ทาก ที่ผมจำได้นะครับ
ทางขึ้น ไม่มีชัวว์
เดินจากหลังแป ถึง หน้าที่ทำการอุทยาน ไม่มีครับ ถ้าเป็นทางเดินเส้นใหม่ในปัจจุบันนะครับ
ถ้าทางเดินเก่า มีครับ เยอะเลยแหละครับ
จากที่ทำการก็ ที่กางเตนท์ ตรงนี้ไม่มีครับ สนามหญ้าธรรมดาๆ
อาจจะมีกวางมามั่วนิ่มบ้างครับ มีทุกยุคทุกสมัยครับ กวางเสียนิสัยครับ
ถ้าเดินไปด้านหลังอุทยานยาวๆหน่อยก็มีบ้านพักรับรอง อันนั้น ทากเพียบครับ เยอะครับ
ตรงทางเดินออกจากที่กางเตนท์ ระหว่างทางไปน้ำตกไปผานกแอ่น มีบ้างครับ มันจะเกาะอยู่ตามต้นไม้ต้นหญ้าข้างทางที่เราเดินครับ ถ้ามันเกาะเรา เราไม่รู้สึกหรอกครับ บางที ใส่รองเท้าบู๊ท ไม่รู้ตัว เหมือนว่าทำไมมันแฉะๆ ที่ไหนได้ เลือดเต็มรองเท้าข้างในครับ ทากพวกนี้มันกินเลือดแล้วเลือดเราออกไม่หยุดในทันทีครับ มันมีสารยับยั้งการแข็งตัวของเกล็ดเลือดจะได้สะดวกแดร๊กเลือดเราครับ เค้าว่า ใส่ยาเส้นในรองเท้า ผมว่าไม่ได้เรื่องครับ เกาะอยู่ดี เอายาหม่องป้ายเอาครับ แบบนี้มันก็ถอนเขี้ยวออกจากตัวเราเอง ถ้าโหดก็ เอาไฟแช็คลน เลือดพุ่งออกจากตัวทากเลยนะครับ แต่ผมไม่แนะนำให้ทำครับ เสียไบโอแมสครับ ปล่อยเจ้าที่เจ้าถิ่นเค้าอยู่ของเค้าไปดีกว่าครับ ไม่เกาะเรา มันก็ไปเกาะกวาง เกาะสัตว์อื่นๆ เป็นระบบนิเวศน์ของเค้าตามธรรมชาติครับ
ตามหน้าผาจุดชมวิว ไม่ปรากฏก่วามีทากสักทีครับ ตอนที่ไปช่วงฝนชุกอยู่ ทากจะเยอะครับ ถ้าหนาวแล้วก็ไม่เท่าไหร่
หมอกจะเยอะหน่อยบางทีนะครับ หมอกในที่นี้คือ เมฆนะครับ เมฆระดับเดียวกับตัวเรา เราจะรู้สึกว่า เปียก เหนอะ อยู่ครับ ถึงบอกว่าเอาเสื้อกันฝนไปด้วย รวมถึง ไอฝน แถม ลมหนาว ไม่แข็งแรง ป่วยได้นะครับ
ระหว่างทางเดิน ไม่มีร้านขายของนะครับ หมายถึง ออกจากโซนที่พักด้านบน แต่จะมีพวก หาบของมาขาย นะครับ
เผื่อเวลาเดินทางบนนั้นดีๆครับ อย่าลืมไฟฉาย หรือ ตะเกียงก็แล้วแต่จะใช้ครับ แต่ถ้าไม่มีจริงๆ เค้ามีพวกตะเกียงประดิษฐ์เองขาย ใส่ขวดน้ำผ่าครึ่ง ใส่เทียนส่องทาง ก็ได้เหมือนกันครับสู้ลมดีเหมือนกัน เผื่อดูพระอาทิตย์ตกนะครับ
ระหว่างทาง มองไปบนฟ้าครับถ้าโชคดี ถ้าไม่เคยดูดาวแบบ มืดสนิทจริงๆ บนนี้ จะได้เห็นครับ มันไม่มีแสงไฟจากพื้นด้านล่างรบกวน มืดจริงๆ สูงระดับเดียวกับเมฆ ดังนั้น ชัดเจนครับ ถ้าโชคดีไม่เจอหมอกก่อนนะครับ
บนนั้น วันเดียว ไม่ทั่วครับ เหนื่อยก่อน เผื่อไว้ 2 วัน แต่ถ้า เที่ยวแบบลวกๆสักหน่อย แค่เดินไปดู ไม่ได้ไปแช่นานก็ ขึ้น 1 วัน ถึงบนนั้นเที่ยง ช่วงเย็นไปดูพระอาทิตย์ตก ถ่ายรูป ก็รีบๆไปนะครับ กิ่งไม้อันนั้นผมว่าสักวันคงโค่นล้มลง ก็หมดแล้วครับ มุมสุดคลาสสิคบนภูกระดึง แต่ก็ ไม่เห็นมันจะหักโค่นลงสักทีนะครับ
วันต่อมาก็ ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นครับ หลังจากนั้นก็ เดินทางไปน้ำตก ก็น่าจะบ่ายๆแล้วครับ ถ้ามีแรงก็ลงวันนั้นได้เลย ก็ไม่เหนื่อยเท่าขึ้นครับ สองวันน่าจะจบ แต่ถ้าให้ดี มี 3 วันก็น่าจะเต็มๆดีครับ
คงไม่สปอยด์อะไรมากหรอกนะครับ เล่า กับ ไปเอง มันคนละเรื่องครับ
ผมเองก็ ตอนนี้อย่างเก่ง ขับรถขึ้นไปเอง ตรงไหนต้องเดินขึ้น อดครับ จอดรถสักหน่อย กินข้าว กินกาแฟ แล้วก็ ลง
มีเงินก็จริงครับ แต่ ขาดเยอะครับ ไม่เหมือนสมัยไม่มีแต่ มีเวลาไปครับ
หาเวลาเอานะครับ
บนนั้น ไม่มีขายหมากนะครับ ถ้าอยากเซี่ยนหมาก รบกวน เอาไปตำกินเองนะครับ อิอิกำ