ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
(ส่งอีเมล์ยืนยัน?)
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
24 พฤศจิกายน 2024, 16:03:10
หน้าแรก webboard
หน้าเว็บ
ช่วยเหลือ
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ข่าว
:
สมาชิกเก่าและผู้มาใหม่ ทำการสมัครสมาชิกใหม่ได้ที่นี่เลยครับ Click!!!
Vmodtech.com
>
กระดานสาระบันเทิงแห่ง Vmodtech
>
เรื่องทั่วๆไป
>
'มิสเตอร์แอร์พอร์ตลิงก์' ปรากฏการณ์พลิกตำรา 'พรีเซ็นเตอร์' แบบไทยๆ
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: 'มิสเตอร์แอร์พอร์ตลิงก์' ปรากฏการณ์พลิกตำรา 'พรีเซ็นเตอร์' แบบไทยๆ (อ่าน 2695 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Venom-Crusher
สมาชิกกลุ่ม ยสตน.
Vmodtech Member
ออฟไลน์
กระทู้: 15962
I'm Stand Between Hell and Earth.
'มิสเตอร์แอร์พอร์ตลิงก์' ปรากฏการณ์พลิกตำรา 'พรีเซ็นเตอร์' แบบไทยๆ
«
เมื่อ:
26 กันยายน 2011, 09:11:21 »
อ้างถึง
คำว่า 'เหนือความคาดหมาย' อาจจะดูไม่เพียงพอเสียแล้วกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่บริษัท รถไฟฟ้า รฟท. จำกัด
เพราะทันทีที่ กิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมจรดปากกาแต่งตั้งเลขานุการของตัวเอง 'วัน อยู่บำรุง' มารับตำแหน่งมิสเตอร์แอร์พอร์ตลิงก์ หรือทำหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (แอร์พอร์ต เรล ลิงก์) เพื่อการประสานการแก้ไขปัญหาต่างๆ ในด้านการบริการให้สมบูรณ์ เช่น เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก อย่างการเพิ่มจุดเข้า-ออกที่สถานีมักกะสัน จัดระบบจราจร ปรับภูมิทัศน์ ทำทางเดินเชื่อมรถไฟฟ้าใต้ดิน จัดรถกอล์ฟรับส่งผู้โดยสารภายในสถานี ฯลฯ แถมผลิตโลโก้ออกมาอย่างเป็นกิจจะลักษณะ โดยการนำรูปของ ‘วัน อยู่บำรุง’ มาทำเป็นตัวการ์ตูนใส่สีเสื้อแดงชี้นิ้วไปตามเส้นทางรถไฟฟ้า แค่นี้ก็เรียกเสียงฮือฮาจากประชาชนได้อย่างอื้ออึงแล้ว
เพราะอย่างที่ทราบกันถ้วนหน้าว่า อดีตร้อยตำรวจตรีแห่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติผู้นี้ มีภาพลักษณ์ทางสังคมที่ไม่ค่อยสู้ดีเท่าใดนัก เพราะไหนจะเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้อย่างการเป็นบุตรชายของ ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี แล้วต้องมาเจอกับพฤติกรรมในอดีตที่คอยหลอกหลอนเต็มไปหมด ทั้งเรื่องการทะเลาะวิวาทนับครั้งไม่ถ้วน จนนำมาสู่วลีสุดฮิตอย่าง 'รู้ไหม กูลูกใคร?' หรือแม้แต่ชนักติดหลังเรื่องการถอดยศ จากกรณีใช้การใบทหาร สด.43 ปลอมเข้ารับราชการตำรวจ
กรณีแค่นี้ก็ทำเอาหลายคนอดห่วงว่า สรุปแล้วลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของขุนพลฝั่งธนฯ จะไปรอดกับภารกิจที่ได้รับหรือไม่ เพราะแม้ภาพลักษณ์เหล่านี้จะไม่มีผลทางด้านการเมืองสักเท่าไหร่ เนื่องจากรู้กันอยู่แล้วว่าภาพดี-ไม่ดีไม่เกี่ยวขอให้มีเส้นดีๆ ก็เป็นนักการเมืองได้ แต่สำหรับการเป็นพรีเซ็นเตอร์นั้นต่างกันราวฟ้ากับดิน แถมต้องยอมรับแม้เขาจะเคยมีประสบการณ์จากการเป็นพรีเซ็นเตอร์ส้วม หรือมิสเตอร์แฮปปี้ทอยเล็ต เมื่อปี 2551 มาก่อน
แต่สำหรับกรณีนี้ก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว
เพราะถ้าจำกันได้ กรณีส้วมนั้นถือเป็นโครงการใหม่เอี่ยม ที่แม้จะเคยพูดถึงมาบ้าง แต่ก็ไม่เคยนำมาใช้จริงๆ แต่กับแอร์พอร์ตลิงก์แล้ว ถ้าว่ากันตามสถานการณ์ปัจจุบัน ก็ถือว่ามีสภาพไม่ต่างกับตัวพรีเซ็นเตอร์เท่าใดนัก ก็คือ ‘ร่อแร่เต็มที’ เพราะฉะนั้นเมื่อบุคคลที่มีภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต้องมาเผชิญกับองค์กรที่มีภาพลักษณ์แย่ แค่คิดก็หนาวไปถึงไหนต่อไหนแล้ว!!!
[1]
บอกแบบนี้ไปหลายคนอาจจะไม่เชื่อว่า มันมีผลจริงๆ คราวนี้ก็เลยถือโอกาสไปตระเวนพูดคุยกับบรรดาผู้ใช้บริการแอร์พอร์ตลิงก์กันเลยดีกว่า เพื่อจะได้เห็นกันแบบชัดๆ ไปเลย
สาวคนแรกที่ไปคุยด้วยก็คือ วรรณธิดา เพ็ชรเกิด ที่ได้ความเห็นว่า แแอร์พอร์ตลิงก์ถือเป็นเหมือนหน้าตาอย่างของประเทศ เพราะแขกไปใครมาก็ต้องโดยสารระบบขนส่งนี้ เพราะฉะนั้นพรีเซ็นเตอร์ของระบบก็ควรจะต้องมีภาพลักษณ์ที่ดี หรือเป็นคนที่ให้ความรู้สึกที่อบอุ่น ปลอดภัย
“การให้คุณวันมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ คิดว่าจะดูไม่เหมาะสม เพราะตัวเขาเองก็มีภาพลักษณ์ที่ประชาชนส่วนใหญ่คงไม่ชอบใจเท่าไหร่ เพราะเท่าที่เห็นเขาเคยมีคดีความ ทั้งเรื่องทะเลาะวิวาทและยังภาพลักษณ์อื่นๆ อีก แต่หากจะให้เลือกใครสักคน คิดว่าคุณดู๋-สัญญา (คุณากร) น่าจะดีกว่ามาก เพราะเขาดูน่าเชื่อถือ ปลอดภัย มีบุคลิกที่ดี ถึงแม้ชาวต่างชาติที่ไม่เคยรู้จักเขามาก่อนก็ยังจะมองว่าเขาดูดีและน่ามั่นใจกว่า”
เช่นเดียวกับ พนิดา มาศทรัพย์ศิริ ที่แม้จะให้ความเห็นแบบกลางๆ ว่า ต่อให้มาพรีเซ็นเตอร์ รถไฟฟ้าก็คงไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรในที่ดีมากนัก แต่เลือกให้ วัน อยู่บำรุง มารับหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ บางทีก็อดแปลกใจไม่ได้ เพราะโดยส่วนตัวแล้ว เธอไม่คิดว่าบุคคลผู้นี้มีผลงานอะไรที่ต้องนำขึ้นมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ได้ และทางที่ดี ก่อนจะมาคิดเรื่องแบบนี้ ทางแอร์พอร์ตลิงก์น่าจะหันไปปรับปรุงคุณภาพของการบริการมากกว่า เพราะต้องยอมรับว่าแม้แอร์พอร์ตลิงก์ช่วยให้การเดินทางสะดวกขึ้นอยู่พอสมควร แต่การบริการก็ยังไม่ถือว่าดีเท่าที่ควร
[2]
เพียงแค่เสียงของคนผู้ใช้บริการ 2-3 เสียง อาจจะยังไม่ทำให้เห็นภาพชัดเท่าใดนักว่า เรื่องนี้มันมีผลกระทบจริงๆ และดีไม่ดีอาจจะเหมารวมไปว่า เพราะสื่อไม่ชอบก็เลยหาคนมาพูดโจมตีหรือเปล่า ดังนั้นเพื่อพิสูจน์ให้เห็นกันแบบชัดเลยๆ ก็คงต้องงัดภาคทฤษฎีมาวิพากษ์กันเลยดีกว่า
โดยงานนี้ก็ขอหยิบยกทฤษฎีของ ผศ.ดร.ธีรพันธ์ โล่ห์ทองคำ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ธรู เดอะไลน์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด เรื่องการพิจารณาเลือกใช้บุคคลสร้างแบรนด์ที่เคยให้สัมภาษณ์ในนิตยสาร Positioning ฉบับกุมภาพันธ์ 2552 โดยระบุว่า หลักการง่ายๆ ของการคัดเลือกนั้นมีอยู่ 6 องค์ประกอบด้วยกัน คือ
1. คนดัง เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย หรือสินค้าหรือไม่
2. ต้นทุน หรืองบประมาณมากพอจะใช้คนดังหรือไม่ เพราะดาราบางคนค่าตัว 5-10 ล้านบาท
3. ความง่ายและยากในการใช้ ต้องไม่มีบุคลิกคุยด้วยยาก หรือเงียบเกินไป ก็อาจส่งผลกระทบได้ เพราะการใช้พรีเซ็นเตอร์ยุคนี้ให้ได้ผลจะต้องร่วมออกงานอีเวนท์ด้วย แม้ส่วนใหญ่จะมีการเซ็นสัญญาครอบคลุมเรื่องเหล่านี้ก็ตาม แต่หากดาราบุคลิกที่ยากต่อการใช้งานก็จะส่งผลกระทบต่อสินค้าได้
4. ช้ำหรือยัง คือต้องไม่เห็นจนน่าเบื่อ
5. ชีวิตความเป็นอยู่ เช่น มีแนวโน้มจะเสพยาเสพติดหรือไม่ เปลี่ยนคนรักบ่อย มีปัญหาในการวางตัว
6. ความน่าเชื่อถือ เช่น กรณีของแหม่ม-คัทลียา แมคอินทอช ซึ่งมีปัญหาเรื่องท้อง-ไม่ท้อง ส่งผลให้หลายแบรนด์สินค้าต้องตัดออกจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์
ซึ่งเมื่อมาพิจารณากับกรณีของวัน อยู่บำรุง แล้วก็จะให้ว่ามีทั้งเข้าองค์ประกอบอยู่หลายเรื่อง เช่น เรื่องความดังก็ถือว่าพอตัว ต้นทุนก็ไม่มีเพราะถือว่าเป็นหน้าที่อยู่แล้ว แถมหน้าไม่ซ้ำอีกต่างหาก เพราะยุคหลังๆ ไม่ค่อยออกสื่อ แต่สำหรับเรื่องความน่าเชื่อถือนั้น ชลิต ลิมปนะเวช ผู้ทรงคุณวุฒิด้านนิเทศศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดเองก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะถึงผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะมีชื่อเสียงก็จริงแต่อาจจะเป็นชื่อเสียงในด้านที่ไม่ดีนักเท่าใดนัก และมีแนวโน้นจะสร้างความเสี่ยงต่อภาพลักษณ์องค์กรในอนาคตด้วยซ้ำ
“พรีเซ็นเตอร์นั้น ต้องมีภาพลักษณ์ที่ดีด้วยนะ ส่วนมากก็จะเอาพวกดารา หรือคนดัง จริงๆ จะเป็นนักการเมืองหรือลูกนักการเมืองก็ได้ ถ้าเขาดังในทางที่ดี แต่ว่าไปแล้ว ก็ไม่มีสูตรตายตัวในการเลือกหรอก แต่ทั้งนี้ต้องเอาคนที่เป็นที่นิยมมาสร้างภาพบวกให้องค์กร ถ้าหากเอาคนที่ประชาชนยี้มาเป็น ภาพลักษณ์ขององค์กรก็น่าจะติดลบเข้าไปอีก”
เพราะฉะนั้น ถ้าว่าไปแล้วการเลือกครั้งนี้น่าจะเป็นเหตุผลทางการเมืองมากกว่า เพราะเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า พรรคเพื่อไทยดูแลหน่วยงานนี้อยู่ และวัน อยู่บำรุง ก็ถือว่ามีพ่อเป็นถึงรองนายกรัฐมนตรีและแกนนำของพรรค ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่น่าจะมีการหยิบหลักวิชาโฆษณาประชาสัมพันธ์มาใช้แน่ๆ
“ถ้ามองอีกมุม อย่างน้อยเขาก็เป็นคนดัง มันอาจจะเป็นประโยชน์ คนมาสนใจนั่งแอร์พอร์ตลิงก์มากขึ้น เพราะมีพรีเซ็นเตอร์ซึ่งมีภาพลักษณ์แบบนักเลง คนนั่งอาจจะรู้สึกปลอดภัยขึ้น แต่โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าแอร์พอร์ตลิงก์นั้น ขาดทุนอยู่แล้ว ก็น่าจะหาพรีเซ็นเตอร์ที่มีภาพบวก หรือไม่ก็ต้องเป็นคนที่มีภาพลักษณ์เกี่ยวพันกับการเดินทาง อย่างนักธุรกิจ อันนี้เป็นหลักพื้นฐาน เพราะถ้าคุณจะโฆษณาครีมหน้าเด้งก็ต้องหาดาราที่ผิวพรรณดีมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ แต่การให้คุณวันมาเป็นพรีเซ็นเตอร์นั้น อยู่นอกหลักวิชาการอย่างสิ้นเชิง มันเป็นเรื่องการเมืองมากกว่า”
[3]
และเพื่อให้เห็นภาพกันแบบชัดไปกว่านี้ ก็คงต้องขอยกตัวอย่างการเลือกพรีเซ็นเตอร์ ก็จะพบว่ามักมีส่วนเกี่ยวข้องไม่มากก็น้อย เช่น นิรุตติ์ ศิริจรรยา ซึ่งถือว่าดาราอาวุโสที่มีภาพดี เป็นคนพูดจาตรงไปตรงมา ก็รับเป็นพรีเซ็นเตอร์โครงการคืนคนดีสู่สังคม เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือผู้พ้นโทษ หรือเบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ ซึ่งเป็นซูเปอร์สตาร์ของเมืองไทย มีแฟนเพลงอย่างหนาแน่นทั่วประเทศ ก็รับหน้าที่พรีเซ็นเตอร์ โครงการเที่ยวไทยครึกครื้นเศรษฐกิจไทยคึกคัก หรือ นิชคุณ หรเวชคุณ นักร้องวง 2PM ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังในประเทศเกาหลีใต้ ก็ยังเป็นพรีเซ็นเตอร์ โครงการ ‘Come To Thailand Let’s Take A Break’ เพื่อรุกตลาดนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้
หรือแม้แต่ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ซึ่งมีภาพช่วยเหลือสังคมมาตลอด เพราะเขาร่วมปฎิบัติงานเป็นอาสาสมัครร่วมกตัญญูมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเมื่อได้รับคัดเลือกจากกระทรวงสาธารณสุขให้เป็น ‘ทูตการแพทย์ฉุกเฉิน’ หรือพรีเซ็นเตอร์ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) จึงไม่สร้างความฉงนสงสัยให้แก่สังคมเท่าใดนัก เนื่องจากหน้าที่ของทูตการแพทย์ฉุกเฉินนั้นก็คือ การช่วยกิจกรรมและส่งเสริมภารกิจการแพทย์ฉุกเฉิน รวมถึงการเป็นแบบอย่างผู้เสียสละช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บ-เจ็บป่วยฉุกเฉิน ซึ่งก็เป็นภาพลักษณ์ที่คนไทยคุ้นเคยกันดีนั่นเอง
“ทุกอย่างปฎิบัติเหมือนเดิม เพียงแต่ว่ามันจะมีหน้าที่เป็นทูตการแพทย์ฉุกเฉินเพิ่มขึ้นมาเท่านั้นเอง หมายความว่ามีการประชุมต่างๆ เกี่ยวกับการแพทย์ฉุกเฉินในพื้นที่ต่างๆ ทางเราก็เป็นเหมือนตัวแทนเข้าไปคุยถึงปัญหาต่างๆ เข้าไปช่วยประสานงาน งานอาสาสมัครร่วมกตัญญูก็ยังทำอยู่ตลอดครับ แต่ช่วงนี้ก็จะมีเหตุการณ์น้ำท่วมก็ออกไปช่วยแจกของ”
อย่างไรก็ตาม แม้การเลือกนี้จะมีเรื่องภาพลักษณ์เข้ามาเกี่ยวข้องค่อนข้างมาก แต่ในมุมของพระเอกนักบู๊กลับรู้สึกว่า นั้นไม่ใช่เรื่องจำเป็นต้องไปใส่ใจมากนัก เพราะสิ่งที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ การปฏิบัติต่างหาก หากคุณทำดีความเหมาะสมก็จะเกิดขึ้นเอง ไม่จำเป็นต้องไปสร้างภาพลักษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น
“ภาพลักษณ์ผมว่าไม่ต้องมีอะไรมากมาย เพราะว่าเราก็ไม่ได้ทำตัวไม่ดี เราบำเพ็ญประโยชน์แก่สังคมอยู่แล้ว มันเหมือนกับว่าเป็นเพียงชื่อที่ถูกบัญญัติขึ้นมาโดยสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินเท่านั้นเอง คือเหมือนเราเพิ่มหน้าที่เป็นกระบองเสียงจากองค์กรไปยังสถาบันต่างๆ”
..........
แม้การแต่งตั้งวัน อยู่บำรุง เข้ารับหน้าที่มิสเตอร์แอร์พอร์ตลิงก์จะมีความนัยซุกซ่อนอยู่ หรือจะผิดหลักวิชาประชาสัมพันธ์และโฆษณาสักแค่ไหนก็ตาม แต่ของแบบนี้จะไปตัดสินทันทีทันใดก็คงจะไม่ได้
แต่ที่ทักท้วงมาก็เพียงเพราะความเป็นห่วงล้วนๆ ไม่ได้มีเจตนาหรือประสงค์ร้ายใดๆ ทั้งสิ้น และดีไม่ดี ไม่แน่แอร์พอร์ตลิงก์อาจจะพลิกพื้นสถานการณ์จากเลขติดลบมาเลขบวกก็ได้ ใครจะไปรู้ และหากถึงเวลานั้นจริง ประเทศไทยก็คงถึงเวลาบัญญัติตำราการเลือกพรีเซ็นเตอร์ของไทยๆ ออกขายทั่วโลกได้สักที
>>>>>>>>>>>>
……….
เรื่อง : ทีมข่าว CLICK
ภาพ : ทีมภาพรายวัน
ที่มา :
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9540000122013
บันทึกการเข้า
It's hard to be righteous, but it easy to be evil.
Venom-Crusher
สมาชิกกลุ่ม ยสตน.
Vmodtech Member
ออฟไลน์
กระทู้: 15962
I'm Stand Between Hell and Earth.
Re: 'มิสเตอร์แอร์พอร์ตลิงก์' ปรากฏการณ์พลิกตำรา 'พรีเซ็นเตอร์' แบบไทยๆ
«
ตอบ #1 เมื่อ:
26 กันยายน 2011, 09:13:13 »
อ้างถึง
ความคิดเห็นที่ 8 +90
มีร้านก๊วยเตี๋ยวอยู่ร้านนึงรสชาดไม่ได้เรื่อง คนไม่เข้าร้านไม่ค่อยมากินอยุ่แล้ว วันนึงมีแมลงสาบตัวหนึ่งมาเกาะอยู่หน้าร้าน แล้วใครมันจะเข้าไปแหลกอีกล่ะ
ซาราบี้
บันทึกการเข้า
It's hard to be righteous, but it easy to be evil.
Venom-Crusher
สมาชิกกลุ่ม ยสตน.
Vmodtech Member
ออฟไลน์
กระทู้: 15962
I'm Stand Between Hell and Earth.
Re: 'มิสเตอร์แอร์พอร์ตลิงก์' ปรากฏการณ์พลิกตำรา 'พรีเซ็นเตอร์' แบบไทยๆ
«
ตอบ #2 เมื่อ:
26 กันยายน 2011, 09:16:08 »
แถมๆครับ อะไรดีๆกำลังเริ่มมาเรื่อยๆครับสำหรับประเทศไทย
อ้างถึง
“กี้ร์ ตะกายตึก” เล่าเป็นฉาก! ทิ้งม็อบแดงใช้คาถาพรางตัวหนีทหารสอย ล่องโขงเข้าเขมร
จอมตะกายตึก “อริสมันต์” เล่าเป็นฉาก หลบหนีสลายม็อบแดง อ้างมีพระเข้าฝัน บอก เสธ.แดง แต่ไม่เชื่อ เผย คนขายเสื้อผ้าให้เปลี่ยนเป็นเสื้อมอซอ ซื้อฮอลล์กับบุหรี่ เดินสวนทหารเจอสไนเปอร์ อ้างหลวงพ่อโทร.หาให้พรางตัว ก่อนหนีขึ้นมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เปลี่ยนรถยนต์ 6 คัน ออกหนองคาย ล่องน้ำโขงเข้ากัมพูชา
วันนี้ (25 ก.ย.) สำนักข่าวเนชั่น ได้สัมภาษณ์ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้ายเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ยังหลบหนีคดีก่อการร้ายอยู่ในต่างประเทศ ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษ ระหว่างแกนนำเสื้อแดง กับรัฐบาลกัมพูชา ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่ง นายอริสมันต์ ได้เล่าถึงการหลบหนีระหว่างสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553 ที่มีการสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดง ที่แยกราชประสงค์ พวกเราแกนนำได้ตัดสินใจยุติการชุมนุม เพราะเกรงว่าจะมีคนตายอีกเยอะ ที่ผ่านมา พวกเราไม่คิดว่ามันจะเลวร้ายขนาดนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรุนแรงเกินไป สำหรับผมเองเมื่อมีการตัดสินใจอย่างนี้ ก็รู้ว่าเราคงไม่อยู่ในประเทศ ผมตัดสินใจไม่ยอมอยู่แล้ว
“วันนั้นผมเดินออกจากที่ชุมนุมออกมาทางประตูน้ำ ซึ่งตรงนั้นทหารเยอะมาก แต่เชื่อมั้ยเรื่องมหัศจรรย์เกิดขึ้น ทั้งเรื่องที่ผมสามารถหลบหนีออกจากโรงแรมเอสซี ปาร์ค และหลังจากนั้น ก็มีคนนำพระมาให้ผม ในสร้อยคอหนึ่งเส้นมี 3 องค์ และผมไม่ชอบแขวนพระ ถ้าสังเกตแกนนำหลายคนแขวนพระกันเต็มคอหมดเลย แต่ผมไม่ชอบแขวนพระ 2 วันผ่านมา มีพระมาเข้าฝันเลยตกใจสะดุ้งตื่นเลย รีบนำพระมาแขวนคอ เพราะในฝันท่านมาบอกว่า “ทำไมมึงไม่แขวนกู” ซึ่งในจำนวนพระ 3 องค์นี้ ผมรู้จักแค่คนเดียว คือ หลวงพ่อฉุย เพราะมันติดตาในฝัน จากนั้นก็รอดแคล้วคลาดมาโดยตลอด ผมก็เล่าเรื่องหลวงพ่อมาเข้าฝันให้พี่แดง (พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล) ฟัง แต่พี่แดงแกไม่เชื่อ
มาถึงตอนที่ผมจะเดินออกจากม็อบ ผมไปนั่งอยู่ที่หน้าศาลพระพรหมอยู่นานมาก กระทั่งคนขายเสื้อผ้าแถวนั้น มาบอว่า พี่ยอมแพ้ เชื่อผมเถอะ ยังไงพี่ก็ไม่รอด ผมก็กอดคอคนขายเสื้อผ้า แล้วบอกว่า “วันนี้ถ้าชีวิตมันตาย มันก็ต้องตาย น้องก็ได้รู้ว่าพี่ต้องตายวันนี้” จากนั้นผมก็ถอดรองเท้า มันก็เอารองเท้ามาให้ใส่ เป็นรองแตะหูคีบ ถอดเสื้อเปลี่ยนเป็นเสื้อโทรมๆ แล้วเดินออกไป ระหว่างนั้นทหารก็วิ่งสวนมา แต่ก็ผ่านผมไป แล้วผมก็ซื้อฮอล์ล กับบุหรี่ 10 ม้วน แล้วก็สูบบุหรี่ไปเดินไป ก็สวนกับทหารเป็นระยะๆ
พอเลี้ยวขวาตรงห้างบิ๊กซี โอ้โฮ แม่ง คุณรู้ไหมตรงนั้น แม่ง หฤโหดขนาดไหน รถฮัมวี่จอดเป็น 10 คัน กระสุนปืนเป็นแสนนัดว่าอย่างนั้นดีกว่า คงกะว่าถล่มตายหมดน่ะ แล้วเสียงปืนมันดัง เปรี๊ยะๆๆ ตลอด เสียงร้องระงม ก็เดินไปจะเจอสะพานข้ามคลองแสนแสบ เป็นตึกสองข้าง ด้านบนมีสไนเปอร์เป็นร้อย ลูกน้องก็ตะโกนบอกว่าทหารยิงประชาชน พวกทหารมันก็หลบไป เพราะตอนนั้นมันเล็งแล้ว ดูว่าใครเป็นใคร ผมก็รีบวิ่งมาอยู่ใต้สะพาน แล้วรีบวิ่งไปชิดมุมตึกที่ทหารอยู่แบบแนบชิดเลย เพื่อไม่ให้มองเห็น แล้วก็เดินออกไปที่ประตูน้ำคอมเพล็กซ์” นายอริสมันต์ กล่าว
นายอริสมันต์ กล่าวต่อว่า จากนั้น ตนก็จะเดินสวนออกไปทางมักกะสัน “โอ้..โห้.. ทหารมหาศาล เสียงเปรี๊ยะ แป๊ะ ตลอด เชื่อมั้ยคนขายเสื้อที่ออกมาด้วยขาสั่นเลย ร้องไห้ แล้วบอกว่า “ไม่ไหวแล้วๆ ผมไปไม่ไหวแล้ว ผมขออยู่ตรงนี้ หันมาบอกผม พี่ยอมเถอะ บ้านเพื่อนผมอยู่ตรงนี้ พี่ไปแอบได้” ตนคิดว่า ไม่ไหวจริงๆ เพราะร้องไห้ตลอด แต่ก็ฮึดออกมาบอกว่า “ขอไปส่งวีรบุรุษให้ถึงจุดหมายปลายทาง” เขาพูดกับตนอย่างนี้ ในใจคิดคนนี้สุดยอด ไม่มีส่วนได้เสีย แต่มันไปกับเราขนาดนี้
“ขณะที่จะเดินออกจากประตูน้ำคอมเพล็กซ์ ก็มีเสียงปืนวิ่งไปวิ่งมา ดังตลอดเยอะมาก มันมีเสาต้นใหญ่ๆ อยู่ต้นหนึ่ง ผมก็ไปหลบตรงเสา เพราะเสียงปืนมันดัง เราก็ล้มลงนอน เพราะจะดูว่าทหารข้างบนเยอะแค่ไหน ทุกหน้าต่างมีปลายลำกล้องปืนโผล่ออกมาหมด เราถึงรู้ว่าโหดเหี้ยมมาก ทีนี้พอล้มลงนอนมันก็คิดว่าเราถูกยิง มวลชนก็ร้องดังขึ้นไปอีก ทหารก็วิ่งมา มวลชนก็วิ่งหนี ตอนนี้คิดเราจะทำยังไง แม่งเอ้ย..โดนแน่ ตัดสินใจกระโดดลงตรงนั้นจะมีศาลพระภูมิอยู่ ผมก็ไปปัดกวาดเช็ดถูศาล แล้วมือผมมันเลอะก็ใช้มือป้ายที่หน้า หน้าผมมันก็ดำๆ เชื่อมั้ยว่า ก่อนที่เดินออกมามีหลวงพ่อโทร.มาหาผม ไม่รู้ได้เบอร์มาได้ยังไง โทร.บอกว่า “ให้ท่องคาถาพลางตัว” ผมบอกหลวงพ่อไม่มีเวลาแล้วหลวงพ่อ ให้หลวงพ่อท่องเลย ผมจะตั้งสมาธิ เสร็จแล้วผมก็ยกมือไหว้
มาถึงตรงนี้มีมอเตอร์ไซค์รับจ้างจอดอยู่ เขาก็จอดรอคนที่ออกมาใครเรียกเขาก็ไปหมด แต่มอเตอร์ไซค์รับจ้างไม่รู้ว่าเราเป็นใคร ผมก็นั่งซ้อนท้ายออกไป มาเจอด่านที่มักกะสันเป็นด่านใหญ่ ด่านนี้ผ่านไปได้ ผมก็คิดว่าฟลุ๊กแล้ว และคิดว่า เราจะไปได้ไกลขนาดไหน เพราะด่านใหญ่มาก ตอนนั้นคิดว่าคงไปได้ไม่เกินรัชดา มาเจอด่านที่สองแถวพลาซ่า มักกะสัน ตรงนี้เหมือนเข้าซองม้าแข่งเลย เข้าคิวตรวจเลย ทหารตะโกนบอก “ไม่มีผู้โดยสารไปเร็วๆ ออกไป” แล้วนั่งอยู่ท้ายรถมอร์ไซค์รับจ้าง ซวยแล้วซิ แต่ก็ผ่านมาได้นั่งรถมอร์ไซค์รับจ้างมาถึงซอยพหลโยธิน 24 จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นรถยนต์ ออกมาทางปทุมธานี สุพรรณบุรี งานนี้เปลี่ยนรถยนต์เป็น 5-6 คัน แล้วก่อนจะขึ้นถนนมิตรภาพ หลวงพ่อโทร.มาอีกบอกว่า “ถูกยิงตายแล้วไม่ใช่รึ” ผมก็บอกว่ายังอยู่ๆ แล้วก็บอกว่าให้นึกถึงหลวงปู่นาค แล้วก็มาเจอด่านทหารใหญ่ที่ถนนมิตรภาพ ทหารบอกให้รถทุกคันเปิดกระจกทั้งหมด แล้วมันก็ชะโงกเข้ามาดูในรถเรา แต่ก็ผ่านมาได้อีก จากนั้นวิ่งเรื่อยมาถึงชายแดนที่จังหวัดหนองคาย แล้วก็ล่องเรือมาเรื่อยๆ ไหลมาตามน้ำมาแล้วก็มาขึ้นที่กัมพูชา” นายอริสมันต์ กล่าว
ที่มา :
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9540000122049
บันทึกการเข้า
It's hard to be righteous, but it easy to be evil.
yuki_kaze
สมาชิกกลุ่ม ยสตน.
Vmodtech Member
ออฟไลน์
กระทู้: 3281
Re: 'มิสเตอร์แอร์พอร์ตลิงก์' ปรากฏการณ์พลิกตำรา 'พรีเซ็นเตอร์' แบบไทยๆ
«
ตอบ #3 เมื่อ:
26 กันยายน 2011, 15:07:30 »
ยินดีกับประชาชนไทยด้วยครับ
ความจริงเรื่องแบบนี้ก็มีมาตลอดจนชักจะไม่รู้สึกอะไรแล้ว
บันทึกการเข้า
เกิดเป็นคนควรรู้แยกแยะผิด-ชอบ ชั่ว-ดี <br /><br />จะได้ไม่เสียชาติที่เกิดมาเป็นคน
tccx
สมาชิกกลุ่ม ยสตน.ท
Vmodtech Member
ออฟไลน์
กระทู้: 1616
Re: 'มิสเตอร์แอร์พอร์ตลิงก์' ปรากฏการณ์พลิกตำรา 'พรีเซ็นเตอร์' แบบไทยๆ
«
ตอบ #4 เมื่อ:
26 กันยายน 2011, 16:46:17 »
สุดๆเลย
บันทึกการเข้า
Samaung TCCX
Sansiro AcMilan
ปีนี้อยากได้แชมป์กัลโช่วะ
leim
บุคคลทั่วไป
Re: 'มิสเตอร์แอร์พอร์ตลิงก์' ปรากฏการณ์พลิกตำรา 'พรีเซ็นเตอร์' แบบไทยๆ
«
ตอบ #5 เมื่อ:
26 กันยายน 2011, 17:32:02 »
เรื่องนี้ผมเฉยๆครับ
เพราะยังไงก็เป็นวัฒจักรวงการการเมืองจริงๆครับ
คนตายเพราะการเมือง โดยที่ ไอ้พวกที่เหมือนจะไม่ถูกกัน จริงๆมันแอบไปกินโต๊ะจีน เลี้ยงฉลองกันกับส่วนแบ่งกันไปครับ
ประชาชน ต้องการก่อน ทุกเรื่องไปจริงๆครับ อิอิกำ
บันทึกการเข้า
cicimaru
ประธานกลุ่ม ยสตน.
Vmodtech Member
ออฟไลน์
กระทู้: 2187
กลุ่มแก๊งค์
Re: 'มิสเตอร์แอร์พอร์ตลิงก์' ปรากฏการณ์พลิกตำรา 'พรีเซ็นเตอร์' แบบไทยๆ
«
ตอบ #6 เมื่อ:
26 กันยายน 2011, 19:24:25 »
แสดง ให้ เห็น ว่า โปร เจ็ก นี้ มัน ............... จริง จริง
บันทึกการเข้า
lightron
Vmodtech Member
ออฟไลน์
กระทู้: 315
eiei.de
Re: 'มิสเตอร์แอร์พอร์ตลิงก์' ปรากฏการณ์พลิกตำรา 'พรีเซ็นเตอร์' แบบไทยๆ
«
ตอบ #7 เมื่อ:
28 กันยายน 2011, 19:43:54 »
ให้มันได้อย่างนี้สิ
บันทึกการเข้า
แรง แต่ช้า อิอิกำ
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
กระดานสาระความรู้แห่ง Vmodtech
-----------------------------
=> เรื่องคอมพิวเตอร์
=> Notebook Corner
=> Printer Corner
=> Microsoft Windows 7 Community
=> โชว์พลังประลองยุทธ์
=> เรื่องของเกมส์
=> กล้องกับการถ่ายภาพ
=> เรื่องเส้นเสียง
=> User Reviews
=> ห้องโครงการระยะยาว
=> ร่วมวิจารณ์บทความและข่าว
-----------------------------
กระดานซื้อขายแลกเปลี่ยนแห่ง Vmodtech
-----------------------------
=> ตลาดคอมพิวเตอร์
=> ตลาดทั่วไป
=> ราคากลางตลาด
=> ประชาสัมพันธ์ข่าวสารทางธุรกิจ
-----------------------------
กระดานสาระบันเทิงแห่ง Vmodtech
-----------------------------
=> เรื่องทั่วๆไป
=> Non-member
=> Picpost
=> เรื่องลูกหนัง
กำลังโหลด...