ความคืบหน้าคดีพลเอก ร่มเกล้า ธุวธรรม
by Nicha Hiranburana Thuvatham on Friday, March 16, 2012 at 3:24pm ·
ความคืบหน้าของคดีของพลเอก ร่มเกล้า ธุวธรรม
นิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม
เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๕ ดิฉันและครอบครัวทหารที่เสียชีวิต ต้องไปยื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์กองทัพบกช่วยเป็นตัวแทนติดตามความคืบหน้าของคดีพี่ร่มเกล้า และทหารที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบในเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง เมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๓ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ๑ วัน ได้เห็นข่าวคดีการเสียชีวิตของกลุ่มผู้ชุมนุม นปช.ว่ามีความคืบหน้า จึงทำให้สงสัยว่า แล้วทำไมคดีสามีเราซึ่งเป็นฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐจึงไม่คืบหน้าเหมือนเขาบ้าง พอดีอาทิตย์ก่อน ได้คุยกับภรรยา-พ่อแม่ของพี่น้องทหารที่เสียชีวิตพร้อมพี่ร่มเกล้า ทุกคนก็รู้สึกสับสนเช่นกัน แต่ด้วยความที่พวกเราไม่มีความรู้เรื่องคดี ครอบครัวทหารที่เสียชีวิตส่วนใหญ่ก็ล้วนทำมาหากินอยู่ต่างจังหวัด ล้วนมีภาระที่ลูกชายหรือสามีผู้จากไปได้ทิ้งไว้ให้ ต้องต่อสู้นำพาชีวิตให้รอดไปวันๆ พวกเราจึงต้องมาขอความอนุเคราะห์กองทัพบกหน่วยงานต้นสังกัด ซึ่งมีศักยภาพมากกว่าเรา ให้ช่วยเป็นผู้แทนในการติดตามคดีแทนพวกเรา
ช่วงปีแรกที่พี่ร่มเกล้าเสียชีวิตนั้น เป็นช่วงที่ต้องต่อสู้กับความทุกข์เสียใจอย่างรุนแรง จึงมอบความไว้วางใจเรื่องคดีความให้กับหน่วยงานต่างๆ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบ ด้วยคิดว่าถ้าตัวเราเองซึ่งเป็นข้าราชการแท้ๆ ยังไม่เชื่อมั่นในระบบ แล้วจะหวังให้พี่น้องประชาชนเขาเชื่อถือได้อย่างไร เราต้องพิสูจน์ โดยตัวเราต้องมีความเชื่อมั่นก่อน ดังนั้น จึงไม่เคยไปติดตามเร่งรัด ตรงกันข้ามพยามยามให้โอกาส ให้เวลา และไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์ตัดสินเชื่อฟังข้อมูลที่ได้รับจากหลายฝักหลายฝ่าย แต่พยายามให้เกียรติในการทำงานแก่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ ....
วันเวลาผ่านไปเกือบ ๒ ปี ..ดิฉันยังเชื่อว่าความยุติธรรมสถิตย์อยู่ ความยุติธรรมนั้นยังเป็นความจริง ความดีงามที่ยังคงมีอยู่ในโลกนี้ หากแต่เริ่มตื่นขึ้นมายอมรับความจริงว่า สภาพแวดล้อมของบ้านเมืองของเราในวันนี้อยู่ในสภาวะไม่ปรกติ มีอุปสรรคขัดขวางที่ทำให้ความยุติธรรมเดินเข้ามาหาเราเองโดยง่ายไม่ได้ เราจึงต้องเป็นฝ่ายเดินเข้ามาทวงถามหาความยุติธรรม
จากการติดตามข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าของคดีหลังจากการเสียชีวิตของพี่ร่มเกล้า ดิฉันก็จะทราบเรื่องราว เท่าๆ กับที่ผองเพื่อนพี่น้องทราบ ต้องขอบคุณบทบาทสื่อมวลชน มิเช่นนั้นดิฉันก็คงไม่ทราบอะไรเลย และในยามที่ข่าวคราวสับสนก็ไม่รู้จะไปติดตามถามจากใคร เหมือนเช่นในขณะนี้ ซึ่งความคืบหน้าของคดีเป็นไปในทิศทางที่ดิฉันไม่อาจเข้าใจได้ จึงขอทบทวนความจำให้กับพี่น้องที่ส่งกำลังใจมาให้เสมอ รวมทั้งทบทวนความจำแก่เจ้าหน้าที่หรือผู้ใหญ่ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้อง (ซึ่งอาจลืมเรื่องราวในอดีต) ได้ย้อนความทรงจำเกี่ยวกับคดีพี่ร่มเกล้า ดังนี้ค่ะ
วันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๓ พลเอก ร่มเกล้า ธุวธรรม เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง โดยเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
วันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๓ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบกรมสอบสวนคดีพิเศษแถลงข่าวว่าได้ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาซึ่งใช้อาวุธสงครามร้ายแรงก่อเหตุถึง ๘ คดี เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต รวมถึงการยิงระเบิดในวันที่ ๑๐ เมษายน ซึ่งเป็นเหตุให้ พล.อ.ร่มเกล้าและเจ้าหน้าที่ทหาร เสียชีวิต นอกจากนี้ยังใช้อาวุธสงครามยิง M79 ใส่รถไฟฟ้า BTS ที่แยกศาลาแดง มีผู้เสียชีวิต ๑ ราย บาดเจ็บ ๗๕ ราย ยิงอาร์พีจีใส่โรงแรมดุสิตธานี ยิง M79ใส่แฟลตตำรวจลุมพินี ยิงM16ใส่ตำรวจที่ตั้งด่านหน้าธนาคารกรุงไทยจนตำรวจเสียชีวิต และยิง M79ใส่ด่านตรวจอาคารอื้อจือเหลียงเป็นเหตุให้ตำรวจบาดเจ็บและเสียชีวิต DSI แถลงอย่างภาคภูมิใจด้วยว่า ได้ร่วมกับหน่วยอรินทราช ใช้เทคโนโลยีพิเศษดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ ไม่จับแพะแน่นอน
วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๔ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี DSI ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจและประชาชน ๘๙ ศพ แถลงความคืบหน้าคดีว่า ได้สอบสวนเบื้องต้นมีข้อสรุปที่สามารถสรุปได้ ๓ ส่วน คือ
กลุ่มที่ ๑ คดีพิเศษที่มีผู้เสียชีวิต จากการสืบสวนสอบสวนมีพยานหลักฐานน่าเชื่อว่าเกิดจากการกระทำของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โดยผู้กระทำความผิดฐานก่อการร้ายและกลุ่มที่เกี่ยวพันกัน ๘ คดี รวมผู้เสียชีวิต ๑๒ ราย เช่น การเสียชีวิตขอ งพ.อ.ร่มเกล้าธุวธรรมทหารตำรวจและผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ห้างเซ็นทรัลเวิลด์
กลุ่มที่ ๒ มีผู้เสียชีวิต จากการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นมีพยานหลักฐานน่าเชื่อว่าความตายอาจเกิดโดยเจ้าหน้าที่ ๘ คดี ผู้เสียชีวิต ๑๓ รายดีเอสไอ เห็นว่า ควรดำเนินการตาม ป.วิอาญามาตรา ๑๕๐ จึงได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุแล้ว เช่น คดีผู้เสียชีวิต ๓ ราย ในวัดปทุมวนาราม ผู้เสียชีวิตในสวนสัตว์ดุสิตการเสียชีวิตของพลทหารณรงค์ฤทธิ์สาละ บริเวณอนุสรณ์สถานดอนเมือง และคดีนักข่าวญี่ปุ่น
กลุ่มที่ ๓ เป็นคดีที่มีผู้เสียชีวิตซึ่งจากการสืบสวนสอบสวนยังไม่ปรากฏตัวผู้กระทำความผิดจำนวน 18 คดี ผู้เสียชีวิต ๖๔ ราย เช่น การตายของพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง น.ส.กมลเกดอัคฮาด นายฟาบิโอ โปเลนชี นักข่าวชาวอิตาลีขอความเป็นธรรมให้เจ้าหน้าที่
นายธาริตเปิดเผยว่า จะพยายามแถลงข้อมูลให้ประชาชนทราบเป็นระยะ แต่เนื่องจากการเสียชีวิตของคนเหล่านี้เกิดขึ้นท่ามกลางการจลาจล เผาสถานที่สำคัญ เป็นเหตุสับสนวุ่นวายวิกฤติ การแสวงหาพยานหลักฐานจึงมีข้อจำกัด อีกทั้งต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยเฉพาะทหารที่เข้าปฏิบัติการกระชับและขอคืนพื้นที่ เพื่อแก้ไขสถานการณ์นำความสงบสู่สังคมประเทศชาติโดยเร็ว การสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินย่อมเกิดขึ้นได้ ฝ่ายทหาร ตำรวจเองก็เสียชีวิตจำนวนมาก ส่วนการเสียชีวิตของฝ่าย นปช.ต้องสอบสวนเป็นรายๆ กรณีไป หากฝ่ายทหารได้กระทำไปด้วยความจำเป็นป้องกันเพื่อระงับเหตุร้ายวิกฤติดังกล่าว ก็จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายไม่เป็นความผิดหรือไม่ต้องรับผิด ซึ่งศาลจะเป็นผู้ชี้ขาดสุดท้ายขณะนี้ไม่ควรด่วนตัดสินความถูกผิด
"ผมขอเปรียบเทียบว่า หากบ้านเมืองถูกเพลิงไหม้ เจ้าหน้าที่ก็ต้องดับไฟ ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองก็ถูกเพลิงไหม้เป็นจุณ ก็เช่นเดียวกับเหตุการณ์โจรเผาบ้านเผาเมืองปล้นสะดมอย่างวิกฤติในครั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ทหารไม่เข้าไประงับเหตุก็จะเกิดมิคสัญญีเลวร้ายไปกว่านี้ ดังนั้นฝ่ายทหารควรได้รับความเป็นธรรมด้วยไม่ใช่ถูกฝ่าย นปช.ใส่ร้ายว่าฆ่าประชาชนอยู่ตลอดเวลา"นายธาริต กล่าว (จากหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๕๕)
วันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ จากรายงานข่าวของสื่อมวลชนที่เผยแพร่ทั่วไประบุว่า ผู้ต้องหา ๘ คนที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุและการเสียชีวิตของพี่ร่มเกล้า ได้รับการประกันตัว และปล่อยตัวชั่วคราวไป
วันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๕๕ – ดิฉันได้รับโทรสารเอกสารสรุปข้อเท็จจริงคดีพิเศษที่ ๖๑/๒๕๕๓ กรณีการเสียชีวิตของพันเอกร่มเกล้า ธุวธรรม จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (พลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก) โดยปรากฏข้อความสั้นๆ เพียงว่า คดีอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน ขณะนี้ยังไม่มีพยานหลักฐานใดที่จะทราบตัวคนร้ายในคดีนี้
ล่าสุดเมื่อคืนนี้ ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๕ ขณะดิฉันนั่งเครื่องบินกลับจากราชการภาคใต้ บังเอิญอ่านพบในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ว่า “ DSI รับไม่คืบชุดดำยิงร่มเกล้า ยังไม่สามารถหาพยานหลักฐานชี้ชัดถึงตัวผู้กระทำผิดหรือดำเนินคดีทางกฎหมายได้ นายธาริตยังกล่าวว่า DSI ได้จัดให้การเสียชีวิต ของพลเอกร่มเกล้า อยู่ในกลุ่มของการเสียชีวิตที่นาเชื่อว่ามาจากการกระทำของผู้ที่ไม่ได้ร่วมชุมนุม คือ กลุ่มชายชุดดำ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน
เพื่อนพี่น้องที่รักทุกท่าน สรุปสั้นๆ ก็คือว่า ปี ๒๕๕๓ จับคนร้ายได้และต่อมามีการประกันตัวไป ต้นปี ๒๕๕๔ DSI สรุปว่าคดีพี่ร่มเกล้าอยู่ในกลุ่มที่ ๑ คือ เสียชีวิตจากการกระทำของ นปช. แต่พอถึงต้นปี ๒๕๕๕ DSI กลับบอกว่ายังไม่มีพยานหลักฐานใดๆ ที่จะทราบตัวคนร้ายในคดีนี้ แค่นี้ดิฉันก็งงจะแย่แล้ว พอเห็นข่าวเมื่อคืนยิ่งเศร้าใจ มีการเปลี่ยนตัวผู้กระทำผิดว่าไม่ใช่กลุ่มผู้ชุมนุมแต่เป็นชายชุดดำไปแล้ว ไม่ทราบว่ามีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขการจัดกลุ่มตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ทำไมทิศทางคดีจึงเปลี่ยนแปลงได้มากขนาดนี้ อยากให้ DSI และท่านผู้เกี่ยวข้องได้ทบทวนอ่านสิ่งที่เคยแถลงไว้เองเมื่อ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๔ แล้วช่วยอธิบายแก่สังคมด้วยค่ะ
จะต้องพูดอีกกี่ครั้ง ดิฉันก็จะพูดว่า การเยียวยาและการนิรโทษกรรม มิอาจนำไปสู่ความปรองดองและสมานฉันท์ของคนในชาติได้ แต่ต้องเดินไปควบคู่กับการค้นหาข้อเท็จจริงและกระบวนการยุติธรรม ที่เป็นธรรม
+++++++++++++++++
ที่มา
https://www.facebook.com/notes/nicha-hiranburana-thuvatham/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%81-%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A7%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1/344341772283681+++++++++++++++++
อ่านแล้วหดหู่ใจมากๆ แต่ก็เข้าใจสภาวะบ้านเมืองตอนนี้มันก็คงจะเป็นไปในรูปแบบนี้
ต่อไปคนปกติชนคงต้องขุดรูอยู่กันแล้ว