กรี๊ดดดดดดด Mullard Blackburn เหรอครับ
อันนี้ไม่แน่ใจเมหือนกัน แต่ที่จับมาเพราะมันคือ long plate long mesh ซึ่งหายาก เคยเจอแต่เตี้ยๆ คนขายใจปล้ำบอกว่าไม่พอใจยินดีจ่ายคืนเต็มจำนวน ^^
จากโค้ด:9r1
มันคือ EF86
B6C,B7
สองตัวนี้ไม่รู้ตัวไหนคือ Factory code อิอิ แต่ขึ้นต้นด้วย B เนี่ย Blackburn คร้าบบบ
ขอบคุณมากคับ ได้ความรู้เพิ่มอีกแล้วว ^^ น่าจะมาถึงพร้อมกับไอ้หลอดนี้
อู๊ววววว 6L6 หลอดเหล็กแถมสนิม
ต้องไม่้ธรรมดาแน่ๆครับ
เน้นขลัง ใว้ก่อน จับมาลงอ่าง ขัดผิว หล่ะใส่กล่องโชว์ เอิ๊กๆ....ไม่มีแอมป์เสียบ
ของผมเทียบไม่ติด หลอดตระกูลนี้เหลือแค่นี้ครับ น้าชูเอาไปเสียบ PA หมดแล้ว
ตอนนี้มีปัญญาหามีปัญญาเก็บ สู้ไหวก้เอามาก่อน ไม่ได้ใช้หรือยังไงซะ อีก 3-5 ปี กำไรเห้นๆเอิ๊กๆ... ยังมี KT88 แมช 2 อีก 2คู่ (ไม่มีเครื่องเทสเลยไม่รุ้ว่ามันแมช4มั้ย แต่ มันพิมพ์เดียวกันเป๊ะๆ) กับหลอด reg 5u4 อีกหลอด ยังไม่รุ้เลยว่าจะทำอะไรกับมันดี
เจอก็ซื้อเก้บจนหมดทุนไปทำแท่นใหม่หล่ะ แถม SE ที่ใช้ เกิดทะลึ่งชอบมันซะด้วย เสียงดี พลังใช้ได้ มีคนเสนอมาอีก 2-3 หลอด แต่ยังไม่มีทุนไปเก็บ
12at7 Philips-miniwatt D-getter with flat cross bar เดลต้าโค๊ดปี 1959 Heerlen ,Holland
Ken Rad VT231
ECC85 Valvo Delta code
อยากได้นะแต่ถ้าซื้อหล่ะ เมียต้มให้กินแทนข้าวแน่ๆ
ส่วนมากคนจะชอบ se อยู่แล้ว เพราะ se มันเป็น class a อะถ้าเทียบกับ solid แล้วได้ watt ขนาดนี้ความหนักก็ไม่ต่างกันเท่าใดหรอก ยิ่งความร้อนด้วยแล้วนะ ก็ไม่น่าจะหนีกัน
ถ้าทำเป็น pp จะไม่ได้ความละเอียดของเสียงแบบนี้แน่นอน แต่จะได้พละกำลังค่อนข้างเยอะอะ เมื่อเทียบกับ se แต่ se จะมีความละเมียดละไมและความต่อเนื่องของเสียงมากกว่า เพราะหลอดนึงทำงานทั้งการขยายซีกบวกและลบ ส่วน pp ถ้าเป็น class a แม้ว่าจะกินกระแสคงที่ตลอดเวลาก็ยังสู้ se ไม่ได้อะ อันนี้ confirm