์มีมูลค่าสูงถึง 1.3 พันล้านเหรียญ
Jeff Janukowicz นักวิเคราะห์ จาก ไอดีซี ให้ข้อมูลเพิ่มว่า ตลาดรวมของธุรกิจ เอสเอสดี ในปี 2011 คาดว่าในฝั่งกลุ่มธุรกิจองค์กร จะมีมูลค่าสูงขึ้นเป็น 1.8 พันล้าน ขณะที่ฝั่งคอนซูเมอร์เองก็จะสูงขึ้นเป็น 2 พันล้านเหรียญ ภายในสิ้นปีนี้
จากการเติบโตของตลาดดังกล่าวจึงกลายเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ซีเกทเข้าควบรวมกิจการกับทางซัมซุง และส่งผลให้เหลือผู้เล่นรายหลักในตลาดฮาร์ดดิสก์และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเพียง 3 ราย ได้แก่ ซีเกท เวสเทิร์น ดิจิตอล ที่เพิ่งมีการประกาศซื้อกิจการของฮิตาชิ ดาต้าซิสเตมส์ และสุดท้ายคือ โตชิบา
จอห์น เว็บสเตอร์ หุ้นส่วนใหญ่ บริษัทวิจัย อีแวลูเอชัน กรุ๊ป มองถึงส่วนแบ่งในธุรกิจอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลว่า ยักษ์ใหญ่ 2 บริษัทจะแย่งส่วนแบ่งกัน รวมแล้วสูงถึง 90% ในขณะที่โตชิบาจะเหลือพื้นที่สำหรับทำตลาดเฉพาะกลุ่มเพียง 10% เท่านั้น
manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9540000048964
ผมจำได้ว่าผมเพิ่งลงข่าวที่ว่า western ซื้อ hitachi มาเมื่อไม่นานนี้ ตอนนี้ seagate ก็ซื้อ Samsung อีก เฮ้อ อีกหน่อยคงเหลืออยู่สองยี่ห้อ ประมาณว่า intel กะ amd อิอิกำ